อยู่เมืองไทยกว่า10ปไม่มีงานทำเป็นหลักก่อคดีงัดตู้3หนซ้อนพยานวงจรปิดมัดตัว

รวบแล้วแก๊งโจรแสบตระเวนงัดตู้เอทีเอ็ม 3 แห่ง เป็น 2 หนุ่มเมืองผู้ดี ร่วมกับเพื่อนสัญชาติเดียวกันที่ยังหลบหนี วางแผนงัดตู้เอทีเอ็มเพื่อขโมยเงิน ตำรวจบุกรวบหลังก่อเหตุรายล่าสุดไม่ทันข้ามคืนเพราะได้ภาพกล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถปิกอัพที่ผู้ต้องหาขับไปซื้อเชือกลากจูงจากร้านขายวัสดุก่อสร้าง ผู้ต้องหารับสารภาพก่อเหตุเพียง 2 ครั้งหลัง แต่ปฏิเสธไม่ได้งัดตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงเทพที่เกิดเหตุครั้งแรก ตำรวจไม่เชื่อเพราะพฤติกรรมและอุปกรณ์ที่ใช้เหมือนกัน

จากพฤติกรรมโจรแสบตระเวนใช้เชือกมัดกระชากตู้เอทีเอ็มธนาคารต่างๆในพื้นที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยคนร้ายฉวยจังหวะลงมือช่วงเช้ามืดใช้เชือกขนาดใหญ่ผูกตู้เอทีเอ็มโยงกับรถเก๋งแล้วขับรถกระชากอย่างแรง ทำให้ตู้เอทีเอ็มพังเสียหาย แต่คนร้ายไม่สามารถงัดเอาเงินในตู้เอทีเอ็มออกมาได้ ครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา คนร้ายงัดตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงเทพ สาขาบ่อวิน ท้องที่ สภ.บ่อวิน ครั้งที่ 2 วันที่ 21 มิ.ย. งัดตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาย่อยตลาดสี่มุมเมืองแหลมฉบัง ท้องที่ สภ.แหลมฉบัง ล่าสุดวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา งัดตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาสี่แยกปากร่วม ท้องที่ สภ.บ่อวิน ซึ่งตำรวจคาดว่าคนร้ายเป็นแก๊งชาวต่างชาติและกำลังไล่ล่าตัวอย่างกระชั้นชิด

ในที่สุดตำรวจก็ตามรวบตัวแก๊งโจรต่างชาติงัดตู้เอทีเอ็มได้เกือบยกแก๊ง โดยเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 29 มิ.ย. ที่หน้า บก.ภ.จ.ชลบุรี พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.จำนงค์ รัตนกุล ผบก.ภ.จ.ชลบุรี พ.ต.อ.สุภธีร์ บุญครอง พ.ต.อ.สายเพชร ศรีสังข์ รอง ผบก.ภ.จ.ชลบุรี ร่วมกันแถลงผลจับกุมนายอเล็ก–ซานเดอร์ มิลเบิร์น อายุ 25 ปี สัญชาติอังกฤษ และนายชอน เอ็ดเวิร์ด เทรซี อายุ 34 ปี สัญชาติเดียวกัน พร้อมของกลางเชือกลากจูง 2 เส้น ตะขอเกี่ยวเหล็ก 4 ตัว รถเก๋งยี่ห้อโตโยต้าคัมรี่สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน รถเก๋งนิสสันเทียน่าสีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ชป 5354 กรุงเทพมหานคร และรถปิกอัพนิสสันนาวาร่าสีดำ ทะเบียน ผธ 836 ชลบุรี รวม 3 คัน พาหนะที่ใช้ก่อเหตุ รองเท้าผ้าใบสีดำและสีขาวที่ผู้ต้องหาสวมใส่ในวันก่อเหตุจำนวน 4 คู่

พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ.2 กล่าวว่า หลังเกิดเหตุคนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์เงินสดในตู้เอทีเอ็มในพื้นที่ จ.ชลบุรี รวม 3 ครั้ง ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.จำนงค์ รัตนกุล  ผบก.ภ.จ.ชลบุรี ดูแลกำกับการสืบสวนสอบสวนเพื่อล่าตัวคนร้ายกระทั่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองได้พร้อมของกลาง

