พัวพันแก๊งยาเสพติด ล่าสุดค้นเจอ43มือถือ ผบ.ครวญมีกำลังน้อย
อธิบดีกรมราชทัณฑ์สั่งเชือด ผู้คุมเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ให้ออกจากราชการไว้ก่อน 3 นาย และสั่งย้ายไปอยู่เรือนจำอื่น 11 นาย ระบุมีหลักฐานทางการเงิน 3 ผู้คุมนอกรีตร่ำรวยผิดปกติ เชื่อมีส่วนพัวพันเครือข่ายยาเสพติดในคุก ผบ.เรือนจำเมืองคอนสั่งคุมเข้มขบวน การลักลอบนำสิ่งของต้องห้ามเข้ามาในเรือนจำพร้อมตรวจค้นถี่ยิบทุกวัน ล่าสุดลุยค้น 2 วันต่อเนื่อง ยึดโทรศัพท์มือถือได้ 43 เครื่อง กับยาไอซ์จำนวนหนึ่ง โอดกำลังผู้คุมมีน้อยหลังถูกเด้งกราวรูด อัตราเฉลี่ย 2 คนต่อนักโทษเกือบพันคน ด้านตำรวจเตรียมออกหมายจับ จนท.ราชทัณฑ์ลอตแรก 3 คน
ความคืบหน้าการกวาดล้างเครือข่ายยานรกในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชที่มีผู้คุมนอกรีตเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง หลังจากตำรวจและเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำกำลังเข้าตรวจค้น 2 รอบ เมื่อวันที่ 22-23 เม.ย.ที่ผ่านมา พบโทรศัพท์มือถือกว่า 400 เครื่องและยาเสพติดจำนวนมาก ล่าสุดอธิบดีกรมราชทัณฑ์มีคำสั่งให้ผู้คุม 3 นายออกจากราชการไว้ก่อนและสั่งย้าย 11 นายไปเรือนจำอื่น โดยเมื่อวันที่ 8 ก.ค. นายสุรพล แก้วภราดัย ผบ.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช กล่าวถึงการสอบสวนดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและมีส่วนพัวพันกับผลประโยชน์การลักลอบนำยาเสพติดและสิ่งของต้องห้ามชนิดต่างๆเข้าไปในเรือนจำว่า พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์มีคำสั่งด่วนย้ายเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ของเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช 11 นาย ไปยังเรือนจำอื่น และมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนอีก 3 นาย พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง
ผบ.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราชกล่าวต่อไปว่า อธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้มีคำสั่งดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งหนังสือคำสั่งอย่างเป็นทางการจะมาถึงเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชในวันที่ 9 ก.ค. โดยอธิบดีกรมราชทัณฑ์ให้เหตุผลที่มีคำสั่งให้ออกจากราชการ 3 จนท.ราชทัณฑ์ว่า เนื่องจากผลการสืบสวนสอบสวนของคณะกรรมการจากกรมราชทัณฑ์ตรงกับสำนวนการสอบสวนของตำรวจ พบว่าเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 3 นาย มีพยานหลักฐานที่เป็นเอกสารทางการเงินทางบัญชีปรากฏชัดเจนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด เนื่องจากร่ำรวยผิดปกติไม่สมกับฐานะเงินเดือน ส่วน จนท.ราชทัณฑ์ 11 นายยังไม่ปรากฏความผิดที่ชัดเจน ต้องใช้เวลาในการสืบสวนสอบสวนอีกระยะหนึ่ง จึงมีคำสั่งให้ย้ายไปอยู่เรือนจำอื่นก่อนจนกว่าผลการสอบสวนจะเสร็จสิ้น
ต่อข้อถามถึงความพยายามในการส่งสิ่งของต้องห้ามเข้าเรือนจำผ่านทางเฮลิคอปเตอร์หรือเครื่องบินบังคับวิทยุ นายสุรพลกล่าวว่า เป็นเครื่องบ่งชี้ให้เห็นว่าความพยายามของเจ้าหน้าที่เป็นผล คือสิ่งของต้องห้ามไม่สามารถเข้ามาทางประตูเรือนจำได้ ต้องหาทางอื่นเข้ามา เช่น ใช้เครื่องยิงอัดอากาศและการใช้เครื่องบินบังคับวิทยุ ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังอย่างเข้มงวดพร้อมตรวจค้นอย่างละเอียดทุกวัน ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ก.ค. สามารถตรวจยึดโทรศัพท์มือถือได้ 26 เครื่อง วันเดียวกันนี้อีก 17 เครื่อง รวมทั้งยาไอซ์อีกจำนวนหนึ่ง ทั้งนี้เจ้าหน้าที่เรือนจำต้องทำงานหนักมาก เนื่องจากก่อนหน้านี้มีการย้ายเจ้าหน้าที่ออกไปคราวเดียวถึง 18 นาย และคำสั่งล่าสุดอีก 11 นายกับให้ออกจากราชการไว้ก่อนอีก 3 นาย ขณะที่จำนวนผู้ต้องขังเพิ่มสูงถึงกว่า 4,900 คนแล้ว เฉลี่ยต่อเดือนจะมีผู้ต้องขังเพิ่มประมาณ 100 คน ในช่วงการปฏิบัติหน้าที่เมื่อเทียบอัตราส่วนแล้วผู้คุม 2 คนจะต้องดูแลนักโทษเกือบ 1 พันคน
ด้าน พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช เผยถึงการออกหมายจับ จนท.ราชทัณฑ์และเครือข่ายยาเสพติดในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชว่า ต้องดำเนินการอย่างรอบคอบรัดกุมและต้องใช้ระยะเวลาสักระยะหนึ่ง โดยเป้าหมายชุดแรกเป็นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 3 นาย ตำรวจได้รวบรวมสำนวนเสนอไปยังเลขาธิการ ป.ป.ส.พิจารณาแล้วพบข้อบกพร่องหลายจุด จึงส่งสำนวนกลับมาให้ตำรวจสอบสวนหาหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อให้รัดกุมในการเสนอขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาลอตแรก 3 คนก่อน แล้วจะมีลอต 2 และ 3 ในเร็วๆ นี้ต่อไป ส่วนกรณีที่อธิบดีกรมราชทัณฑ์มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน จนท.ราชทัณฑ์ 3 นายและสั่งย้าย 11 นายนั้น ก็เป็นไปตามข้อมูลที่ตำรวจได้ประสานและเสนอไปยังอธิบดีกรมราชทัณฑ์จนนำไปสู่การออกคำสั่งดังกล่าว
...