ฉีกแนว-จุดคบเพลิง205กระถางในสนาม

เปิดแล้วอย่างยิ่งใหญ่ “การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2012” อังกฤษจัดอย่างสมศักดิ์ศรี โดยสมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร เสด็จฯเป็นองค์ประธานเปิดงานอย่างเป็นทางการ รวมถึงทรงมีส่วนร่วมในการแสดงหนังสั้น “เจมส์ บอนด์” ร่วมกับพระเอก “แดเนียล เคร็ก” ผู้รับบทสายลับ 007 ที่นำมาเป็นส่วนหนึ่งของพิธีเปิด ที่แสดงถึงความเป็นมาของ “เกาะแห่งความมหัศจรรย์” ผสมผสานการแสดงถึงอัตลักษณ์ของคนแดนผู้ดี ใช้หนัง-ดนตรีดังในอดีตมาเป็นส่วนประกอบ ขณะเดียวกัน สุดฮือฮาพิธีจุดไฟในกระถางคบเพลิง ที่ฉีกแนวการนำเอานักกีฬาดังมาเป็นผู้จุด โดยมอบหน้าที่ให้ 7 เยาวชนเป็นตัวแทนอดีตนักกีฬาดังแห่งสหราชอาณาจักรทำหน้าที่จุดไฟในกระถางคบเพลิงขนาดเล็กจำนวน 205 กระถางเท่าจำนวนชาติที่เข้าร่วมแข่งขัน ก่อนจะยกตัวไปรวมกันเป็นกระถางขนาดใหญ่กลางสนาม สื่อถึงการรวมเป็นหนึ่งเดียว

พิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2012 ที่สนามโอลิมปิกในกรุงลอนดอน ที่จัดได้อย่างยิ่งใหญ่อลังการ โดยพิธีเริ่มต้นขึ้นเมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 27 ก.ค.ตามเวลาในอังกฤษ ซึ่งตรงกับเวลา 03.00 น. เช้าวันเสาร์ที่ 28 ก.ค.ตามเวลาในประเทศไทย โดยมีแดนนี บอยล์ ผู้กำกับภาพยนตร์ ซึ่งได้รับรางวัลออสการ์จากภาพยนตร์เรื่อง สลัมด็อก มิลเลียนแนร์ เป็นผู้รับหน้าที่ในการสร้างสรรค์และกำกับการแสดง

พิธีการเริ่มขึ้นหลังจากการเคาต์ดาวน์ ซึ่งใช้เด็กๆถือลูกโป่งที่มีตัวเลข และทำให้ลูกโป่งตัวเลขต่างๆแตกจนถึงเลข 0 และเริ่มต้นด้วยเสียงระฆังที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกภายในสนามดังขึ้น การแสดงชุดต่างๆก็เริ่มขึ้นภายใต้ชื่อว่า “Isle of Wonder” หรือเกาะแห่งความมหัศจรรย์ ซึ่งย้อนอดีตของสหราชอาณาจักรที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ยุคเกษตรกรรม จนมาถึงยุคอุตสาหกรรม พร้อมด้วยการนำเอาภาพยนตร์ชื่อดังในอดีตที่เคยสร้างชื่อเสียงให้กับอังกฤษมาเป็นส่วนประกอบในการแสดง อาทิ ปีเตอร์ แพน แมรี่ ป๊อบปินส์ เจมส์ บอนด์ แฮร์รี พ็อตเตอร์ รวมทั้งดาวตลกอย่างมิสเตอร์บีน (โรแวน แอตกินสัน) ก็มีส่วนในการสร้างสีสันในการแสดง โดยรับบทเป็นนักเปียโนในวงซิมโฟนี ซึ่งนั่งจินตนาการถึงการเป็นนักวิ่งในฉากหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง Chriot of Fire ซึ่งเป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับกีฬาที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของโลก

