‘ตอร์เรส’คว้าดาวซัลโวปณ.ยอดไหล164ล.ใบ

“กระทิงดุ” สเปน ประกาศศักดาสุดยิ่งใหญ่ ทำสถิติเป็นชาติแรก ที่กวาดแชมป์รายการใหญ่ไปครอง 3 รายการติดต่อกันและยังเป็นทีมแรกที่ป้องกันแชมป์ยูโรได้สำเร็จ หลังโชว์ฟอร์มสุดยอด ไล่ถลุงอิตาลีกระจุย ชนะแบบขาดลอย 4-0 ผงาดคว้าแชมป์ยูโร 2012 พร้อมซิวแชมป์รายการนี้ไป ครองสูงสุด 3 สมัยเท่ากับเยอรมนี ในนัดชิงชนะเลิศเมื่อคืนวันที่ 1 ก.ค. ขณะที่ “เฟอร์นันโด ตอร์เรส” กองหน้าสเปน คว้ารางวัลดาวซัลโวรองเท้าทองคำศึกยูโร 2012 หลังยิงได้ 3 ประตู กับ 1 แอสซิสต์ เท่ากับ มาริโอ โกเมซ ดาวยิงเยอรมนี แต่ตอร์เรสปาดหน้าซิวรางวัลไปครอง เนื่องจากมีจำนวนนาทีที่ลงสนามน้อยกว่า ด้านกุนซือทีมกระทิงดุโวนี่คือยุคทองของวงการฟุตบอลสเปนอย่างแท้จริง ส่วน เชซาเร ปรันเดลลี เทรนเนอร์อิตาลี ยอมรับสภาพสู้สเปนไม่ได้ แต่ภูมิใจลูกทีมทำดีที่สุดแล้ว ขณะที่ “เกรียนโอ้” บาโลเตลลี ดาวยิงจอมป่วนของอิตาลี กลั้นอารมณ์ไม่อยู่ หลั่งน้ำตาลูกผู้ชายแบบไม่อายใครหลังพ่ายสเปน แฟนบอลชาวแดนกระทิงดุนับหมื่น นำธงชาติโบกสะบัดตามถนนในกรุงมาดริด ฉลองแชมป์กันอย่างร่าเริงสุดเหวี่ยง ส่วนไปรษณียบัตรทายผลฟุตบอลยูโร 2012 แฟนบอลกระหน่ำส่งแบบถล่มทลาย ยอดพุ่งทะลุ 164 ล้านฉบับแล้ว ไหลทะลักสู่โกดัง 7 หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ รอการคัดแยกเพื่อจับสลากเฟ้นหาผู้คว้าอภิมหาโชค

ในที่สุด “กระทิงดุ” สเปน  ก็ผงาดสร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมแรกที่คว้าแชมป์ทัวร์นาเมนต์ใหญ่  3 รายการติดต่อกัน  พร้อมทั้งป้องกันแชมป์ยูโรได้สำเร็จเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์  หลังจากระเบิดฟอร์มสุดยอด  ถล่มเอาชนะ “อัซซูรี” อิตาลี ไปแบบขาดลอยสบายเกือกถึง 4-0 คว้าแชมป์ยูโร 2012 ไปครองอย่างยิ่งใหญ่  ในเกมนัดชิงชนะเลิศ  ที่ประเทศยูเครน เมื่อวันอาทิตย์ที่  1  ก.ค.ที่ผ่านมา  พร้อมกับทำให้สเปนครองแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปสูงสุด  3 สมัย เท่ากับ “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี

เกมนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลยูโร  2012  ที่สนามโอลิมปิก สเตเดียม ในกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เป็นการพบกันระหว่างแชมป์เก่า “กระทิงดุ” สเปน ดวลกับ “อัซซูรี” อิตาลี นัดนี้สเปน แชมป์เก่ายูโร 2008 และแชมป์โลก 2010 ยังคงจัดทัพแบบไม่มีกองหน้าอาชีพลงสนาม โดยส่งเชส ฟาเบรกัส, ดาวิด  ซิลบา  และอันเดรส  อิเนียสตา  เป็น  3  ประสานในแนวรุก ขณะที่อิตาลี  แชมป์โลกปี  2006 ยังคงวางอันโตนิโอ  คาสซาโน  และมาริโอ  บาโล–เตลลี  ยืนเป็นคู่หัวหอก โดยมีอันเดรีย ปีร์โล  เป็นจอมทัพในแดนกลาง

