สำนักข่าวเอพี เผย กัมพูชาอ้างไทยใช้กระสุนปืนใหญ่ บรรจุแก๊สพิษ ยิงถล่มทหารกัมพูชา โดยข้อกล่าวหาดังกล่าวยังไม่ได้รับการพิสูจน์ 'ฮอร์ นัมฮง' ยืนกราน ให้คนกลางช่วยไกล่เกลี่ย ขณะ รมว.กลาโหมเขมร เรียกร้องไทยหยุดยิงถาวร...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน เมื่อวันเสาร์ 23 เม.ย. เกิดการยิงปะทะกันระหว่างทหารไทยกับกัมพูชาอีก บริเวณพื้นที่แถบชายแดนใกล้ปราสาทตาเมือนธม และตาควาย ในจังหวัดสุรินทร์ หรือ อยู่ห่างปราสาทเขาพระวิหารไปทางตะวันตกราว 150 กม. เหตุรุนแรงเกิดขึ้น ตั้งแต่ช่วงรุ่งสางเช้าวันเสาร์ กองกำลังทหารทั้งสองฝ่ายระดมยิงปืนใหญ่ และ ปืนขนาดเล็กเข้าใส่กันอย่างหนักหน่วง ใช้เวลานานหลายชั่วโมง โดยเมื่อช่วงเที่ยงวันของวันเสาร์ ยังได้ยินเสียงปืนในพื้นที่ดังเป็นระยะ ๆ นายทหารฝ่ายไทยระบุทหารไทยเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 13 นาย ฝ่ายกัมพูชาไม่เปิดเผยตัวเลขความสูญเสีย แต่ผู้สื่อข่าวใกล้พื้นที่สู้รบอ้างว่าทหารกัมพูชาเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 2 นาย

ขณะที่สำนักข่าวเอพีอ้างว่า เหตุปะทะกันรุนแรงระหว่างทหารไทยกับกัมพูชาตั้งแต่วันศุกร์ ทำให้ทหารของทั้งสองประเทศเสียชีวิตรวมแล้วอย่างน้อย 10 ราย บาดเจ็บมากกว่า 32 นาย ชาวบ้านในพื้นที่สู้รบต้องอพยพหนีความรุนแรงหลายพันคน ถือเป็นเหตุปะทะนองเลือดรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่สหประชาชาติเรียกร้องให้ไทยกับกัมพูชาหยุดยิงมาตั้งแต่เดือนก.พ.ที่ผ่านมานอกจากนั้น

สำนักข่าวเอพีรายงานอีกว่า ฝ่ายกัมพูชากล่าวหากองทัพไทยใช้กระสุนปืนใหญ่บรรจุแก๊สพิษ ยิงถล่มทหารกัมพูชา แต่ข้อกล่าวหาดังกล่าวยังไม่ได้รับการพิสูจน์ยืนยันและฝ่ายไทยปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวด้วย

ขณะที่ นายฮอร์ นัมฮง รมว.ต่างประเทศกัมพูชา กล่าวถึงการสู้รบปะทะครั้งใหม่ ระหว่างทหารไทย กับ กัมพูชา คือ พฤติกรรมเจตนารุกรานกัมพูชาของฝ่ายไทย พร้อมทั้งยืนกรานเรียกร้องให้คนกลาง จากภายนอกเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ยยุติความรุนแรง แต่ฝ่ายไทยไม่ต้องการให้บุคคลที่ 3 เข้ามายุ่งเกี่ยวแทรกแซง ส่วน รมว.กลาโหมกัมพูชา ประนามเหตุรุนแรงครั้งนี้อย่างแข็งกร้าวเช่นกัน โดยระบุถึงฝ่ายไทย ก่อพฤติกรรมรุกรานกัมพูชาซ้ำแล้วซ้ำเล่า พร้อมเรียกร้องให้ฝ่ายไทยหยุดยิงถาวรเพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาพรมแดนระหว่างกันขั้นต่อไป

...