ด้าน พล.ต.ต.จำนงค์ รัตนกุล ผบก.ภ.จ.ชลบุรี เปิดเผยเบื้องหลังการจับกุมว่า หลังเกิดเหตุได้ลงไปในพื้นที่เร่งรัดชุดสืบสวน สภ.แหลมฉบัง และ สภ.บ่อวิน ท้องที่เกิดเหตุระดมกำลังหาเบาะแสคนร้าย ประกอบกับได้เบาะแสจากกล้องวงจรปิดของธนาคารที่จับภาพคนร้ายเป็นชาวต่างชาติและรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ รวมทั้งหลักฐานของกลางเช่นสายลากจูงและตะขอที่คนร้ายทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ โดยชุดสืบสวน สภ.แหลมฉบัง นำโดย พ.ต.อ.ศักดิ์รพี เพียวพานิช ผกก.สภ.แหลมฉบัง พบว่าคนร้ายซื้อสายลากจูงและตะขอเหล็กจากร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างแห่งหนึ่งใน อ.ศรีราชา โดยเจ้าของร้านยืนยันว่า สายลากจูงดังกล่าวมีขายที่ร้านนี้ร้านเดียว พร้อมให้ข้อมูลว่าคนที่มาซื้อเป็นชาวต่างชาติ 2 คน

ผบก.ภ.จ.ชลบุรีกล่าวต่อว่า ต่อมาบ่ายวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าของร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างดังกล่าว ได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจว่า ชาวต่างชาติชุดเดิมไปซื้อสายลากจูงชนิดเดียวกันอีก แต่กว่าตำรวจจะไปถึงชาวต่างชาติทั้ง 2 คนก็ออกจากร้านไปแล้ว จึงขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดปั๊มน้ำมันที่ติดกับร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้าง พบว่าชาวต่างชาติทั้ง 2 คนใช้ปิกอัพนิสสันของกลางเป็นพาหนะ ตรวจสอบทะเบียนรถพบว่าเป็นของนายจอห์น เลสลี มิลเบิร์น อายุ 58 ปี พ่อของนายอเล็กซานเดอร์ อยู่บ้านเลขที่ 31/17 หมู่ 6 ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี แต่นายจอห์นเดินทางกลับประเทศอังกฤษไปแล้ว และเชื่อว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี ส่วนรถคันดังกล่าวนายอเล็กซานเดอร์ ผู้ต้องหา อยู่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ในซอยเทพ-ประสิทธิ์ พัทยาใต้ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เป็นผู้นำรถไปใช้

พล.ต.ต.จำนงค์กล่าวต่อว่า จากนั้นชุดสืบสวนได้เข้าตรวจค้นบ้านเช่าดังกล่าวเมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุงัดตู้เอทีเอ็มครั้งหลังสุด และสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองได้ที่บ้านดังกล่าว พร้อมรถปิกอัพและรถเก๋งนิสสันที่เช่ามาใช้ก่อเหตุ ส่วนรถเก๋งโตโยต้าคัมรี่ เป็นรถเช่าจากเต็นท์รถแห่งหนึ่ง ผู้ต้องหาส่งคืนไปก่อนแล้ว ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 คนมาอยู่ที่พัทยานานกว่า 10 ปี ในฐานะนักท่องเที่ยว พูดภาษาไทยคล่องและรู้จักพื้นที่เป็นอย่างดี โดยทั้งคู่ไม่ได้ทำงานอะไร พอเงินหมดจึงร่วมกับนายริชชี ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง อายุราว 30 ปี เพื่อนสัญชาติเดียวกัน ที่ยังหลบหนี วางแผนงัดตู้เอทีเอ็มเพื่อลักเงินในตู้ และลงมือพร้อมกันทั้ง 3 คน โดยเช่ารถเก๋งจากเต็นท์รถเพื่อใช้ลากตู้เอทีเอ็มจากที่ตั้ง พร้อมเตรียมรถปิกอัพไว้เพื่อบรรทุกตู้เอทีเอ็มด้วย ส่วนที่ก่อเหตุแล้วไม่สามารถเอาเงินจากตู้เอทีเอ็มได้ เพราะไม่มีความรู้ในการเปิดตู้ ประกอบกับขณะลากตู้ออกมาแล้ว เกิดสัญญาณเตือนภัยดัง ทำให้ตกใจรีบเผ่นหนี

ผบก.ภ.จ.ชลบุรีกล่าวอีกว่า เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 2 คนให้การรับสารภาพว่า  ได้ร่วมกันงัดตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงศรีอยุธยา 2 ครั้งหลัง คือวันที่ 21 มิ.ย. กับวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา ส่วนเหตุงัดตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงเทพ สาขาบ่อวิน เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทั้งคู่ให้การปฏิเสธ แต่พฤติกรรมการก่อเหตุ รวมทั้งอุปกรณ์ที่ใช้เหมือนกัน สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นฝีมือคนร้ายชุดเดียวกัน จึงแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ทั้ง 3 คดี และจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อมัดผู้ต้องหาให้ดิ้นไม่หลุด และติดตามจับกุมนายริชชีที่ยังหลบหนีมาดำเนินคดีต่อไป

...