แจ้งดำเนินคดีฉ้อโกงนายกฯ-โต้ง-บุญทรง

ชาวนาเพชรบูรณ์แจ้งความตำรวจดำเนินคดี “ยิ่งลักษณ์” “กิตติรัตน์” และ “บุญทรง” ฐานฉ้อโกงประชาชน ขณะที่ม็อบชาวนาพิจิตรบานปลายร่วมกลุ่ม กปปส.ยกขบวนปิดล้อมศาลากลางจังหวัด  เรียกร้องข้าราชการหยุดงานร่วมขับไล่รัฐบาล กลุ่มชาวนาอุตรดิตถ์ชุมนุมปิดทางหลวงหมายเลข 11 เส้นทางเชื่อมภาคเหนือ-ภาคกลาง ทั้ง 2 ฝั่งรถผ่านไม่ได้สิ้นเชิง ที่เชียงรายกลุ่มชาวนาและเกษตรกรผู้ปลูกข้าวบุกศาลากลางจังหวัดเรียกร้องให้รัฐบาลกำหนดวันจ่ายเงินแก่เกษตรกรให้ชัดเจน ด้านสหภาพแรงงาน  ธ.ก.ส.นัดแต่งชุดดำคัดค้านนำเงินสภาพคล่องไปใช้ในโครงการจำนำข้าว ขู่ขับไล่บอร์ด ธ.ก.ส.หากนำเงินไปใช้ในโครงการดังกล่าว

จากกรณีกลุ่มชาวนา จ.พิจิตร กำแพงเพชร นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ และพิษณุโลก ชุมนุมปิดถนนสาย 117 พิษณุโลก-นครสวรรค์ ขาล่อง บริเวณสี่แยกโพธิ์ไทรงาม อ.บึงนาราง จ.พิจิตร ทวงเงินโครงการจำนำข้าวฤดูกาลผลิต 56/57 ที่ค้างจ่ายนานร่วม 5 เดือนแล้ว ก่อนจะเคลื่อนขบวนไปปักหลักหน้าที่ว่า การอำเภอบึงนาราง ขณะที่กลุ่มชาวนาอีกกลุ่ม ร่วมกับกลุ่ม กปปส.พิจิตร ปิดล้อมศาลากลางจังหวัดพิจิตร กดดันไม่ให้ข้าราชการเข้าทำงานตามปกติ โดยนำ เต็นท์มากางและนำรถเทรเลอร์จอดบริเวณประตูทางเข้าตั้งเป็นเวทีปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาล

ความคืบหน้าการชุมนุมกลุ่มชาวนาภาคเหนือเมื่อเช้าวันที่ 20 ม.ค. กลุ่มชาวนา จ.พิจิตร และ กปปส. ทยอยเดินทางไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มชาวนาภาคเหนือตอนล่าง นำโดยนายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ประธานเครือข่ายชาวนาภาคเหนือตอนล่าง และกลุ่ม กปปส.พิจิตร นำโดยนายนิพนธ์ จันทเวช เลขาธิการ กปปส.พิจิตร และนายเตชิต รัชตรุ่งโรจน์ ผู้ประสานงาน กปปส.พิจิตร ที่ปักหลักบริเวณประตูทางเข้าศาลากลางจังหวัดพิจิตร ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยผู้ชุมนุมเปิดปราศรัยโจมตีรัฐบาลเรียกร้องให้จ่ายเงินให้ชาวนาที่เข้าโครงการจำนำข้าว พร้อมเรียกร้องให้นายสุรชัย ขันอาสา ผวจ.พิจิตร เดินทางมาชี้แจงกับผู้ชุมนุม

