พาหนะทางทหารนอกจากรถถัง รถสายพานลำเลียงพล หรือยานยนต์ในแบบอื่นๆที่ใช้งานในกิจการของทหารแล้ว ยังมีรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อหรือหกล้อ ที่สามารถบุกตะลุยไปได้ในทุกสภาวะ เพื่อเข้าร่วมหรือสนับสนุนในการรบ ลำเลียงกำลังพลหรืออาวุธ และช่วยเหลือทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากการรบ ยานยนต์เหล่านี้มีบทบาทสำคัญยิ่งแทบทุกสมรภูมิในประวัติศาสตร์ของสงครามที่ผ่านมา...



*********Humvee High Mobility Multipurpose Wheeled Vehicle

ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1970 กองทัพบกอเมริกันมีความต้องการยานพาหนะทางทหารแบบสี่ส้อ โดยได้ออกแบบรูปร่างและสเปคที่ต้องการแล้วมอบหมายให้บริษัทที่ชนะการประมูล นำแผนแบบไปสร้างซึ่งได้แก่บริษัท AM General หลังจากนั้นบริษัท AM General ได้สร้างรถต้นแบบออกมาในปี 1979 ในรหัส M998 และนำมาให้กองทัพทดสอบซึ่งได้ผลลัพธ์เป็นที่พอใจ กองทัพบกอเมริกันจึงตัดสินใจสั่งให้ AM General ผลิตและส่งมอบรถ Humvee เป็นจำนวนถึง 55,000 คัน ภายในปี1985 หลังจากนั้นมันถูกใช้งานในสงครามต่างๆทั่วโลกและเข้าร่วมปฏิบัติการสำคัญๆ มากมายเช่นสงครามอ่าวเปอร์เซียที่รู้จักกันในชื่อปฏิบัติการพายุทะเลทราย(Dessert Strom),สงครามปลดปล่อยอิรักในปี 2003 สงครามต่อต้านการก่อการร้ายในอาฟกานิสถาน รถ Humvee มีความสูงจากพื้นถนนถึงเกือบ 50 ซ.ม. มีความเร็วสูงสุดกว่า 125 กิโลเมตร/ชั่วโมง เมื่อเติมเชื้อเพลิงเต็มถังสามารถวิ่งได้ไกลถึง 550 กิโลเมตร และสามารถดัดแปลงตัวถังให้รองรับระบบอาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหารเช่นจรวดต่อต้านรถถัง ปืนกลขนาด 50 มิลลิเมตร ลำเลียงพลหรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ ตลอดจนติดตั้งระบบเรดาร์แจ้งเตือนหรือตรวจจับ



***********************Land Rover Defender Military

Defender Military รถขับเคลื่อนสี่ล้อจากอังกฤษที่ถูกนำมาใช้งานทางทหาร โดยเริ่มเข้าประจำการตั้งแต่ปี 1983 แต่จุดกำเนิดของมันคงต้องย้อนกลับไปในปี 1948 หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง กองทัพอังกฤษมีความจำเป็นในการจัดหารถยนต์เพื่อใช้งานในกองทัพแทนรถรุ่นเก่าที่กำลังหมดสภาพหลังจากผ่านศึกสงครามครั้งใหญ่ในยุโรป บริษัท Land Rover ค่ายรถเก่าแก่ของสหราชอาณาจักร มีผลิตภัณฑ์แบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ตรงตามความต้องการของกองทัพ ทั้งยังมีความเชี่ยวชาญในระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและเครื่องยนต์รวมถึงระบบส่งกำลังที่แข็งแกร่งทนทาน ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางไปทั่วโลก จึงเข้ามารับหน้าที่ผลิตรถที่ใช้ในกิจการของกองทัพ รถ Land Rover Defender Military ถูกผลิตให้กับกองทัพอังกฤษในปี 1983 ด้วยเครื่องยนต์V8ขนาด3.5 ลิตร 134 แรงม้า พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลา ทำให้มันกลายสภาพมาเป็นรถทหารของหลายๆประเทศจากสมถรรนะที่โดดเด่นไม่เป็นรองใคร ซึ่งจะพบเห็นมันได้ในสงครามฟอล์คแลนด์ สงครามอ่าวปอร์เซียครั้งแรก สงครามปลดปล่อยอิรัก และยังประจำการอยู่ตามกองทัพของประเทศในกลุ่มจักรภพอังกฤษอีกเป็นจำนวนมาก