แม้จะจัดทัพแบบไม่มีกองหน้าลงเล่น  แต่ “กระทิงดุ” สเปน  ยังเล่นได้อย่างดุดันอันตราย  ก่อนจะพังประตูขึ้นนำอิตาลีไปก่อนอย่างรวดเร็ว 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 14 จากจังหวะที่เชส ฟาเบรกัส ลากบอลไปจนถึงสุดเส้นหลัง ก่อนหักเข้ากลางให้ดาวิด ซิลบา โหม่งเข้าไปไม่เหลือ  จากนั้นนักเตะ “กระทิงดุ” ยังเดินหน้าบุกแหลก และก่อนหมดครึ่งแรก 4 นาที แชมป์เก่าสเปนก็ขยับสกอร์หนีห่างอิตาลีเป็น 2-0 เมื่อชาบี เอร์นันเดซ  แทงทะลุช่องให้จอร์ดี อัลบา แบ็กซ้ายดาวรุ่ง  หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงสวนตัว จิอันลุยจิ  บุฟฟอน  นายทวารกัปตันทีมอัซซูรี  ตุงตาข่าย

เกมดำเนินมาถึงนาที 61 สถานการณ์ทีม “อัซซูรี” ยิ่งย่ำแย่เลวร้ายหนัก เมื่อต้องเล่นแค่ 10 คนในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของเกม  หลังจากติอาโก มอตตา ที่เพิ่งถูกเปลี่ยนตัวลงมาเล่นได้ไม่กี่นาที ได้รับบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว  แต่อิตาลีเปลี่ยนตัวครบโควตา 3 คนแล้วจึงต้องจำใจเล่นแค่ 10 คนจนจบเกม  ส่วนช่วงเวลาที่เหลือ  อิตาลีที่มีตัวน้อยกว่าโดนยำใหญ่อยู่ข้างเดียว  กระทั่งนาที  84  เฟอร์นันโด ตอร์เรส  หัวหอกตัวสำรอง  ก็ซัดให้สเปนหนีไปไกลเป็น 3-0 ก่อนที่ตอร์เรสจะจ่ายให้ฮวน มาตา ตัวสำรองอีกคน ยิงปิดท้ายในนาที 88 ให้ “กระทิงดุ” สเปนถล่มอิตาลียับเยินขาดลอย 4-0 ประกาศศักดาคว้าแชมป์ยูโร 2012 ไปครองได้สำเร็จ

จากการคว้าชัยชนะนัดนี้ ทำให้ “กระทิงดุ” สเปน  สร้างประวัติศาสตร์บทใหม่ขึ้นมามากมาย  ทั้งการกลายเป็นชาติแรกที่ป้องกันแชมป์ยูโรได้สำเร็จ พร้อมกับคว้าแชมป์รายการนี้ไปครองสูงสุด  3  สมัยเท่ากับ “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี รวมทั้งยังเป็นชาติแรกที่คว้าแชมป์ทัวร์นาเมนต์ใหญ่ “แกรนด์สแลม” 3 รายการติดต่อกัน  นับตั้งแต่แชมป์ยูโร 2008, แชมป์ฟุตบอลโลก  2010  และแชมป์ยูโร 2012 เป็นรายการล่าสุดนอกจากนี้การที่สเปนถล่มอิตาลี 4-0 ยังเป็นสกอร์ของนัดชิงชนะเลิศที่ชนะกันขาดลอยที่สุดในประวัติศาสตร์การแข่งขันฟุตบอลยูโรด้วย

ในขณะที่เฟอร์นันโด ตอร์เรส กองหน้าทีมชาติสเปน  คว้ารางวัลดาวซัลโวรองเท้าทองคำประจำศึกยูโร  2012  ไปครองอย่างเซอร์ไพรส์พลิกความคาดหมาย หลังจากยิงเพิ่มได้อีก 1 ลูกในเกมนัดชิงชนะเลิศที่ช่วยให้สเปนถล่มอิตาลีขาดลอย 4-0 และนับเป็นประตูที่ 3 ของเขาในทัวร์นาเมนต์นี้ โดยตอร์เรสยิงได้ 3 ประตูเท่ากับมาริโอ โกเมซ ของเยอรมนี, มาริโอ  บาโลเตลลี  ของอิตาลี,  คริสเตียโน โรนัลโด ของโปรตุเกส, อลัน ซาโกเยฟ ของรัสเซีย, มาริโอ มานด์คูซิช ของโครเอเชีย แต่ตอร์เรส หัวหอกวัย 28 ปี จากทีมเชลซี กลายเป็นนักเตะที่คว้ารางวัลรองเท้าทองคำในฐานะดาวซัลโวสูงสุดของศึกยูโร  2012 ไปครอง แม้จะทำผลงานยิง 3 ประตู และทำ 1 แอสซิสต์ (จ่ายบอลให้เพื่อนยิงประตู) เท่ากับมาริโอ โกเมซ  ศูนย์หน้าทีมชาติเยอรมนี  แต่เมื่อนับจำนวนนาทีที่อยู่ในสนามแล้ว  ปรากฏว่าดาวยิงทีมชาติสเปนมีจำนวนนาทีที่อยู่ในสนามน้อยกว่าจึงคว้ารางวัลนี้ไปครอง

