บารัค โอบามา
เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก เผลอแป๊บเดียว “ปีมะโรง 2012” ผ่านไป กลายเป็น “ปีมะเส็ง 2013” ชีวิตยังคงต้องดำเนินตามวัฏจักร เพียงแต่จะมีสักกี่คนที่สามารถจารึกเรื่องราวประวัติศาสตร์ ทิ้งชื่อเสียงเรียงนามไว้ให้รุ่นลูกรุ่นหลานจดจำกันสืบไป
ในปีนี้ใครบ้างที่เป็นดาวเด่น ดาวดัง และผู้ทรงอิทธิพลของโลกกลมๆใบนี้ ทางทีมข่าวต่างประเทศหนังสือพิมพ์ “ไทยรัฐ” ขอรับใช้ท่านผู้อ่าน สรรหาคัดเลือกบุคคลที่ว่ามานำเสนอดังนี้
••••••
ฮอตไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ เมื่อ “ปาร์ค แจ ซาง” หรือ “ไซ” วัย 34 ปี เจ้าของท่าเต้นควบม้าที่โด่งดังไปทั่วโลก จนถึงขั้นมีผู้เสนอนิตยสารไทม์ให้วางตัวไซเป็นบุคคลแห่งปีของปี 2012 แต่สุดท้ายก็ชวดไป
อย่างไรก็ตาม ท่าเต้นในมิวสิกวีดิโอเพลง กังนัมสไตล์ของไซ ได้ทำลายกำแพงแห่งเสียงใดๆทั้งหมดในปีนี้และมีผู้เข้าชมมิวสิกวีดิโอเพลงกังนัมสไตล์บนยูทูบมากกว่า 1,000 ล้านครั้ง แม้นักร้องชายอย่างไซจะไม่หล่อ แถมรูปร่างยังเข้าขั้นอ้วนท้วมคล้ายอาเสี่ย แต่เพลงนี้มีจังหวะที่มันส์หยด ลีลาท่าแดนซ์พลิ้วไหวถึงใจ ทำให้เพลงนี้กลายเป็นเพลงฮิตติดหูชาวโลกอย่างรวดเร็ว จนมีผู้ทำคลิปวีดิโอเลียนแบบท่าเต้นฮอร์สแดนซ์ไปทั่วโลก แถมยังแปลงเนื้อเพลงเอาฮาเข้าว่า อย่างมิตต์ รอมนีย์ สไตล์ หรือแม่บ้าน สไตล์
••••••
...
และก็กลับมาครองเก้าอี้ทรงอำนาจตามคาด สำหรับ “บารัค โอบามา” ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาสมัยที่ 2 ดำรงตำแหน่งยาวไปอีก 4 ปี
แถมยังได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารไทม์ให้เป็นบุคคลแห่งปีอีกด้วย แต่อย่างคำกล่าวในภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่ พลังอันยิ่งใหญ่มาพร้อมกับความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง ปัญหาที่รอเจ้าตัวอยู่เบื้องหน้านั้นมีมากมายก่ายกอง เศรษฐกิจภายในประเทศที่กำลังมีปัญหาวิกฤติหน้าผาการคลัง ฟิสคัล คลิฟฟ์ ที่สรุปสั้นๆก็คือการที่ระบบการคลังจะต้องตัดงบประมาณและเพิ่มภาษีโดยอัตโนมัติ เพื่อลดหนี้ของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งการตัดโดยอัตโนมัติครั้งนี้ก็มีสิทธิสูงที่เศรษฐกิจอาจกลับสู่ภาวะถดถอยอีกครั้ง การสะสางปัญหาความมั่นคงในต่างแดน เช่น การถอนทหารออกจากอัฟกานิสถาน การรับมือปัญหาก่อการร้าย