********************************************
Jeep Willys MB

Jeep Willys MB เริ่มต้นขึ้นในสายการผลิตรถยนต์ของกองทัพอเมริกันตั้งแต่ปี 1941 มันคือม้างานที่มีความยอดเยี่ยมในสมถรรนะ และทำให้นาวิกโยธินของสหรัฐอเมริกาสามารถบุกตะลุยจากชายหาดซิชิลีส์เข้าสู่นอร์มังดีของฝรั่งเศสจนถึงเมืองเบอร์ลินฝั่งตะวันตกได้อย่างง่ายดาย ถึงแม้ว่าจะมีรูปทรงที่เล็กกระทัดรัดแต่มันมีความเหมาะสมในทุกสภาพของภูมิประเทศ ทั้งในเขตร้อนชื้นแบบป่าดิบฝนและเขตภูเขาที่มีหิมะปกคลุม การออกแบบให้มีขนาดที่ส้ันด้วยฐานล้อที่มีความยาวแค่ 65 นิ้ว และตัวถังทำจากอลูมิเนียม ทำให้สามารถขนขึ้นเครื่องบินลำเลียงทางทหารได้อย่างสะดวก เครื่องยนต์ 4 กระบอกสูบแบบไซด์วาว์ล 2199 c.c. 60 แรงม้า พร้อมแรงบิดมหาศาลในรอบต่ำเพียง 1200 รอบต่อนาที เกียร์ธรรมดา 2 จังหวะและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Low-Hi 4WD ด้วยคุณประโยชน์ดังกล่าวทำให้มันเป็นผู้กำชัยชนะทั้งสงครามโลกครั้งที่สอง สงครามต่อต้านลัทธิคอมมิวนิสต์ที่เกาหลี สงครามเวียดนาม จวบจนปัจจุบันมันก็ยังคงถูกใช้งานต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้ในหลายๆกองทัพซึ่งรวมถึงกองทัพบกของประเทศไทยด้วย Jeep Willys MB ถูกผลิตขึ้นทั้งหมดถึง 6.4 แสนคันจากปี 1941-1945



*************************
Lamborghini LM 002

มันคือรถทหารในคราบรถ SUV 4WD ขนาดยักษ์จากค่ายกระทิงดุที่มักจะสร้างแต่ซุปเปอร์คาร์พลังสูง ซึ่งผลิตขึ้นในปี 1977 และถูกสั่งซื้อเพื่อเข้าประจำการในกองทัพของลิเบีย หลังจากนั้นมันจึงกลายเป็นรถยนต์ประจำตำแหน่งของบรรดานายพลและเจ้าผู้ครองนครในแถบตะวันออกกลาง ทั้งซาอุดิอาระเบีย คูเวตรวมถึงสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ด้วยพละกำลังมหาศาลกว่า 350 แรงม้า จากเครื่องยนต์V12 ที่ใช้ร่วมกันกับรถสปอร์ตรุ่น Countach และยิ่งทำให้เป็นที่รู้จักกันมากยิ่งขึ้นจากการที่ Lamborghini LM 002 ซึ่งเป็นรถประจำตำแหน่งของ อูเดย์ ฮุสเซน บุตรชายของซัดดัม ฮุสเซน อดีตประธานาธิปดีอิรักในช่วงสงครามปลดปล่อย ถูกยึดและนำมาใช้งานทดสอบการวางระเบิดแบบคาร์บอมส์โดยกองกำลังนาวิกโยธินของอเมริกันในเมือง Baqubah สุดท้ายLM 002 คันนี้ถูกระเบิดทิ้งจนแทบจะไม่เหลือซาก