หลังนำทัพ “กระทิงดุ” ป้องกันแชมป์ยูโรเอาไว้ได้อีกสมัยอย่างยิ่งใหญ่ บิเซนเต เดล บอสเกกุนซือหน้าหนวดทีมชาติสเปน ได้ออกมาชี้ว่า นี่คือยุคทองของวงการฟุตบอลสเปนอย่างแท้จริง “เรากำลังพูดถึงยุคที่ยิ่งใหญ่ของผู้เล่น พวกเขารู้ว่าจะเล่นกันอย่างไรเพราะพวกเขามาจากประเทศที่พวกเขาเรียนรู้วิธีการเล่นฟุตบอล ในฟุตบอลเราทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เรามีนักเตะที่ยอดเยี่ยมซึ่งเล่นอยู่ในต่างประเทศ ซึ่งเมื่อก่อนแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย นี่คือยุคทองที่ยิ่งใหญ่ของวงการฟุตบอลสเปนอย่างแท้จริง และเป็นความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลสเปนและตอนนี้เราเริ่มมองไปถึงอนาคต และต้องพยายามผ่านเข้าไปเล่นในศึกฟุตบอลโลกปี 2014 รอบสุดท้ายที่บราซิลให้ได้”

ยอดกุนซือหน้าหนวดวัย 61 ปี กล่าวต่ออีกว่า มันไม่ใช่แค่การเล่นฟุตบอลอีกรูปแบบหนึ่งเท่านั้น สิ่งสำคัญคือการทำประตู นักเตะของเรามีความเป็นอัจฉริยะอย่างมาก และเรามีความสมดุลในทีมมากๆ เรามีกองหน้าในทีม แต่เราตัดสินใจเล่นโดยไม่มีกองหน้า และเอาผู้เล่นที่เข้ากับสไตล์การเล่นของเรามากกว่าลงเล่น อิตาลีเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งมากๆ แต่พวกเขาโชคไม่ดีที่ติิอาโก มอตตา บาดเจ็บ ทำให้อิตาลีต้องเล่นแค่ 10 คน ในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของเกม นี่คือแมตช์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับผู้เล่นของเรา หลังจากเราทำประตูแรกได้ อิตาลีก็เริ่มอันตรายขึ้น แต่เราก็ตอบโต้ได้ดี เราครองเกมเอาไว้ได้หมด เราครองบอลได้มากกว่า เราจัดการกดดันพวกเขา และมีมิติเชิงลึกในการเล่นของเรา ดังนั้นเราจึงมีความสุขมากๆที่คว้าชัยชนะในนัดนี้

ส่วน อิเคร์ กาซิยาส นายทวารกัปตันทีมชาติสเปน ซึ่งเสียไปเพียงประตูเดียวในทัวร์นาเมนต์นี้ เผยว่า “นี่คือช่วงเวลาที่มหัศจรรย์อย่างแท้จริง ประตูที่ 2 ของทีมจากจอร์ดี อัลบา เป็นประตูตัดสินเกมอย่างแท้จริง มันเป็นช่วง 4 ปีที่สุดมหัศจรรย์ คุณอาจจะคิดว่าการชนะอิตาลีขาดลอยถึง 4-0 หมายความว่ามันเป็นเรื่องง่าย แต่เราค่อยๆเล่นกันดีขึ้น ระหว่างที่การแข่งขันดำเนินไปเรื่อยๆ”

ด้าน เชซารา ปรันเดลลี เทรนเนอร์ทีมอิตาลี ยอมรับสภาพว่าสู้สเปนไม่ได้ พร้อมระบุการต้องเล่นแค่ 10 คนกับสเปนนั้น เท่ากับว่าปิดประตูชนะไปได้เลย “ตอนที่ตามหลัง 2-0 ในการสู้กับนักเตะแบบนี้ มันเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เราต้องสู้กับทีมชั้นยอด พวกเขาเป็นแชมป์ฟุตบอลโลก แน่นอนว่าเมื่อคุณต้องเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน ในการสู้กับทีมแบบนี้ ก็แทบปิดประตูชนะไปได้เลย เราไม่อยู่ในสภาพที่ดี นักเตะบางคนของเราสภาพร่างกายไม่ฟิตสมบูรณ์ ที่สำคัญการเล่นกับสเปนคุณต้องอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยมที่สุดของคุณถึงจะเอาชนะพวกเขาได้”