กระทั่งเวลา 12.30 น. ผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งขึ้นรถยนต์เดินทางไปที่บ้านพักของนายสุรชัย ขันอาสา ผวจ.พิจิตร เรียกร้องให้เลิกทำงานให้รัฐบาลและออกมาชี้แจงกับชาวนา แต่นายสุรชัยไม่ได้อยู่ในบ้านพัก ผู้ชุมนุมจึงเคลื่อนขบวนไปที่ว่าการ อ.เมืองพิจิตร แล้วปราศรัยผ่านรถเครื่องขยายเสียงเรียกร้องให้ข้าราชการหยุดทำงานและไปร่วมชุมนุมขับไล่รัฐบาลที่หน้าศาลากลางจังหวัด ก่อนเดินทางกลับไปที่หน้าศาลากลางจังหวัดพิจิตร ขณะที่กลุ่มชาวนาที่ปักหลักหน้าที่ว่าการอำเภอบึงนาราง นำโดยนายประกาศิต แจ่มจำรัส นายก อบต.ท้ายน้ำ อ.โพทะเล ได้เดินทางด้วยรถทางการเกษตร รถปิกอัพและรถเครื่องขยายเสียง เคลื่อนขบวนไปสมทบกลุ่มผู้ชุมนุมที่หน้าศาลากลางจังหวัดพิจิตรเช่นเดียวกัน

ตอนสายวันเดียวกัน ที่สี่แยกหนองกวาง บ้านหนองกวาง หมู่ 2 ต.นายาง อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ กลุ่มชาวนา 7 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ตรอน ทองแสนขัน พิชัย ท่าปลา น้ำปาด ฟากท่า และ อ.บ้านโคก จำนวนกว่า 2,000 คน นำรถอีแต๋นและรถบรรทุกหกล้อ ร่วม 200 คัน มาจอดปิดถนนทางหลวงหมายเลข 11 บริเวณสี่แยกหนองกวาง รอยต่อระหว่างอุตรดิตถ์-พิษณุโลก ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางเชื่อมระหว่างภาคเหนือ-ภาคกลาง พร้อมตั้งเต็นท์กลางถนน ทำให้รถไม่สามารถผ่านได้อย่างสิ้นเชิง

นายจีรพงษ์ แป้นเพ็ชร ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตร ต.นายาง และ ต.นาอิน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ แกนนำผู้ชุมนุมกล่าวว่า ชาวนาทั้ง 7 อำเภอ เดือดร้อนอย่างหนักเนื่องจาก ธ.ก.ส.ต้องจ่ายเงินในโครงการจำนำข้าวให้ชาวนาประมาณ 4 พันกว่าล้านบาท แต่ทาง ธ.ก.ส.จ่ายให้ชาวนาได้เพียง 700 กว่าล้านบาท และใบประทวนที่ยังไม่ได้ออกให้ชาวนาอีกเกือบ 26,000 ราย ทำให้ชาวนาไม่มีเงินใช้จ่าย บางรายต้องกู้เงินนอกระบบมาใช้ ยืนยันจะรวมตัวปิดถนนจนกว่ารัฐบาลจะส่งคนมาเจรจาให้เป็นที่พอใจกับชาวนาและกลุ่มเกษตรกร ซึ่งการปิดถนนครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับการเมืองหรือกลุ่ม กปปส.แต่อย่างใด

ขณะเดียวกัน ที่หน้าศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายชัยธวัช สิทธิสม ประธานเครือข่ายเกษตรกรจังหวัดเชียงราย และผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 พรรคชาติไทยพัฒนา นำเกษตรกรผู้ปลูกข้าวและข้าวโพดจำนวน 2,000 คน เปิดปราศรัยทวงถามเงินจำนำข้าวเปลือกที่ยังค้างจ่าย 22,000 ราย มูลค่า 2,900 ล้านบาท และเงินจำนำข้าวโพด 12,000 ราย มูลค่า 290 ล้านบาท ยื่นคำขาดให้รัฐบาลกำหนดวันจ่ายเงินอย่างชัดเจน พร้อมประกาศจะชุมนุมยืดเยื้อและจะยกระดับการชุมนุมขึ้นจนกว่าจะได้รับคำตอบ โดยมีกลุ่มเกษตรกรจาก อ.พาน แม่จัน เทิง เวียงชัย เชียงแสน แม่สรวย เวียงป่าเป้า แม่ลาว เทิง ขุนตาล ป่าแดด และ อ.เมืองเชียงราย ได้ทยอยเข้ามาร่วมชุมนุมอย่างต่อเนื่อง

