ตำรวจตามรวบตัวได้แล้วชายลึกลับทำตัวเป็น “ผีกระหัง” ที่แท้เป็นเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย รวบตัวได้ขณะอาศัยอยู่ในบ้านเช่าเปิดเป็นร้านขายยาโด๊ปและรับทำเสน่ห์ยาแฝด พบของกลางโทรศัพท์มีรูปภาพเหยื่อเด็กสาวเพียบ คุมตัวสอบสวนให้การรับสารภาพอ้างติดยาบ้า ชาวบ้านทราบข่าวเฮโลปิดล้อมโรงพักหวิดถูกรุมประชาทัณฑ์
กรณีมีชายลึกลับโผล่อาละวาดกลางดึกบุกเข้าไปทำอนาจารเด็กสาววัยรุ่นในหมู่บ้านถนนโค้ง หมู่ 2 ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านไม่เป็นอันกินอันนอน โดยเชื่อว่าเป็นพวก “ผีกระหัง” หรือไม่ก็เป็นพวกเดรัจฉานวิชาเชี่ยวชาญในเรื่องวิชาอาคมไสยศาสตร์สามารถแปลงร่างเป็น “ลิงลม” ได้ เนื่องจากชายลึกลับคนดังกล่าวเคลื่อนไหวได้รวดเร็วว่องไวราวกับหนังผีพร้อมกับนำตาข่ายมากั้นตามช่องลมของบ้านตามความเชื่อเพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นกับบุตรหลาน รวมทั้งจัดชายฉกรรจ์ในหมู่บ้านออกลาดตระเวนเพื่อดูแลความปลอดภัย ในขณะที่ตำรวจเชื่อว่าน่าจะเป็นการกระทำของคนจิตไม่ปกติ พร้อมกระจายกำลังออกติดตามหาตัวชายลึกลับรายนี้แล้วนั้น ล่าสุดตำรวจสามารถตามลากคอชายลึกลับรายนี้ได้แล้ว
โดยเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 25 ก.ค. พ.ต.ท.ประสิทธิ์ เปรมกมล รอง ผกก.สส.สภ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา พร้อมด้วย พ.ต.ท.นิพนธ์ ศิริอนันต์ รอง ผกก.(ป.) พ.ต.ท.เฉลิมพล สมัยจารุวัฒน์ สวป. นำกำลังบุกเข้าปิดล้อมบ้านเช่าไม่มีเลขที่ใกล้โรงงานทอกระสอบสีคิ้ว ต.มิตรภาพ อ.สีคิ้ว หลังสืบทราบว่านายเดิมเชียงแสน หรือหนุ่ม ป้องสูงเนิน อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49/1 บ้านซับตะเคียน หมู่ 13 ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว เป็นอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยมูลนิธิฮุก 31 นครราชสีมา และเป็นชายลึกลับที่บุกทำอนาจารเด็กสาว มาเช่าอาศัยเปิดเป็นร้านขายยาสมุนไพรประเภทยาโด๊ปและรับทำเสน่ห์ยาแฝด โดยทันทีที่นายเดิมเชียงแสนเห็นตำรวจถึงกับหน้าซีดเป็นไก่ต้ม ตำรวจจึงควบคุมตัวเอาไว้ ตรวจค้นในตัวพบยาบ้า 2 เม็ด กระสุนปืน.32 จำนวน 6 นัด วิทยุสื่อสาร 1 เครื่อง เสื้อยืดสีดำ 3 ตัว กางเกงในสีดำ 3 ตัว แผ่นวีซีดีลามก 3 แผ่น หนังสือลามก 4 เล่ม
จากนั้นตำรวจได้ควบคุมตัวนายเดิมเชียงแสน ขึ้นรถยนต์เดินทางไปยัง สภ.สีคิ้ว ทันทีที่เดินทางถึงโรงพักตำรวจได้นำตัวเข้าห้องสอบสวน โดยมีชาวบ้านที่ทราบข่าวหลายร้อยคนรวมตัวกันมาดูหน้าพร้อมตะโกนสาปแช่งด้วยถ้อยคำรุนแรง บางคนพยายามจะบุกเข้ารุมประชาทัณฑ์ตำรวจต้องกันชาวบ้านออกไปอย่างทุลักทุเล ต่อมานายประภาส รักษาทรัพย์ นายอำเภอสีคิ้ว ได้รับรายงานเดินทางมาร่วมสอบสวนร่วมกับ พ.ต.อ.ประโยชน์ งามมุข ผกก.สภ.สีคิ้ว พร้อมนำนายเดิมเชียงแสนออกจากห้องสอบสวนขึ้นไปบนชั้น 2 ของโรงพักเพื่อแถลงข่าว โดยระหว่างนั้นชาวบ้านที่อยู่ในอารมณ์โกรธแค้นลุกฮือจะบุกเข้ารุมประชาทัณฑ์อีกรอบ ตำรวจต้องออกแรงกันชาวบ้านออกจากบริเวณโรงพักอย่างทุลักทุเลอีกครั้ง ในการสอบสวนเบื้องต้นนายเดิมเชียงแสนให้การรับสารภาพว่าเป็นชายลึกลับที่บุกเข้าไปทำอนาจารเด็กหญิงวัยรุ่นในหมู่บ้านจริง
นายประภาส รักษาทรัพย์ นายอำเภอสีคิ้ว เปิดเผยว่า คดีนี้หลังเกิดเหตุตำรวจเข้าไปตรวจสอบพื้นที่และพบว่าคนร้ายได้ทำโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกียตกไว้ที่บ้านผู้เสียหายรายหนึ่ง และจากการตรวจสอบพบว่าเป็นของนายเดิมเชียงแสน โดยผู้ต้องหาได้ถ่ายรูปเด็กสาวผู้เสียหายหลายคนเก็บไว้ในโทรศัพท์ และเมื่อตรวจสอบประวัติทราบว่าผู้ต้องหารายนี้เดิมเป็นคนในหมู่บ้าน แต่ปัจจุบันออกจากหมู่บ้านไปเช่าห้องแถวเปิดร้านขายยาสมุนไพรจำพวกยาโด๊ปและยังรับทำเสน่ห์ยาแฝด รวมทั้งเป็นอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยด้วย โดยผู้ต้องหายอมรับว่าได้ก่อเหตุจริงอ้างว่าติดยาบ้าไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ ทุกครั้งที่เสพยาบ้าจะเกิดอารมณ์ทางเพศรุนแรง และจะบุกเข้าไปหาวัยรุ่นที่เพิ่งแตกเนื้อสาว แต่ปฏิเสธว่าไม่เคยข่มขืนใคร เพียงแค่จับเนื้อต้องตัวเท่านั้น สาเหตุที่หนีรอดไปได้ทุกครั้งเนื่องจากอาศัยความชำนาญในพื้นที่
ภายหลังแถลงข่าวตำรวจได้ส่งตัวนายเดิม–เชียงแสนพร้อมของกลางให้กับ พ.ต.ท.ธีระศักดิ์ คงยิ่งเรืองสิน พนักงานสอบสวน สภ.สีคิ้ว ดำเนินคดี โดยนายเดิมเชียงแสนหันมากล่าวกับตำรวจว่า “ผมยอมรับว่าผมมันเป็นคนไม่ดี ถ้าผมคนดีผมคงไม่ทำเรื่องอย่างนี้” ก่อนจะเดินคอตกเข้าห้องขัง ส่วนชาวบ้านที่มายืนตะโกนด่าทออยู่หน้าโรงพักก็ต่างทยอยกันกลับบ้านด้วยความโล่งใจ
...