••••••
เป็นข่าวที่น่ายินดีเมื่อ “ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์” หรือที่คนทั่วไปรู้จักในนามเจ้าหญิงเคท พระชายาในเจ้าชายวิลเลียม รัชทายาทอันดับ 2 ของอังกฤษทรงพระครรภ์ โดยเบื้องต้นเจ้าหญิงมีอาการแพ้ท้องอย่างรุนแรงจนต้องเข้ารักษาพระวรกายที่โรงพยาบาลคิง เอ็ดเวิร์ด ที่ 7 โดยมีเจ้าชายวิลเลียมคอยดูแลพระชายาอย่างห่วงใยและอาการดีขึ้นตามลำดับแล้ว ข่าวนี้สร้างความดีใจให้กับราชวงศ์อังกฤษและชาวโลกเป็นอย่างยิ่ง คาดว่าทายาทของเจ้าชายวิลเลียมน่าจะได้รับการเลี้ยงดูไม่ต่างจากเด็กทารกทั่วไป เฉกเช่นที่เจ้าชายวิลเลียมทรงเติบโตมา แต่ที่แน่นอนก็คือปีหน้าพวกเราคงได้ยลโฉมรัชทายาทน้อยชัวร์ๆ
••••••
ที่พลาดไม่ได้เลย คือหญิงเหล็กแห่งยุควิกฤติเศรษฐกิจ “แองเกลา แมร์เคิล” นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ที่ในเพลานี้เปรียบเสมือนเสาหลักคนสำคัญ ที่คอยค้ำยันไม่ให้เศรษฐกิจกลุ่มยูโรโซน ชาติที่ใช้เงินสกุลยูโรในยุโรปมีอันต้องพังครืน
เพราะในช่วงปีที่ผ่านมา เยอรมนีได้กลายเป็นเหมือนลูกพี่ใหญ่ในยุโรปไปแล้ว คอยช่วยส่งเงินในสัดส่วนที่มากกว่าใครเพื่อน เข้ากองทุนรักษาเสถียรภาพต่างๆที่คอยทำหน้าที่ปล่อยเงินกู้แก่ประเทศที่ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างหนักเข้าขั้นหวิดล้มละลายอย่างอิตาลี สเปน กรีซ ฯลฯ หากคิดง่ายๆก็คือตอนนี้นานาประเทศก็ต่างเป็นลูกหนี้ของเยอรมนีทั้งนั้น
••••••
...
ข้ามจากยุโรปมาดูเอเชียของเราบ้าง ไม่มีใครแล้วที่จะเด่นเกิน “สี จิ้นผิง” ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่เพิ่งได้รับเลือกขึ้นมาเมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ให้มาจัดการบริหารสานต่อจากหู จิ่นเทา ซึ่งจะสับเปลี่ยนอำนาจอย่างเป็นทางการในเดือน มี.ค.ปีหน้า
ภาระที่เจ้าตัวต้องแบกรับนั้นมีมากมายสารพันปัญหา การคอรัปชันที่ฝังรากลึกในระบบการเมืองส่วนกลางและการเมืองท้องถิ่น ประกอบกับเรื่องเศรษฐกิจจีนที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีบรรดาเกจิทั้งหลายมองว่าเป็นการเติบโตที่เร็วเกินไป ไปจนถึงเรื่องความมั่นคง ข้อพิพาทหมู่เกาะทะเลจีนใต้กับฟิลิปปินส์ เวียดนาม มาเลเซีย ที่ทางคู่ปรับอย่างสหรัฐฯก็หวังเข้ามามีอิทธิพลด้วยในปีหน้า
••••••
...
