ไอเอฟซีเผยผลการศึกษาเมืองที่เป็นมิตรต่อการทำธุรกิจ หรือลงทุน จากการจัดอันดับ183 ประเทศ พบว่า สิงคโปร์รั้งอันดับ 1 เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน ตามด้วย นิวซีแลนด์ และฮ่องกง ขณะที่ไทยติดอันดับที่ 12 ...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 9ก.ย. ว่า ฝ่ายความร่วมมือทางการเงินระหว่างประเทศ (IFC) หน่วยงานด้านกู้ยืมภาคเอกชนของธนาคารโลก (World Bank) เผยผลการศึกษาเรื่อง "ดูอิง บิสซิเนส 2010 : ปฏิรูปผ่านช่วงเวลายากลำบาก" จัดอันดับ 183 ประเทศ ที่เป็นมิตรต่อการทำธุรกิจหรือลงทุน วัดจากหลายปัจจัยรวมทั้งค่าใช้จ่ายและระยะเวลาการเริ่มธุรกิจ การดำเนินการและเลิกกิจการ การค้าพรมแดนและระบบภาษี พบว่าสิงคโปร์ รั้งอันดับ 1 เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน อันดับ 2 คือนิวซีแลนด์ ฮ่องกง และสหรัฐฯ ติดอันดับ 3 และ 4 ตามลำดับ โดยชาติที่ติด 10 อันดับแรก ยังไม่เปลี่ยนจากรายงานฉบับปีที่แล้ว ยกเว้นอังกฤษ สลับที่ 5 กับเดนมาร์กที่หล่นมาอยู่ที่ 6 นอกนั้นก็มีไอร์แลนด์ (7) แคนาดา (8) ออสเตรเลีย (9) และนอร์เวย์ (10)
การศึกษาของธนาคารโลกยังพบด้วยว่ารวันดา กลายเป็นชาติแรกในแถบซับซาฮาราของทวีปแอฟริกา มีชื่อเข้ามาติดกลุ่มอันดับต้นๆที่ปฏิรูปต้อนรับนักลงทุน นับแต่ธนาคารโลกเริ่มทำการศึกษาในปี 2546 พุ่งขึ้นจาก 76 มาอยู่อันดับ 67 หลังตัดทอนความล่าช้าระบบราชการเพื่อการเริ่มทำธุรกิจและขายทรัพย์สิน แก้ไขกฎหมายจ้างงานให้ยืดหยุ่นมากขึ้น ส่วนการจ่ายภาษีได้รับการปรับเปลี่ยนให้ง่ายเช่นกันชาติที่มีการปฏิรูประบบชั้นนำอื่นๆในรายงานประจำปีนี้ของ IFC ก็มี คีร์กีซสถาน มาซิโดเนีย เบลารุส ยูเออี มอลโดวา โคลอมเบีย ทาจิกิสถาน อียิปต์ และไลบีเรีย
ส่วนกลุ่มชาติเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ของโลกมีอันดับเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยจากปีก่อน คือ ญี่ปุ่น (อันดับ 15) เยอรมนี (อันดับ 25) จีน (อันดับ 89) และรัสเซีย (อันดับ 120) ขณะที่อินโดนีเซียเป็นชาติที่มีการปฏิรูปอย่างเห็นได้ชัดที่สุดในแถบเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก ส่วนประเทศไทยติดอันดับ 12 ด้านอันดับอื่นๆที่น่าสนใจ มาเลเซีย (23) และไต้หวัน (46)
รายงานของธนาคารโลกอีกส่วนหนึ่งที่เกี่ยวกับการปฏิรูปรับมือปัญหาเศรษฐกิจโลกถดถอยที่สำรวจในช่วง มิ.ย. 2551-พ.ค. 2552 ยังพบด้วยว่ามีกลุ่มประเทศทั่วโลก 131 ชาติ หันมาปฏิรูประบบเพื่อเอื้อต่อการทำธุรกิจและลงทุน หรือเพิ่มขึ้น 20% จากที่สำรวจพบเมื่อครั้งที่แล้ว.
...