สื่อต่างประเทศรายงานยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัยครั้งเลวร้ายที่สุด ในรอบมากกว่าครึ่งศตวรรษของไทย ได้เพิ่มจำนวนเป็นอย่างน้อย 657 รายแล้ว โดยพบข้อมูลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมืองหลวงเก่าของไทย ถือเป็นจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด ขณะที่ "เดวิด แม็คคอลีย์" ผู้เชี่ยวชาญด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ประจำธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย ระบุ ถึงเวลาแล้วที่ประเทศในเอเชีย จะต้องเตรียมแผนรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติในระยะยาว แทนการคอยแก้ปัญหาแบบปีต่อปี...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัยครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบมากกว่าครึ่งศตวรรษของไทย ได้เพิ่มจำนวนเป็นอย่างน้อย 657 รายแล้ว โดยพบข้อมูลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมืองหลวงเก่าของไทย ถือเป็นจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด
รายงานข่าวของสื่อต่างประเทศหลายสำนักระบุว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่กินระยะเวลานานกว่า 4 เดือนและสร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ 64 จาก 77 จังหวัดในประเทศไทย ได้เพิ่มเป็นอย่างน้อย 657 รายแล้ว และยังมีผู้สูญหายอีกอย่างน้อย 3 ราย โดยในจำนวนนี้เป็นผู้เสียชีวิตในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มากที่สุดถึง 139 คน รองลงมาคือ จังหวัดนครสวรรค์ ที่มีผู้เสียชีวิต 72 คน
...
ขณะที่ เดวิด แม็คคอลีย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ประจำธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ออกมาระบุว่า เหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่ในประเทศไทย ถือเป็นการส่งสัญญาณเตือนทั้งรัฐบาลไทยและรัฐบาลของประเทศต่างๆ ในภูมิภาคให้หันมาตระหนักถึงผลกระทบจากภาวะโลกร้อนและภัยธรรมชาติให้มากยิ่งขึ้น และถึงเวลาแล้วที่ประเทศในเอเชียจะต้องเตรียมแผนรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติในระยะยาว แทนการคอยแก้ปัญหาแบบปีต่อปี.