*********************************************
M561 Gamma Goat

เจ้าแพะงานคันใหญ่นี้ถูกสร้างขึ้นโดยกองทัพบกของอเมริกันเพื่อนำมันไปใช้งานในสภาพภูมิประเทศที่ทุรกันดารของเวียดนามในสงครามต่อต้านลัทธิคอมมิวนิสต์ ลำตัวสั้นอวบบวกกับรถพ่วงคันโตที่บริเวณด้านท้ายทำให้มันมีรูปทรงที่ประหลาด แต่กลับใช้งานได้ดีเกินคาด เนื่องจากมันถูกออกแบบให้วิ่งได้แทบจะทุกสภาพของเส้นทาง ลักษณะที่โดเด่นของเจ้า M561 Gamma Goat คือกระจังหน้าที่สั้นจู๋ เครื่องยนต์ถูกนำไปไว้ทางด้านหลัง พร้อมด้วยรถพ่วงแบบสองล้อขนาดยักษ์ รับหน้าที่ลำเลียงอาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหาร เช่นลูกปืนใหญ่และกล่องกระสุนปืน เสบียง หรือเป็นรถพยาบาลสนามเพื่อรับผู้บาดเจ็บส่งกลับแนวหลังได้อย่างยอดเยี่ยม รถ M561 Gamma Goat เริ่มต้นพัฒนาขึ้นในปี 1959 เพื่อใช้งานในสงครามเวียดนาม และยังคงมีประจำการอยู่ในกองทัพต่างๆทั่วโลกจนถึงทุกวันนี้



***************************************
Mercedes Benz G-Class Military

รถทหารจากเยอรมันนีถือได้ว่าเป็นรถยนต์ที่มีวิศวกรรมโครงสร้างและการออกแบบเครื่องยนต์ ช่วงล่าง ระบบส่งกำลัง และซัสซีส์ที่ไม่เป็นรองใคร โดยจะสังเกตได้จากการบุกทวีปยุโรปในช่วงต้นของสงครามโลกครั้งที่สอง กองกำลังของเยอรมันใช้เวลาเพียงน้อยนิดในการบุกยึดโปแลนด์ ฝรั่งเศส ฮอลแลนด์ เบลเยี่ยม และเชกโกสโลวาเกียแบบสายฟ้าแลป ด้วยกองทัพของยานพาหนะทางบกที่ยอดเยี่ยม จนถึงปัจจุบันนี้ รถ Mercedes Benz รุ่น G-Class Military ได้เข้ามารับหน้าที่แทนรถรุ่นเก่าที่ปลดประจำการด้วยความสามารถของตัวรถ สมถรรนะทางการขับเคลื่อนที่แข็งแกร่ง คงทนและสมบุกสมบัน ทำให้มันกลายเป็นพาหนะขับเคลื่อนสี่ล้อที่ได้รับความนิยมมากในหลายๆกองทัพเช่น เยอรมันนี ฝรั่งเศส ออสเตรีย อาเจนติน่า แคนนาดา โครเอเซีย ฟินแลนด์ ไทย ฯลฯ รถ Mercedes Benz G-Class Military มีขนาดของเครื่องยนต์ดีเซลตั้งแต่ 2.0L 160 แรงม้า ไปจนถึง 5.4L 469 แรงม้า ให้เลือกตามความต้องการของกองทัพต่างๆทั่วโลก



*************************************
Mercedes Benz Unimog Military

รถลำเลียงพลสี่ล้อขนาดกลางของเยอรมันนีคันนี้มีจุดกำเนิดหลังจากสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลงในปี 1946 และพัฒนาต่อเนื่องจนมาถึงปี 2002 เนื่องจากความต้องการในการใช้งานรถบรรทุกแบบ 4WD ของกองทัพเยอรมันซึ่งในภายหลังได้เข้าร่วมกับกองกำลังของกลุ่มประเทศสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต้ (Nato) รถบรรทุกทหาร MB Unimog มีสมถรรนะที่ตรงตามความต้องการต่อกิจการของทหารและพลเรือนจากความอเนกประสงค์ของตัวรถ ที่สามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบและถูกนำไปเข้าประจำการในหลายๆหน่วยงานพลเรือนเช่น ตำรวจดับเพลิง หน่วยราชการทั้งรถไฟและกรมทางหลวง หรือรถกู้ภัยประจำสนามบิน รวมถึงการเป็นรถลำเลียงพล รถหุ้มเกาะติดปืนอัตโนมัติ หรือรถติดตั้งระบบเรดาร์ของทหารทั้งในยุโรปและเอเซียซึ่งก็รวมถึงกองทัพบกของไทย ความยอดเยี่ยมและแข็งแกร่งทนทานของรถบรรทุกทหาร MB Unimog เริ่มตั้งแต่รุ่น 404 เครื่องยนต์ 2.2 ลิตร 6 กระบอกสูบ ซิงเกิ้ลโอเวอร์เฮตแคม (Mercedes Benz M180) 80 แรงม้า ที่ผลิตขึ้นในปี 1955-1980 จนถึงรุ่นปัจจุบันคือ MB Unimog U500 ปี 2002 เครื่องยนต์ 4.8 ลิตร สี่กระบอกสูบ พร้อมระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบ OM924 LA 218 แรงม้า



