สื่อต่างประเทศรายงาน เหตุน้ำท่วมครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปีในประเทศไทยอาจสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจสูงถึง 16,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 500,000 ล้านบาท เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงและศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญของไทยอาจถูกน้ำท่วมในหลายพื้นที่...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 31 ต.ค. ว่า  เหตุน้ำท่วมครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปีในประเทศไทย อาจสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจคิดเป็นวงเงินสูงถึง 16,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 500,000 ล้านบาท

รายงานของสื่อต่างประเทศหลายสำนักระบุว่า เหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่ในไทยซึ่งสร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ 63 จังหวัดจากทั้งหมด 77 จังหวัด ตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา  อาจสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจสูงถึง 500,000 ล้านบาท  ซึ่งสูงกว่าการประเมินของทางการไทยก่อนหน้านี้ที่ระบุ มูลค่าความเสียหายอาจอยู่ที่ราว 140,000 ล้านบาท  เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเมืองหลวงและศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญของไทยอาจถูกน้ำท่วมในหลายพื้นที่  หลังมีข้อมูลว่า มวลน้ำที่กำลังไหลเข้าสู่กรุงเทพฯ มีปริมาณระหว่าง 4,000 - 15,000 ล้านลูกบาศก์เมตร  ขณะที่ศักยภาพในการระบายน้ำของกรุงเทพฯ มีเพียง 200-300 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวันเท่านั้น

ในอีกด้านหนึ่ง บริษัทฮอนด้า มอเตอร์ ผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่นมีผลกำไรรายไตรมาสลดลงถึง 56 เปอร์เซ็นต์ โดยสาเหตุหลักมาจากการแข็งค่าของเงินเยน การหยุดชะงักของการผลิตหลังเหตุแผ่นดินไหว-สึนามิในญี่ปุ่นครั้งใหญ่เมื่อ 11 มี.ค. ยังไม่รวมผลกระทบจากเหตุน้ำท่วมในไทย

รายงานข่าวซึ่งอ้างคำแถลงผลประกอบการของฮอนด้าระบุว่า กำไรสุทธิของบริษัทในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ลดลงเหลือ 60,400 ล้านเยน  หรือราว 23,765 ล้านบาท โดยยอดขายของฮอนด้าในทวีปอเมริกาเหนือลดลงมากที่สุดถึง 22.3 เปอร์เซ็นต์

ขณะเดียวกัน เหตุน้ำท่วมครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 50 ปีที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ถือเป็นปัจจัยลบเพิ่มเติมที่ทำให้ทางบริษัทยังไม่อาจประเมินความเสียหาย รวมถึง ตัวเลขผลประกอบการในปีการเงินที่จะสิ้นสุดในเดือน มี.ค. ปีหน้าได้แน่ชัด เนื่องจากไทยถือเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของฮอนด้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ทั้งนี้ มีข้อมูลว่า เหตุน้ำท่วมใหญ่ในไทยส่งผลให้มีบริษัทญี่ปุ่นได้รับผลกระทบราว 460 แห่ง รวมถึง มีบริษัทของสหรัฐฯ และยุโรปอีกกว่า 260 แห่งได้รับความเสียหาย.

...