ตำรวจนำตัวนักเรียนชาย ม.6 คลิปโหด คว้าเก้าอี้ฟาดหน้าแม่บ้านล้มทั้งยืน ไปส่งศาลเพื่อไต่สวนคดีทำร้ายร่างกายผู้อื่น ก่อนจะได้รับการประกันตัว ผอ.โรงเรียนเผยเด็กน่าสงสารมีปัญหาครอบครัว ยันไม่ไล่ออกให้เป็นภาระสังคม ส่งอาจารย์จิตวิทยาประกบลูกศิษย์ ส่วนแม่บ้านเหยื่ออารมณ์เครียดจัดอยากให้เรื่องราวยุติ ยังไม่เข้าพบพนักงานสอบสวน

กรณีเด็กนักเรียนชายชั้น ม.6 อารมณ์ร้อน คว้าเก้าอี้ฟาดใบหน้านางสมจิตร พรายเนาว์ อายุ 51 ปี พนักงานทำความสะอาดห้างเซ็นทรัลเวิลด์ จนล้มทั้งยืน หน้าผากแตกต้องเย็บแผลถึง 12 เข็ม สาเหตุมาจากไม่พอใจที่นางสมจิตรเก็บนาฬิกาข้อมือซึ่งทำหล่นหายได้แล้วไม่ยอมคืน เหตุเกิดเมื่อค่ำวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา ริมถนนพระราม 1 ตรงข้ามสนามกีฬาแห่งชาติ เขตปทุมวัน กทม. โดยเหตุการณ์ดังกล่าว นักท่องเที่ยวต่างชาติได้บันทึกภาพไว้ พร้อมกับนำคลิปไปเผยแพร่ ทางเว็บไซต์สำนักข่าวต่างประเทศชื่อดัง LiveLeak กระทั่งมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 25 ก.ค. ร.ต.อ.หญิงคะนึงนุช ทศไพรินทร์ พงส. (สบ 1) สน.ปทุมวัน เจ้าของคดี ได้คุมตัวนายเอ (นามสมมติ) วัย 17 ปี นักเรียนอารมณ์ร้อน ผู้ต้องหาใช้เก้าอี้พลาสติกฟาดใส่หน้านางสมจิตร พรายเนาว์ แม่บ้านห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ไปส่งศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เพื่อไต่สวนข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น ภายหลังจากที่ถูกตำรวจ กก.ดส.บช.น. ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ภายหลังที่ศาลไต่สวนร่วมกับที่ปรึกษากฎหมาย นักสังคมสงเคราะห์ นักวิชาการแล้ว ได้อนุญาตให้ประกันตัวออกไปในวงเงิน 5,000 บาท โดยให้มารายตัวในวันที่ 29 ส.ค.นี้

พ.ต.ท.พนม เชื้อทอง รอง ผกก.สส.สน.ปทุมวัน เปิดเผยว่า เมื่อคืนนี้ นายเอถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องสอบสวนคดีเด็กและเยาวชน โดยมีน้าสาวนอนอยู่เป็นเพื่อนด้วยความเป็นห่วง ซึ่งนายเอมีอาการเครียดจนนอนไม่หลับ และร้องไห้ตลอดทั้งคืน จากการสอบปากคำน้าสาวนายเอ ให้การว่า หลานชายเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า หลังเดินออกจากสนามกีฬาแห่งชาติเพื่อกลับบ้าน ได้มีเรื่องชกต่อยกับชาวพม่าจนนาฬิกาข้อมือหล่น แต่มารู้ตัวว่าของรักของหวงที่พ่อซื้อให้วันเกิดก่อนจะเสียชีวิตหาย ก็เมื่อเดินมาถึงหน้าหอศิลป์กรุงเทพมหานคร แยกปทุมวัน จึงรีบเดินย้อนกลับไปสอบถามพ่อค้าขายหมูปิ้ง ว่าเห็นนาฬิกาข้อมือหล่นหรือไม่ พ่อค้าหมูปิ้งบอกว่าเห็นผู้หญิงแต่งชุดแม่บ้านเก็บไป จึงพยายามออกตามหา กระทั่งพบตัวตรงจุดเกิดเหตุ เมื่อสอบถามในตอนแรก แม่บ้านไม่ยอมรับ ด้วยความโมโหจึงคาดคั้นและจะขอค้นตัว แต่ยังไม่ทันได้ค้น แม่บ้านคนดังกล่าวก็ล้วงนาฬิกาออกมาคืน ทำให้หลานชายโกรธมาก ที่แม่บ้านไม่ยอมรับตั้งแต่แรกว่าเก็บนาฬิกาไป จึงบันดาลโทสะคว้าเก้าอี้พลาสติกที่ตั้งอยู่ใกล้ๆฟาดใส่ใบหน้าอย่างแรง

ส่วนนางสมจิตร พรายเนาว์ เหยื่อนักเรียน ม.6 ซึ่งลาป่วยกลับไปรักษาบาดแผลอยู่ที่บ้านเกิด อ.ชนบท จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ได้ติดต่อให้มาพบพนักงานสอบสวน เพื่อสอบปากคำและแจ้งความดำเนินคดีกับเด็กนักเรียนในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นแล้ว แต่ยังไม่เดินทางเข้าพบตำรวจ ส่วนจะมีความผิดด้วยหรือไม่ ต้องรอสอบสวนให้ชัดเจนเสียก่อน

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านนางสมจิตร เลขที่ 7/1 บ้านหนองไผ่ ต.วังแสง อ.ชนบท จ.ขอนแก่น พบว่ามีเพื่อนบ้านที่ทราบข่าวไปเยี่ยมอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ขณะที่นางสมจิตร ต้องคอยรับโทรศัพท์จากสื่อมวลชนและคนที่รู้จัก สอบถามเรื่องราวอย่างไม่ขาดสาย จนเกิดอาการเครียดและร้องไห้ จนญาติต้องขอร้องไม่อยากให้สัมภาษณ์ใดๆอีก เกรงว่าจะกระทบกระเทือนจิตใจยิ่งขึ้น ส่วนเรื่องที่จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯเพื่อพบพนักงานสอบสวนวันไหนนั้น นางสมจิตรยังไม่ได้ตัดสินใจ บอกเพียงว่าไม่อยากยุ่งยากมากความ และอยากให้เรื่องจบๆกันไป

ทางด้านผู้อำนวยการโรงเรียนต้นสังกัดของเด็กนักเรียน ม.6 ที่ก่อเหตุทำร้ายแม่บ้านซึ่งเก็บนาฬิกาข้อมือได้ เปิดเผยว่า เด็กนักเรียนคนนี้เป็นเด็กน่าสงสาร มีปัญหาครอบครัว อาศัยอยู่กับญาติ ปกติอยู่โรงเรียนเป็นคนเงียบขรึม ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร บางครั้งมาโรงเรียนด้วยสีหน้าเคร่งเครียดและเคยนั่งร้องไห้ ขณะนี้ทางโรงเรียนมอบหมายให้ครูจิตวิทยาเข้าไปให้คำแนะนำเพื่อเยียวยาแล้ว แต่คงไม่ไล่ออก เพราะจะกลายเป็นปัญหาสังคม เนื่องจากตอนนี้เรียนอยู่ชั้น ม.6 ใกล้จบการศึกษาแล้ว ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างเด็กกับแม่บ้านนั้น ขอให้เป็นเรื่องของกระบวนการทางกฎหมายต่อไป

...