ไฮไลต์หนึ่งของพิธีเปิดครั้งนี้คือภาพยนตร์สั้นในสไตล์เจมส์ บอนด์ ซึ่งรับบทโดย แดเนียลเคร็ก ที่เข้าไปในพระราชวังบัคกิ้งแฮม เพื่อกราบบังคมทูลเชิญ สมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 เสด็จพระราชดำเนิน ประทับเฮลิคอปเตอร์บินสู่สนามโอลิมปิก และเมื่อเฮลิคอปเตอร์ถึงสนาม ก็เป็นภาพนักแสดง ซึ่งแต่งกายในชุดเดียวกับฉลองพระองค์ของสมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 และเจมส์ บอนด์ กระโดดร่มลงสู่สนาม ก่อนที่ภาพจะตัดกลับมาเป็นการเสด็จฯเข้าสู่ที่ประทับของสมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2

สำหรับการเดินพาเหรดของนักกีฬาจาก 205 ชาตินั้น ใช้เวลาทั้งสิ้น 1 ชั่วโมง 45 นาที โดยเริ่มจากนักกีฬาของกรีซ ชาติต้นกำเนิดกีฬาโอลิมปิกยุคปัจจุบัน ตามด้วยนักกีฬาชาติต่างๆตามลำดับตัวอักษรในภาษาอังกฤษ ซึ่งนักกีฬาไทยที่เชิญธงชาติ โดยณัฐพงษ์ เกษอินทร์ นักว่ายน้ำ เข้าสู่สนามเป็นลำดับที่ 183 และปิดท้ายด้วยขบวนนักกีฬาของสหราชอาณาจักร จากนั้นเป็นพิธีการต่างๆ ซึ่งประกอบด้วยการเชิญธงโอลิมปิกที่สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการที่นายบันคีมูน เลขาธิการสหประชาชาติ ชาวเกาหลีใต้เป็น 1 ในผู้ร่วมเชิญธงด้วย การเชิญธงชาติอังกฤษ การปฏิญาณตนของนักกีฬา ผู้ตัดสิน จนกระทั่งถึงการกล่าวเปิดการแข่งขันโดยสมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งก่อนหน้านี้ทรงเคยเป็นองค์ประธานทรงกล่าวเปิดการแข่งขันโอลิมปิกมาแล้วในปี 1976 ที่เมืองมอนทรีล ประเทศแคนาดา

หลังจากที่สมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 ทรงกล่าวเปิดแข่งขันด้วยถ้อยคำสั้นๆตามธรรมนูญของโอลิมปิกแล้ว ก็เป็นเวลาที่ผู้ชมทั่วโลกเฝ้ารอคอยคือการจุดคบเพลิงในสนาม ซึ่งก่อนหน้านี้ มีการฉายวีดิิโอภาพที่ เดวิด เบคแคม นักเตะคนดังของอังกฤษ เป็นกัปตันเรือนำคบเพลิงล่องแม่น้ำเทมส์ และนำคบเพลิงมาจุดต่อให้สตีฟ เรดเกรฟ นักกีฬาเรือพายเจ้าของ 5 เหรียญทองจากโอลิมปิก 5 ครั้ง เป็นผู้นำคบเพลิงวิ่งเข้าสู่สนาม และผู้ที่มารับช่วงต่อในการจุดคบเพลิงโอลิมปิก คือเยาวชนอายุระหว่าง 16-19 ปี จำนวน 7 คน ซึ่งเป็นตัวแทนของอดีตนักกีฬาดังของสหราชอาณาจักรที่เคยคว้าเหรียญทองจากการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์มาแล้ว ประกอบด้วย คัลลัม แอร์ลีย์, จอร์แดน ดัคคิตต์, เดซิรี เฮนี, แคธี เคิร์ค, คาเมรอน แมคริทชี, ไอเดน เรย์โนลด์ส และเอเดลล์ เทรซี ซึ่งทั้ง 7 คนเมื่อผลัดกันวิ่งคบเพลิงไปรอบสนามแล้ว ได้นำคบเพลิงที่จุดครบทั้ง 7คน ไปที่กระถางคบเพลิง ซึ่งสร้างขึ้นจากคบเพลิงขนาดเล็กจำนวน 205 ชิ้นเท่าจำนวนชาติที่ร่วมแข่งขัน และเมื่อจ่อไฟติดแล้ว ไฟโอลิมปิกได้วิ่งไปติดในกระถางเล็กจนทั่วแล้วยกตัวจากพื้นขึ้นรวมตัวกันเป็นคบเพลิงขนาดยักษ์ลอยเหนือกลางสนาม ซึ่งสร้างความฮือฮาให้กับผู้ชมในสนามเป็นอย่างมากในแนวคิดการจุดคบเพลิงเปิดกีฬาโอลิมปิกที่แตกต่างจากที่เคยมีมา และก่อนหน้าก็คาดการณ์กันไปต่างๆนานาว่าใครจะมาเป็นผู้จุดไฟคบเพลิงเปิดกีฬาโอลิมปิกในครั้งนี้