ติดกับบ้านเรา “เต็ง เส่ง” ประธานาธิบดีพม่า ได้กลายเป็นจุดสนใจของโลกในปีนี้ หลังได้เดินหน้าปฏิรูปประเทศอย่างแข็งขัน โดยเฉพาะไม้ตายปลดล็อกออง ซาน ซูจี ให้กลับมาเคลื่อนไหวทางการเมืองได้อีกครั้ง ทั้งยังให้เข้ามานั่งในสภาในฐานะแกนนำฝ่ายค้าน
แผนการนี้นับว่าเต็ง เส่ง เดินเกมได้อย่างชาญฉลาดมาก เพราะถือเป็นการสร้างความชอบธรรมทางการเมือง โละภาพรัฐบาลเผด็จการทหารในเวทีโลกไปอย่างสิ้นเชิง และเสมือนบีบบังคับชาติตะวันตกกลายๆให้ไม่มีข้ออ้างมาเล่นงานคว่ำบาตรพม่าได้อีก ดูได้จากพี่ใหญ่อย่างสหรัฐฯเอง หรือชาติในยุโรปต่างๆก็ผ่อนคลายมือที่บีบคอพม่าไว้ทั้งสิ้น แถมรีบวิ่งเข้ามาโอบไหล่ หวังกอบโกยผลประโยชน์ทางทรัพยากรกันอย่างกระวีกระวาด
••••••
นสพ.ยักษ์ใหญ่ของจีน พีเพิล เดลี หน้าแตก หลงเชื่อว่า “คิม จอง อึน” ผู้นำอายุน้อยของเกาหลีเหนือเป็นชายที่เซ็กซี่ที่สุดประจำปีนี้ตามที่เว็บไซต์ข่าวเสียดสีล้อเลียนของอเมริกา ดิ ออนเนียน รายงานออกมาว่า คิม จอง อึน เป็นชายหนุ่มที่เซ็กซี่ เนื่องจากมีความหล่อเหลา ใบหน้ากลมอวบอิ่ม ขวัญใจชาวเปียงยางรายนี้คือฝันที่เป็นจริงของผู้หญิงทุกคน นอกจากชาวโลกจะสนใจผู้นำเกาหลีเหนือแล้ว ยังอยากรู้ด้วยว่าภริยาของเขาคือใคร? เธอคือ “รี ซอล จู” วัย 23 ปี เคยเรียนร้องเพลงที่ประเทศจีน และเคยเดินทางมาที่เมืองอินชอน ทางภาคตะวันตกของกรุงโซล ในปี 2005 ในฐานะหนึ่งในทีมเชียร์ลีดเดอร์ของเกาหลีเหนือในการแข่งขันกีฬาชิงแชมป์แห่งเอเชียอีกด้วย
••••••
...
คลื่นลูกใหม่ไฟแรง (ผิดกับอายุ 60 ปี) “ปาร์ค กึน เฮ” ได้กลายเป็นอีกหนึ่งจุดสนใจในทวีปเอเชีย หลังเพิ่งได้รับเลือกขึ้นสู่ตำแหน่งว่าที่ประธานาธิบดีเกาหลีใต้แทนลี เมียง บัค ไปสดๆร้อนๆ
สร้างประวัติศาสตร์บทใหม่ให้กับการเมืองโสมขาว ที่ตลอด 64 ปี ไม่เคยมีสตรีคนใดได้ขึ้นเป็นผู้นำมาก่อน อย่างไรก็ตาม ต้องมารอดูกันปีหน้า ว่าเจ้าตัวจะลบความวิตกกังวลของประชาชนเกาหลีใต้บางส่วนที่กลัวว่าผู้นำหญิงคนใหม่นี้จะพยายามรวบอำนาจเบ็ดเสร็จ อย่างบิดานายพลปาร์ค จุง ฮี อดีตผู้นำเผด็จการเกาหลีใต้ ที่บริหารประเทศในช่วงปี 1961-1979 หรือไม่
••••••