**********************************************
Volvo TP21

ถึงแม้ว่าสวีเดนจะอยู่ในกลุ่มประเทศที่เป็นกลางยามเกิดสงคราม แต่ก็มีกองกำลังป้องกันตนเองพร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหารเช่น เครื่องบินรบชั้นเยี่ยมจากบริษัท SAAB และรถยนต์หรือยานยนต์หุ้มเหาะจาก Volvo ตามการใช้งานที่เหมาะสมกับสภาพภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยป่าและภูเขาสูงของสวีเดน ในปี 1952 กองทัพมีความต้องการรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อเพื่อใช้ในหน่วยงานทางทหารและการลาดตระเวนเขตแนวชายแดนที่มีสภาพของเส้นทางทุรกันดาร โครงการสร้างรถทหารของ Volvo จึงเริ่มต้นขึ้นในปี 1953-1958 โดยสร้างขึ้นจากพื้นฐานของรถแท็กซี่ในกรุงสต็อกโฮล์ม รถ Volvo TP21มีเครื่องยนต์แบบไซด์วาว์ล 6 สูบ 3645 c.c. 90 แรงม้าที่ 3600 รอบ/นาที หลังจากนั้นมันถูกตั้งชื่อโดยทหารบกของสวีเดนว่า Sugga ซึ่งหมายความว่า หมูตัวเมีย นั่นเอง รถ Volvo TP21 เข้าประจำการในกองทัพของสวีเดนจนถึงปี 1965 จึงถูกปลดประจำการโดยไม่เคยได้ออกศึกสงครามแม้แต่ครั้งเดียว



**************************Alvis Stalwart FV620

มันคือพาหนะทางทหารที่มีถึง 6 ล้อเพื่อการขับเคลื่อนแบบสูงสุดของกองทัพอังกฤษ รถAlvis Stalwart FV620 ถือกำเนิดขึ้นในปี 1966 โดยพัฒนาและสร้างขึ้นเพื่อใช้งานในกองทัพบกอังกฤษ สมถรรนะอันเหลือเชื่อของมันเกิดขึ้นจากการออกแบบให้วิ่งในน้ำด้วยระบบ water-jet propulsion units ซึ่งทำความเร็วในน้ำได้ถึง 6 knots แต่สิ้นเปลืองและต้องซ่อมบำรุงชิ้นส่วนที่โดนน้ำอยู่บ่อยครั้ง ภายหลังระบบนี้จึงถูกนำออกไปและพัฒนาขึ้นใหม่ รถ Alvis Stalwart FV620 ใช้เครื่องยนต์ของ Rolls Royce B81 6.5 ลิตร 8 สูบ ขับเคลื่อนด้วยระบบส่งกำลังแบบ 4 จังหวะพร้อมกันทั้ง 6 ล้อ ทำให้มันเป็นรถสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกของทหารที่มีน่าตาแหวกแนวมากที่สุด



**************************************OTR21 Tochka

รถบรรทุกจรวดมิสไซล์หรือขีปนาวุธทางยุทธวิธีแบบ 6 ล้อของรัสเซีย ที่กลายสภาพเป็นภัยคุกคามร้ายแรงในยุคสงครามเย็น รถ OTR21 Tochka สามารถบรรทุกขีปนาวุธแบบ SS21 ติดหัวรบนิวเคลียร์ที่มีพิสัยยิงไกลถึงกว่า 120 กิโลเมตร และแปรเปลี่ยนเป็นฐานยิงจรวดเคลื่อนที่หรือรถบรรทุกทางทหารได้อย่างง่ายดาย มันถูกออกแบบและสร้างขึ้นในช่วงสงครามเย็นระหว่างปี 1976-1986 เพื่อเข้าประจำการในกลุ่มประเทศที่นิยมลัทธิคอมมิวนิสต์และเป็นเครื่องมือในการคานอำนาจกับกองกำลังของนาโต้ในยุโรป ซึ่งสามารถสร้างความน่าเกรงขามให้กับฝ่ายโลกเสรีในยุคแห่งความหวาดระแวงได้เป็นอย่างดี

arcom roumsuwan
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Photo By
www.defenseindustrydaily.com
www.en.wikipedia.org

...