หลังจากที่คบเพลิงถูกจุดติดขึ้นแล้วก็เป็นการยิงพลุเฉลิมฉลองและปิดท้ายพิธีเปิดด้วยการขับร้องเพลง 2 เพลงของเซอร์พอล แมคคาร์ทนีย์ หนึ่งในสมาชิกวงเดอะบีทเทิลส์  ที่โด่งดังที่สุดในทศวรรษ 1960 โดยปิดท้ายด้วยเพลง Hey Jude ซึ่งเป็นหนึ่งในเพลงดังของคณะนักร้องที่ได้รับฉายาว่า “สี่เต่าทอง”

ก่อนหน้านี้ การจุดคบเพลิงโดยที่คบเพลิงตั้งอยู่ กับพื้นนั้น เคยทำกันมาแล้วหลายครั้ง โดยครั้งล่าสุดในโอลิมปิกเกมส์ที่ซิดนีย์เมื่อปี 2008 แคธี ฟรีแมน ผู้ทำหน้าที่จุดคบเพลิงก็จุดคบเพลิงที่ถูกคลุมด้วยน้ำก่อนจะยกตัวขึ้นสู่อากาศ ส่วนการใช้ผู้จุด คบเพลิงที่ไม่ใช่อดีตนักกีฬาผู้มีชื่อเสียงก็เคยทำกันมาแล้วหลายครั้ง เช่น ในโอลิมปิก 1976 ที่มอนทรีล แคนาดา ก็ใช้เยาวชน 2 คน ซึ่งคนหนึ่งเป็นตัวแทนชาวแคนาดาเชื้อสายฝรั่งเศส คือ สเตฟาน เปรฟองแตง อีกคนเป็นชาวแคนาดาเชื้อสายอังกฤษคือ ซานดรา เฮนเดอร์–สัน ทำหน้าที่จุดคบเพลิง และในโอลิมปิก 1988 ที่โซล ก็เคยใช้ผู้จุดคบเพลิง ซึ่งไม่เป็นที่รู้จักในขณะนั้นขึ้นจุดคบเพลิงรวม 3 คนคือ ชุงซุนมาน โซห์มีชุงและคิมวอนทัก

หลังจากพิธีเปิดการแข่งขัน นายธนา ไชยประ-สิทธิ์ หัวหน้านักกีฬาไทย ให้ความเห็นถึงการแสดงในพิธีเปิดมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2012 ว่า โดยภาพรวมถือว่าการแสดงทั้งหมดค่อนข้างธรรมดาเรียบง่าย ไม่หรูหรามากนัก แต่ก็ยังมีจุดน่าสนใจอยู่บ้าง ซึ่งโดยส่วนตัวชอบการแสดงในชุดของมิสเตอร์บีน มากที่สุด รองลงมาเป็นการแสดงของเจมส์บอนด์ และประทับใจเดวิด แบคเคม นักเตะชื่อดัง ที่เป็นผู้ขับเรือนำไฟคบเพลิงมาส่งก่อนเข้าสนาม รวมทั้งการที่เจ้าภาพจุดไฟกลางสนามก็เป็นเรื่องที่แปลก เพราะที่ผ่านมาเจ้าภาพจะจุดในที่สูง คนทั่วไปมองเห็นชัดเจน

