ตำรวจนนทบุรีตามลากคอหนุ่ม มหาภัยลวงหญิงสาวกระทำอนาจาร ก่อนชิงทรัพย์ ออกล่าเหยื่อสาวหน้าตาดีมีทรัพย์สินติดตัวเดินคนเดียวตามห้าง อ้างตัวเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรี-ลูกนักการเมืองเข้าไปตีสนิทขอติดต่อทำธุรกิจด้วย เหยื่อหลงกลยอมนัดออกมานั่งกินข้าวพูดคุยกัน ก่อนชวนขึ้นรถพาไปที่เปลี่ยว สบโอกาสลวนลามทำทีจะชักปืนขู่ชิงทรัพย์แล้วขับรถเผ่นหนี โชคดีเหยื่อจำทะเบียนรถได้แจ้งตำรวจตามลากคอจนมุม สารภาพหาเงินไปเที่ยวเตร่ เช็กประวัติเพิ่งพ้นโทษคดีชิงทรัพย์ ไม่เข็ดออกมาก่อเหตุอีก 3 สาวผู้เสียหายรุมชี้ตัวเชื่อมีหญิงสาวตกเป็นเหยื่ออีกหลายราย

พฤติกรรมหนุ่มแสบภัยสังคมลวงเหยื่อสาวกระทำอนาจารก่อนชิงทรัพย์รายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 4 ก.ค. นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผวจ.นนทบุรี พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบก.ภ.จ.นนทบุรี พ.ต.อ.กองสรร ควรระงับกมล ผกก.สภ.บางศรีเมือง ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายภูริพัฒน์ หรือปู กุลพาณิชย์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43/7 หมู่ 8 ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี ผู้ต้องหาชิงทรัพย์และกระทำอนาจาร ของกลางโทรศัพท์มือถือแบล็กเบอรี่ 1 เครื่อง ไอแพด 1 เครื่อง เงินสด 5,000 บาท กระดาษรายชื่อเหยื่อที่ลงมือก่อเหตุแล้ว และที่ยังไม่ได้ ลงมืออีกหลายราย  จับกุมได้บริเวณหน้าร้านนวดแผนโบราณหัตถวรรณ ถนนรัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี โดยมี น.ส.เมย์ น.ส.อุ๋ย และ น.ส.หนิง (ทั้งหมดนามสมมติ) ผู้เสียหายชี้ตัวยืนยัน

นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผวจ.นนทบุรี กล่าวว่า ผู้ต้องหารายนี้ถือเป็นภัยร้ายแรงของสังคม โดยเฉพาะสุภาพสตรี โดยจะเข้าไปตีสนิทกับหญิงสาวหน้าตาดี พร้อมให้นามบัตรเพื่อติดต่อคุยเรื่องงาน  อ้างตัวเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีบ้าง เป็นลูกนักการเมืองบ้าง เพื่อให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ  จากนั้นจะออกอุบายนัดผู้เสียหายออกมาพบเพื่อคุยเรื่องธุรกิจแล้วฉวยโอกาสลวนลาม ถ้าเหยื่อขัดขืนก็ข่มขู่ว่ามีปืนอยู่ในรถแล้วลงมือชิงทรัพย์ นับว่าโชคดีที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวได้

พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบก.ภ.จ.นนทบุรี เผยว่า เมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา น.ส.เมย์ หนึ่งในผู้เสียหายเข้าแจ้งความตำรวจ สภ.บางศรีเมืองว่า ถูกนายภูริพัฒน์ ผู้ต้องหา ลวงมากระทำอนาจารและชิงทรัพย์  ขณะเดินอยู่ในห้างบิ๊กซีวงศ์สว่าง  ผู้ต้องหา เข้ามาตีสนิท โดยอ้างตัวเป็นเจ้าของบริษัทจำหน่ายอุปกรณ์กอล์ฟ  ชักชวนไปทำงานอีเวนต์พร้อมให้เบอร์ โทรศัพท์ทิ้งไว้ วันต่อมา ผู้ต้องหาขับรถเก๋งโตโยต้าวีออส สีดำ ทะเบียน ฌภ 1141 กรุงเทพมหานคร มารับผู้เสียหายที่แยกแคราย เพื่อจะไปคุยธุระกับเพื่อนอีกคนที่ถนนบรมราชชนนี แต่ระหว่างทางกลับเลี้ยวรถเข้าไปในซอยไทรม้า โดยอ้างว่าจะเข้าไปไหว้พระ เมื่อไปถึงที่เปลี่ยวก็จอดรถและพยายามลวนลามทั้งลูบต้นขาและจับหน้าอก