บ่ายวันเดียวกัน ที่หน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเพชรบูรณ์ อ.เมืองเพชรบูรณ์ นายสุชาติ ราษฎร์ดุษฎี รอง ผวจ.เพชรบูรณ์ ตัวแทนจากการค้าจังหวัด ตัวแทนจาก ธ.ก.ส.เพชรบูรณ์ เข้ารับหนังสือจากกลุ่มชาวนากว่า 400 คน ชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งจ่ายเงินจากโครงการจำนำข้าวให้แก่ชาวนาภายในวันที่ 25 ม.ค. และให้รัฐบาลประสานงานกับ ธ.ก.ส.เพื่อให้อนุมัติเงินกู้ไม่มีดอกเบี้ยให้ชาวนารายละ 50,000 บาท หากรัฐบาลบิดพลิ้วจะยกระดับการชุมนุมด้วยการปิดถนนสายสระบุรี-หล่มสักแน่นอน จากนั้นชาวนา 15 คน เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.นิวัฒน์ คัณธานันท์ พงส.สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ขอให้ดำเนินคดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รมว.คลัง และนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน โดยผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 3 คนได้แสดงข้อความอันเป็นเท็จ โดยแจ้งแก่ชาวนาให้นำข้าวเปลือกไปจำนำกับองค์การตลาดเพื่อการเกษตร และองค์การคลังสินค้า โดยผู้ถูกกล่าวหารู้อยู่แล้วว่าไม่มีเงินชำระค่าจำนำข้าวเปลือกแก่ผู้กล่าวหาได้ ซึ่งตำรวจจะทยอยเรียกชาวนาที่ลงชื่อแจ้งความไว้เข้าสอบปากคำต่อไป

ต่อมาเวลา 17.15 น. นายประจักษ์ บุญเลี้ยง ชาวนา ต.วังชมพู อ.เมืองเพชรบูรณ์ และนายสว่าง เกษียร ชาวนา ต.นาป่า อ.เมืองเพชรบูรณ์ เปิดเผยกับ ผู้สื่อข่าวหลังให้ปากคำกับ พ.ต.ท.นิวัฒน์ คัณธานันท์ พงส.สภ.เมืองเพชรบูรณ์ว่า ได้ถอนแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับรัฐมนตรีอีก 2 คน เนื่องจากตนต้องการเพียงเรียกร้องเงินโครงการจำนำข้าว ส่วนหนังสือที่แสดงความประสงค์แจ้งความกับนายกรัฐมนตรีเป็นหนังสือที่ร่างไว้ก่อนแล้ว ขณะเดียวกัน เจ้าของคดีกล่าวว่า ผู้เสียหายประสงค์ จะขอถอนแจ้งความ ตำรวจต้องสอบปากคำเพื่อเป็นหลักฐาน ส่วนชาวนาอีก 13 คน ตำรวจจะเชิญตัวมาสอบปากคำต่อไป

ขณะเดียวกัน ชาวนาทั้ง 8 อำเภอของจังหวัดชัยนาท กว่า 500 คน นำโดย พ.จ.ท.เฉลียว น้อยแสง สมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดชัยนาท  รวมตัวที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติศาลากลางจังหวัดชัยนาท ทวงเงินโครงการจำนำข้าว โดย พ.จ.ท.เฉลียวกล่าวว่าพี่น้องชาวนาได้ปรึกษากันแล้วว่าหากไม่ได้รับเงินหรือข้าวคืนจากโครงการดังกล่าวภายในวันศุกร์ที่ 24 ม.ค.นี้  พี่น้องเกษตรกรที่เดือดร้อนจะรวมตัวกับเกษตรกรอีก 5 จังหวัด ได้แก่ จ.สิงห์บุรี, อ่างทอง, สุพรรณบุรี, นครสวรรค์ และลพบุรี เพื่อแสดงพลังอย่างแน่นอน ขณะเดียวกัน นายสมประสงค์ เปาอินทร์ พร้อมตัวแทนเกษตรกร 7 อำเภอของ จ.อ่างทอง ยื่นหนังสือต่อนายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผวจ.อ่างทอง ผ่านไปถึงนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี เจ้าพนักงาน ธ.ก.ส.  ประธาน  กกต.อ่างทอง  และอธิบดีกรมชลประทาน เรื่องเร่งรัดให้จ่ายเงินโครงการจำนำข้าว โดยให้เร่งดำเนินการให้เสร็จภายในวันที่ 24 ม.ค.นี้ ไม่เช่นนั้นจะไปรวมตัวหน้าศาลากลางจังหวัดเพื่อเรียกร้องแบบจังหวัดอื่นๆ พร้อมขอให้อธิบดีกรมชลประทานขยายเวลางดจ่ายน้ำออกไปอีก 21 วัน เนื่องจากข้าวในนาของเกษตรกรใกล้จะออกรวง