“หากจะเทียบการแสดงในพิธีเปิดโอลิมปิกที่เอเธนส์ 2004 และปักกิ่ง 2008 แน่นอนว่าการแสดงของอังกฤษ คงจะสู้ 2 ครั้งก่อนไม่ได้แน่ แต่ก็ต้องยอมรับว่าอังกฤษ มีสไตล์เป็นของตัวเอง มีเอกลักษณ์ มีวัฒนธรรม ที่เป็นตัวของตัวเอง” หัวหน้านักกีฬาไทยกล่าว

อย่างไรก็ดี ในการติดตามชมการถ่ายทอดสดพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในครั้งนี้ของคนไทย ก็พบว่ายังมีปัญหา “จอดำ” เกิดขึ้น โดยผู้ใช้บริการจานดาวเทียมสีดำไม่สามารถชมผ่านช่องฟรีทีวีได้ ทำให้ในช่วงเย็นวันเดียวกัน พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ (กสท.) เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลว่าผู้ประกอบการรายใดไม่ปฏิบัติตามประกาศเรื่องหลักเกณฑ์การเผยแพร่โทรทัศน์ที่ให้บริหารเป็นการทั่วไป (มัสท์ แครี่) แล้วจะนำมาหารือในที่ประชุมบอร์ด กสท.ในวันที่ 30 ก.ค.นี้ และจะแถลงผลการหารือดังกล่าวในเวลา 12.00 น. เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ ในเบื้องต้น ผู้บริโภคสามารถรับชมการถ่ายทอดแข่งขันกีฬาโอลิมปิกผ่านช่องฟรีทีวี ทั้งทางเคเบิลทีวี และผ่านจานดาวเทียม ไปด้วยความเรียบร้อย เพราะผู้ดำเนินการโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ (ทีวีพลู) ได้ส่งสัญญาณทุกระบบทั้งเคเบิล ดาวเทียม ระบบภาคพื้นดินแต่มีผู้ประกอบการบางราย ที่ไม่ขอรหัสผ่านจากทีวีพูล ทำให้เกิดปัญหาจอดำ ซึ่ง กสทช.ขอแจ้งว่า ผู้ที่ไม่สามารถรับชมการถ่ายทอดสดกีฬาโอลิมปิก 2012 ได้ ขอให้ติดต่อผู้ให้บริการจานดาวเทียม หรือเคเบิลทีวี โดยตรงเพื่อดำเนินการเพื่อการรับชมอย่างต่อเนื่อง

ต่อมาเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการลูกค้า บริษัท พีเอสไอ โฮลดิ้ง จำกัด ผู้ให้บริการระบบจานดาวเทียมพีเอสไอ ชี้แจงถึงการปรับแก้ไขจานดาวเทียมจานดำของพีเอสไอ ให้สามารถรับชมการถ่ายทอดสดโอลิมปิก ลอนดอนเกมส์ ทางช่องฟรีทีวี ได้ว่าให้ดึงสายปลั๊กกล่องออกแล้วเสียบเข้าไปใหม่ หน้าจอจะปรากฏข้อความ “กำลังตรวจสอบซอฟต์แวร์ OTA โปรดรอสักครู่” สักพัก ก็ให้กดหาช่อง 193-197 ซึ่งจะเป็นช่องเข้ารหัสของ ช่อง 3, 5, 7, 9 และ 11

...