อย่างไรก็ตาม กุนซือทีมอัซซูรีชี้ว่า ทีมของเขาทำดีที่สุดเท่าที่สามารถทำได้แล้ว “ผมคิดว่าอิตาลีทีมนี้ทำผลงานได้ดีที่สุดเท่าที่พวกเขาสามารถทำได้แล้ว เมื่อเกมการแข่งขันจบลง ผมได้กล่าวขอบคุณทุกคนสำหรับสิ่งที่พวกเขาได้ทำในทัวร์นาเมนต์นี้ ตอนนี้เราคงต้องมองไปยังอนาคตข้างหน้าในศึกฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล”

ส่วน มาริโอ บาโลเตลลี กองหน้าเจ้าปัญหาของอิตาลี ถึงกับหลั่งน้ำตาลูกผู้ชายอย่างไม่อายใคร ทั้งที่ภาพลักษณ์ภายนอกดูเป็นนักเตะแบดบอยที่ไม่กลัวใคร เช่นเดียวกับอันเดรีย ปีร์โล จอมทัพตัวเก๋า ที่กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เช่นกัน หลังอกหักชวดแชมป์ยูโรซึ่งน่าจะเป็นทัวร์นาเมนต์สุดท้ายของเขากับทีมชาติ

ด้านบรรยากาศฉลองแชมป์ของแฟนบอลชาวสเปนนั้น เต็มไปด้วยสีสันและความคึกคักอย่างยิ่ง เมื่อมีแฟนบอลแดนกระทิงดุนับหมื่นคนออกมาฉลองแชมป์กันอย่างสุดเหวี่ยงตามท้องถนนในกรุงมาดริด โดยส่วนใหญ่ต่างนำธงชาติสีแดง-เหลืองของสเปนออกมาโบกสะบัด พร้อมกับตะโกนคำว่า“แชมเปียนส์ๆ” กันดังกระหึ่ม นอกจากนี้ยังมีการบีบแตรและจุดพลุไฟอย่างสนุกสนานเต็มที่ด้วย

ทั้งนี้แฟนบอลสเปนต่างแต่งตัวด้วยสีแดง-เหลือง ซึ่งเป็นสีของธงชาติสเปน ไม่ว่าจะเป็นการทาหน้า ใส่วิกผม หรือเอาธงชาติมาพันเอาไว้รอบเอว ส่วนธงชาติสเปนที่ผู้คนนำมาโบกสะบัดเพื่อฉลองแชมป์นั้น มีราคาอยู่ที่อันละ 2 ยูโร (ราว 80บาท) โดยการคว้าแชมป์ยูโร 2012 ครั้งนี้ ทำให้บรรดาประชาชนชาวสเปนต่างมีความสุข และลืมความทุกข์จากการที่ประเทศต้องเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจไปได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง

ด้านไปรษณียบัตรทายผลแชมป์ฟุตบอลยูโร 2012 กับ นสพ.ไทยรัฐ วันเดียวกันนี้ได้มีการลำเลียงจากศูนย์ไปรษณีย์หลักสี่และพื้นที่ต่างจังหวัดมายังโกดัง 7 นสพ.ไทยรัฐ ถนนวิภาวดีรังสิต เมื่อวันที่ 2 ก.ค. อย่างต่อเนื่อง เพื่อรอคัดแยกอย่างเป็นทางการ โดยระดมนักศึกษาและเจ้าหน้าที่บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ผลัดละ 1.6 พันคนทำหน้าที่ ขั้นตอนการทำงาน จะนำถุงเมล์บรรจุไปรษณียบัตรไปชั่งน้ำหนักหาค่าเฉลี่ยก่อนนำไปเทกองรวมกันแล้วบรรจุใส่กระบะที่เตรียมไว้เพื่อรอการคัดแยกโดยนักศึกษาสถาบันสันติราษฎร์บริหารธุรกิจฯ และเจ้าหน้าที่บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด แยกคำทายผลทีมสเปนและทีมทายไม่ถูกออกจากกัน แล้วตรวจสอบความถูกต้องของไปรษณียบัตรตามกติกาอย่างละเอียด

