ลี เมียง-บัค / คิม กวาน-จิน
เกาหลีเหนือพลิกบทบาทไม่ตอบโต้รุนแรง แม้เกาหลีใต้ซ้อมสู้รบกระสุนจริงกับสหรัฐฯ พร้อมยอมให้ยูเอ็นตรวจสอบโรงงานนิวเคลียร์ และกลับมาร่วมเจรจา 6 ฝ่ายอย่างไม่คาดคิด ขณะที่กลาโหมโสมขาวยืนยันพร้อมสู้รบทันที หากคู่กัดแสดงพฤติการณ์ก้าวร้าวอีก...
เมื่อ 21 ธ.ค. นายคิม กวาน-จิน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ เผยในที่สภาว่า ถือเป็นห้วงวิกฤติของการปกป้องประเทศชาติที่ร้ายแรงสุดนับแต่เกิดสงครามเกาหลีช่วงปี 2493-2496 ซึ่งกองทัพเกาหลีใต้ยังคงให้เรือรบพิฆาตลอยกลางทะเลกับเครื่องบินรบบินทั่วน่านฟ้า เพื่อเตรียมพร้อมสู้รบกับเกาหลีเหนือที่อาจกลับไปมีพฤติกรรมยั่วยุลอบยิงถล่มอีก ส่วนประธานาธิบดี ลี เมียง-บัค แห่งเกาหลีใต้ ประชุมกับกลุ่มที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติเพื่อวางกลยุทธ์ทหาร หลังรัฐบาลเกาหลีเหนือพลิกบทบาทการแสดงท่าทีไม่โต้ตอบขั้นรุนแรงตามที่ข่มขู่เกาหลีใต้ ที่ปฏิบัติการซ้อมรบทางทะเลบนเกาะยอนเปียง อีกทั้งยังเผยถึงเจตนาที่จะให้ทางสำนักงานพลังงานปรมาณูสากล (ไอเออีเอ) ของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เข้าตรวจสอบโรงงานผลิตพลังงานนิวเคลียร์ว่าไม่ได้ผลิตอาวุธนิวเคลียร์ หลังขับไล่เจ้าหน้าที่ไอเออีเอออกพ้นประเทศก่อนหน้านี้ รวมถึงกลับเข้าร่วมการเจรจา 6 ฝ่ายอีกรอบอย่างที่ทั่วโลกแทบไม่คาดฝัน
นอกจากนี้ นางเจียง หยู โฆษกประจำกระทรวงการต่างประเทศจีน มองถึงสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีว่า "ยังซับซ้อน" และขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอยู่ในความสงบ ฝึกใช้ความอดทนอดกลั้นและปรับทัศนคติการสนองตอบกลับเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมซ้ำ ส่วนการประชุมเร่งด่วนในระดับทูต 6 ฝ่ายก็ยังต้องรีบจัดการ ถือเป็นข้อเสนอของจีนเหมือนคราวหลังเกาหลีเหนือยิงถล่มเกาะยอนเปียงเมื่อ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี นางหยูก็เรียกร้องให้เกาหลีเหนือ ประเทศพันธมิตรยอมให้เจ้าหน้าที่ไอเออีเอเข้าตรวจสอบโรงงานนิวเคลียร์ เพราะเกาหลีเหนือก็มีสิทธิ์ที่จะใช้ พลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ อีกทั้งทุกฝ่ายควรตระหนักไว้ว่าอาวุธร้ายแรงกับกำลังทหารไม่สามารถแก้ปัญหาบนคาบสมุทรเกาหลีได้ นอกจากการเจรจาและความร่วมมือกัน
...
ขณะเดียวกัน นายบิลล์ ริชาร์ดสัน ผู้ว่าการรัฐนิวเม็กซิโก ซึ่งเดินทางเยือนเกาหลีเหนือเป็นการส่วนตัวตลอด 6 วัน และเพิ่งกลับมาถึงสนามบินกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เผยด้วยการชื่นชมเกาหลีเหนือที่ใช้ความอดทนอดกลั้นไม่โต้กลับเกาหลีใต้
นายริชาร์ดสันยังระบุว่าเกาหลีเหนือยังพิจารณา ถึงข้อเสนอที่จะตั้งศูนย์ฮอตไลน์กองทัพกับเกาหลีใต้ และตั้งคณะกรรมการทางทหารเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ตามเขตแดนพิพาททางทะเลตะวันตก อนึ่งริชาร์ดสันเคยเป็นอดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำยูเอ็น ซึ่งคอยทำหน้าที่เป็นทูตอย่างไม่เป็นทางการให้กับเกาหลีเหนือ เคยเดินทางเยือนเกาหลีเหนือหลายครั้ง รวมถึงการเจรจาปล่อยตัวชาวอเมริกันเมื่อปี 2539.