ด้านนายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีม็อบชาวนาที่ชุมนุมประท้วงเรียกร้องค่าจำนำข้าวว่า ถือเป็นปัญหาที่สำคัญ กระทรวงไม่ได้มุ่งเน้นแก้ปัญหาเรื่องข้าว แต่ให้ความสำคัญกับ ผลผลิตทางการเกษตรทุกเรื่อง ขณะที่รัฐบาลแก้ไขปัญหาอยู่ ได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดรับเรื่องร้องเรียน และพยายามพูดคุยกับชาวบ้านที่เดือดร้อนอยู่ภายในพื้นที่

ส่วนนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า จะหารือกับ กกต.ในวันที่ 21 ม.ค. เกี่ยวกับการขอกู้เงินมาใช้ในโครงการรับจำนำข้าวปีการผลิต 2556/2557 เพราะเป็นไป ตามมติ ครม.ที่อนุมัติให้กระทรวงการคลังกู้เงินมาใช้ในโครงการ 1.3 แสนล้านบาท จากงบประมาณที่ต้อง ใช้ทั้งหมด 1.8 แสนล้านบาท และยืนยันว่ามีกฎหมายรองรับให้รัฐบาลรักษาการกู้เงินก้อนใหม่เข้ามาดำเนินการโครงการได้ อย่างไรก็ตาม หาก กกต.ไม่เห็นชอบ กระทรวงการคลังก็มีแผนสำรอง

ขณะที่นายประสิทธิ์ พาโฮม ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า สหภาพแรงงาน ธ.ก.ส. นัดแต่งชุดดำประชุมวิสามัญสมาชิกทั่ว ประเทศที่ ธ.ก.ส.สำนักงานใหญ่ แสดงจุดยืนคัดค้านการนำเงินสภาพคล่องของธนาคารไปใช้ในโครงการจำนำข้าวของรัฐบาล หากคณะกรรมการของธนาคารยืนยันในมติที่จะนำเงินสภาพคล่องไปใช้ในโครงการดังกล่าว ทางสหภาพแรงงานฯจะยกระดับการชุมนุมครั้งใหญ่ เพื่อขับไล่คณะกรรมการและผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งแสดงอารยะขัดขืนทางใดทางหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่การหยุดทำงาน เนื่องจากธนาคารเป็นสถาบัน การเงินที่ให้บริการแก่ประชาชน นอกจากนี้ สหภาพแรงงาน ธ.ก.ส.ได้รับแจ้งจากกระทรวงสาธารณสุขว่า หากบอร์ดมีมติให้นำเงินสภาพคล่องของธนาคารไปใช้ในโครงการดังกล่าว ทางกระทรวงสาธารณสุขจะถอนเงินฝากออกจากธนาคาร ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของธนาคาร

ต่อมานายสุวิทย์ ตรีรัตน์ศิริกุล รองผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวบนเวทีต่อหน้าสหภาพแรงงาน ธ.ก.ส. และกลุ่ม กปปส. ว่าวันนี้ไม่มีการประชุมคณะกรรมการ ธ.ก.ส. (บอร์ด) และไม่มีวาระในการใช้เงินสภาพ คล่อง 55,000 ล้านบาท มาใช้ในโครงการรับจำนำ ข้าว หลังจากนั้นเวลาประมาณ 13.30 น. กลุ่มสหภาพ แรงงาน ธ.ก.ส. และ กปปส. ก็ได้สลายตัวแยกย้ายไป

...