สำหรับภูมิภาคตะวันออกกลางที่มีความเปราะบางมากที่สุดในโลกปัจจุบันนี้ ผู้ที่ได้กลายเป็นจุดศูนย์กลางอย่างหนีไม่พ้นคือ “โมฮัมเหม็ด มอร์ซี” ประธานาธิบดีอียิปต์ ที่ได้รับการเลือกตั้งจากประชาชนขึ้นมาเป็นผู้นำคนใหม่ คล้อยหลังเหตุการณ์ปฏิวัติดอกมะลิ โค่นผู้นำเผด็จการฮอสนี มูบารัค เพราะนอกจากการที่เจ้าตัวต้องคอยจัดการรักษาความสงบภายในประเทศหลังการปฏิวัติ แบ่งรับแบ่งสู้การแก้ไขรัฐธรรมนูญจากฝ่ายที่ต้องการเพิ่มอำนาจอิสลามกับฝ่ายแนวคิดเสรีแล้ว ยังต้องทำหน้าที่กุมบังเหียนปาเลสไตน์กลุ่มฮามาสไม่ให้ไปพะบู๊กับอิสราเอลอีก
อีกรายก็คือ “บาชาร์ อัล อัสซาด” ผู้นำเผด็จการซีเรียที่มีลูกอึดเป็นที่หนึ่ง ขนาดถูกกดดันจากนานาชาติ รวมถึงประชาชนในประเทศที่ถึงขั้นจับอาวุธขึ้นสู้ทำสงครามกลางเมืองแล้ว อัสซาดก็ยังครองอำนาจไว้ได้อย่างเหนียวแน่น แต่ก็แลกกับชีวิตชาวบ้านและทหารกว่า 40,000 ศพ ที่นับวันยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
••••••
ส่วนคนวงการบันเทิงปีนี้ก็มีตัวเลือกมากมายล้นฟ้า แต่คงหนีไม่พ้นพระเอกหนุ่มหุ่นล่ำ “แชนนิ่ง ทาทั่ม” วัย 32 ที่ขึ้นแท่นหนุ่มเซ็กซี่ที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่ของปี 2012 จากการจัดอันดับของนิตยสาร พีเพิล ซึ่งสาวๆตลอดไปจนถึงหนุ่มๆด้วยกัน หากดูหนังเรื่อง Magic Mike คงจะเห็นด้วยว่าหนุ่มแชนนิ่งเหมาะ สมกับตำแหน่งนี้มากที่สุด เพราะเขาโชว์ซิกซ์แพ็กละลายใจสาว ในบทนักเต้นระบำเปลื้องผ้า ซึ่งหนังสร้างจากประวัติชีวิตเสี้ยวหนึ่งในอดีตเขาที่เคยทำงานนี้ก่อนที่จะเข้าวงการบันเทิงจริงๆ สำหรับดาราหนุ่มที่เคยขึ้นแท่นหนุ่มเซ็กซี่ของพีเพิลมาแล้ว ได้แก่ จอร์จ คลูนีย์ แบรด พิตต์ จอห์นนี่ เดปป์ และแบรดลีย์ คูเปอร์ เป็นต้น
••••••
ยิ่งเป็นคุณแม่ ก็ยิ่งราศีจับ เมื่อนิตยสารพีเพิลยกย่องให้ “บียอนเซ่” นักร้องสาวชาวอเมริกัน วัย 30 ปี และภรรยาของเจย์ ซี เจ้าพ่อฮิพฮอพ เป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดจากการจัดอันดับประจำปี 2012 ในขณะเดียวกัน ทางด้านนิตยสารเอสไควร์ เลือกให้ “มิลา คูนิส” นักแสดงสาวชาวอเมริกันเชื้อสายยูเครนวัย 29 ปี ครองแชมป์สาวสุดเซ็กซี่ของปีนี้ โดยเอสไควร์ฉบับกันยายนจับเธอมาขึ้นปกแบบโนบรา บรรยายถึงเธอว่าเป็นดาราหนังที่สนุกสนาน ช่างเจรจา มีความคิดเป็นของตนเอง แต่ปัจจุบันเธอยังไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน ใครคิดว่าตัวเองเจ๋งพอ เชิญบินไปทดลองจีบได้
••••••
ขอจบไว้ ณ ที่นี้ สิ้นปีมะเส็งค่อยมาพบกันใหม่ ขอให้มีความสุขในวันฉลองรับปีใหม่ 1 ม.ค.พรุ่งนี้นะค้า.
ทีมข่าวต่างประเทศ