ผบก.ภ.จ.นนทบุรีกล่าวต่อไปว่า ผู้เสียหายพยายามขัดขืน  ทำให้ผู้ต้องหาไม่พอใจและข่มขู่ว่าจะทำร้าย โดยล้วงมือเข้าไปใต้เบาะทำท่าจะหยิบปืน ก่อนกระชากกระเป๋าสะพายของผู้เสียหาย ภายในมี โทรศัพท์มือถือแบล็กเบอรี่ 1 เครื่อง ไอแพด 1 เครื่อง และเงินสด  5,000  บาท  โยนไปไว้ที่เบาะหลัง  ผู้เสียหาย ฉวยโอกาสเปิดประตูรถหนีออกมาตะโกนร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน  ผู้ต้องหาเห็นท่าไม่ดีจึงขับรถหลบหนีไป โชคดีที่ผู้เสียหายจำทะเบียนรถได้  ตำรวจตรวจสอบพบว่าเป็นรถที่เช่ามา จึงสืบสวนติดตามจับกุมตัวได้ สำหรับผู้ต้องหารายนี้เพิ่งพ้นโทษคดีชิงทรัพย์มาได้ไม่นานกลับมาก่อเหตุลักษณะเดิมอีก และยังมีหมายจับของ สน.ดุสิต ข้อหาชิงทรัพย์ในเวลากลางวัน โดยลวงว่าเป็นเจ้าพนักงาน มีหรือใช้อาวุธปืน เชื่อว่ายังมีผู้เสียหายอีกหลายรายที่โดนกระทำลักษณะนี้ ให้มาดูตัวได้ที่ สภ.บางศรีเมือง ทั้งนี้ ตำรวจจะคัดค้านการประกันตัว เพราะเกรงจะออกไปก่อเหตุอีก

น.ส.หนิงผู้เสียหายอีกคนกล่าวว่า ขณะเดินซื้อของและคุยโทรศัพท์อยู่ในห้าง สังเกตเห็นผู้ต้องหาพยายามเดินตามเพื่อฟังว่าตนคุยโทรศัพท์เรื่องอะไร พอรู้ว่าคุยเรื่องธุรกิจก็จะเข้ามาบอกว่าตัวเองก็ทำธุรกิจเหมือนกัน ตนไม่คุยด้วยเพราะคิดว่าจะเข้ามาจีบ แต่นายภูริพัฒน์ก็ไม่ละความพยายามยังเดินไปหาคนขับรถแท็กซี่ที่ตนนั่งมา จดเบอร์โทรศัพท์ฝากไว้กับคนขับรถแท็กซี่และออกเงินค่ารถแท็กซี่ให้ หลังจากนั้นตนโทรศัพท์ไปขอบคุณ และบอกว่าทีหลังไม่ต้องทำแบบนี้เพราะตนมีแฟนแล้ว  แต่ผู้ต้องหาก็อ้างว่ารู้จักคนที่มีชื่อเสียงมากมายและสนใจที่จะทำธุรกิจด้วย  ตนเห็นว่าไม่ใช่เรื่องเสียหายจึงยอมออกมากินข้าวและพูดคุยเรื่องธุรกิจกัน  ตอนนั้นผู้ต้องหาใช้รถเก๋งโตโยต้าวีออส สีขาว ป้ายแดง พอตนขึ้นรถก็พาไปหาที่กินอาหารก่อนขับพาไปในที่เปลี่ยวแล้วลงมือลวนลาม และกระชากกระเป๋าสะพายมีโทรศัพท์มือถือไอโฟน 1 เครื่อง แบล็กเบอร์รี่ 1 เครื่อง และโน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง โชคดีที่หนีรอดมาได้

ด้านนายภูริพัฒน์ผู้ต้องหารับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุลักษณะเดียวกันนี้มาแล้วหลายครั้ง โดยจะเลือกเหยื่อสาวที่หน้าตาดีและมีทรัพย์สินราคาแพงติดตัว แต่ละรายที่ได้รู้จักกันก็จะจดบันทึกลงสมุดระบุตำหนิรูปพรรณและรายละเอียดต่างๆว่าครั้งแรกได้รู้จักวันที่เท่าไหร่ สวมเสื้อผ้าแบบไหนสีอะไร และเบอร์โทรศัพท์ของเหยื่อสาวแต่ละคน หลังชิงทรัพย์เหยื่อได้จะนำไปขายที่ห้างพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า งามวงศ์วาน เพื่อนำเงินไปเที่ยวเตร่

...