ช่วงเย็นวันเดียวกัน น.ส.อานุสรา จิตต์มิตรภาพ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทยฯ และคณะผู้บริหาร เดินทางมาตรวจเยี่ยมการลำเลียงไปรษณียบัตรและตรวจความเรียบร้อยการเตรียมงานคัดแยกไปรษณียบัตรที่โกดัง 7 นสพ.ไทยรัฐ พร้อมทั้งเปิดเผยว่า ยอดจำหน่ายไปรษณียบัตรทั่วประเทศ ณ เวลา 12.00 น. วันที่ 2 ก.ค. มีจำนวน 164 ล้านฉบับ ส่วนยอดไปรษณียบัตรทายผลฟุตบอลยูโร 2012 ส่งถึงมือหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 2 ก.ค. มีจำนวน 118,656,886 ฉบับคิดเป็นน้ำหนัก 334,244.75 กิโลกรัม

ทั้งนี้ การลุ้นอภิมหาโชคครั้งนี้ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ได้จับมือกับพันธมิตร 10 สปอนเซอร์ยักษ์ใหญ่วงการธุรกิจเมืองไทย ประกอบด้วย บริษัท จีเนท เอ็กซ์เพรส จำกัด บริษัท เจมส์ แกลอรี่ อินเตอร์เนชั่นแนล แมนูแฟคเจอเร่อ จำกัด บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) บริษัท ตรีเพชร อีซูซุเซลส์ จำกัด บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด บริษัท เอ็มเอ็มพี คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) จัดโครงการ “ทายผลแชมป์ฟุตบอลยูโร 2012” มอบอภิมหาโชคด้วยการแจกเงินสดๆถึง 30 ล้านบาท (สามสิบล้านบาท) กำนัลแก่แฟนบอลชาวไทยให้ได้ลุ้นบอลและลุ้นโชคกันอย่างจุใจ เพียงแค่ทายผลถูกต้องว่าทีมใดจะเป็นแชมป์ฟุตบอลยูโร 2012 โดยรางวัลที่ 1 จะได้รับรางวัลเงินสดถึง 10 ล้านบาท รางวัลที่ 2 เงินสด 1 ล้านบาท จำนวน 10 รางวัล รางวัลที่ 3 เงินสด 1 แสนบาท จำนวน 100 รางวัล

นอกจากนี้ “ไทยรัฐ” ยังอัดฉีด “รางวัลพิเศษ” กำนัลแก่แฟนบอลชาวไทย ประกอบด้วย รางวัลพิเศษ 1 รถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นสเปซี่ ไอ จำนวน 25 คัน ราคาคันละ 41,300 บาท จากบริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด รางวัลพิเศษ 2 โทรทัศน์พานาโซนิค พลาสม่าทีวี ขนาด 42 นิ้ว จำนวน 35 เครื่อง ราคาเครื่องละ 39,990 บาท จากบริษัท พานาโซนิค ซิว เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด รางวัลพิเศษ 3 รถยนต์ฮอนด้า บริโอ้ จำนวน 2 คัน ราคาคันละ 508,500 บาท จากบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด รางวัลพิเศษ 4 สร้อยคอทองคำเส้นละ 5 บาท จำนวน 10 เส้น ราคาเส้นละ 125,000 บาท จากบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) รางวัลพิเศษ 5 รถโฟล์ก รุ่นกอล์ฟ จีที 1 คัน ราคาคันละ 1,980,000 บาท และรถตู้เฌอรี่ รุ่นบิ๊กดี 1 คัน ราคาคันละ 959,000 บาท จากบริษัท ไทยยานยนตร์ จำกัด รางวัลพิเศษ 6 จี-แพด แทบเล็ต 7.0 เอ็กซ์ตรีมวัน จำนวน 200 รางวัล รางวัลละ 5,990 บาท รวมมูลค่า 1,198,000 บาท จากบริษัท จีเนท เอ็กซ์เพรส จำกัด รางวัลพิเศษ 7 บัตรกำนัลเดอะมอลล์ จำนวน 30 รางวัล รางวัลละ 50,000 บาท รวมมูลค่า 1,500,000 บาท จากบริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด

และรางวัลพิเศษ 8 เงินสดจำนวน 150 รางวัล รางวัลละ 10,000 บาท รวมมูลค่า 1,500,000 บาท จากบริษัท เนเจอรัล เฮิร์บ อินดัสตรี่ จำกัด มอบเป็นอภิมหาโชคแก่ผู้โชคดี

...