อภิชาติ

วาสนาดีได้เกิดมาเป็นลูกหลานตระกูลเศรษฐีทั้งที ก็ใช่ว่าจะนั่งกินนอนกินรอมรดกไปวันๆอย่างเดียว เพราะรวยได้ก็จนได้ ถ้าไม่รู้จักต่อยอดธุรกิจครอบครัวให้มั่งคั่งยิ่งขึ้น...

วาสนาดีได้เกิดมาเป็นลูกหลานตระกูลเศรษฐีทั้งที ก็ใช่ว่าจะนั่งกินนอนกินรอมรดกไปวันๆอย่างเดียว เพราะรวยได้ก็จนได้ ถ้าไม่รู้จักต่อยอดธุรกิจครอบครัวให้มั่งคั่งยิ่งขึ้น  นี่คือคติประจำใจที่เหล่านักธุรกิจโลว์  โพรไฟล์...ไฮโพรฟิต ยึดถือเป็นหลักสำคัญในการทำมาหากิน จนแอบรวยแบบเงียบๆ สามารถสร้างฐานะเป็นปึกแผ่นในเวลารวดเร็ว ก็จากการสานต่อกิจการของอากงอาม่า ป่าป๊า หม่าม้า ด้วยวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่น


นิลุบล

รุ่นใหญ่ที่เข้ามาสานต่อธุรกิจมูลค่ามหาศาลของครอบครัว ต้องยกให้คู่พี่น้อง อภิชาติ อรรถกวีสุนทร และ นิลุบล นันทาภิวัฒน์ เป็นทายาทมหาเศรษฐีที่รวยแบบเงียบๆ เพราะที่ดินย่านถนนพระราม 4 ตั้งแต่สุขุมวิท 22 เรื่อยไปจนอาคารมาลีนนท์ ช่อง 3 และยังมีที่ดินย่านพระราม 9 บางส่วน ล้วนเป็นที่มรดกของต้นตระกูล (พระยาอรรถกระวีสุนทร) นิลุบล นับเป็นหนึ่งในทายาทที่เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาที่ดินของครอบครัวให้มีมูลค่าเพิ่มมาตั้งแต่ยุคแรกๆ เนื่องจากมีความชอบในเรื่องการออกแบบ เรียน ด้านอินทีเรียจากมหาวิทยาลัยในสวิตเซอร์แลนด์  พอกลับมาเมืองไทย  จึงเข้ามาช่วยคุณพ่อ  (อาจ  อรรถกวีสุนทร)  พัฒนา ที่ดินของครอบครัว ด้วยการก่อสร้างอาคารมโนรม ซึ่งถือเป็นอาคารสูงแห่งแรกๆบนถนนพระราม 4 เมื่อหลายปีที่แล้ว ตามด้วยคอนโดฯพร้อมสุข รวมสุข และตึกสิรินรัตน์

ขณะที่ฝ่ายน้องชาย อภิชาติ มีความสนใจด้านการบิน จึงหันไป ลงทุนทำแอร์อันดามัน เป็นสายการบินเล็กๆบินภายในประเทศ แต่โชคไม่อำนวย เพราะไปเจอช่วงที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ และไหนยังจะมีเหตุการณ์ 11 กันยายนที่สหรัฐอเมริกา ตามด้วยโรคซาร์ส ประกอบกับ ต้นทุนธุรกิจการบินสูงมาก ค่าประกันภัยเพิ่มขึ้น น้ำมันแพงขึ้น จึงตัดสินใจขายกิจการและพักรบทางธุรกิจไปหลายปี กระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ อภิชาติ และ นิลุบล ได้เข้ามาช่วยกันพัฒนาที่ดินผืนใหญ่ที่อยู่ในซอยสุขุมวิท 26 (เดิมเป็นสนามกอล์ฟ) ให้เป็นแหล่งช็อปปิ้งของครอบครัว โดยให้ชื่อโครงการว่า "K-Village" "นโยบายการพัฒนาของเราค่อนข้างคอนเซอร์เวทีฟ ไม่รีบร้อนอะไร จะทำไปเรื่อยๆ เราไม่มีอะไรมากดดันว่าต้องทำให้ใหญ่โต  เพราะไม่ได้มีการกู้เงินมามาก  เราทำตามศักยภาพ และทำในสิ่งที่เรามีอยู่ บ้านเราก็อยู่ตรงนี้กันทุกคน  เป็นความผูกพัน  เลยไม่คิดจะขายที่ดินย่านนี้  พอไม่คิดขาย   ก็ต้องทำอะไรให้เกิดประโยชน์และต้องดูดีด้วย"


กรกฤช

เจ้าสัวนักธุรกิจรุ่นเล็กลงมาหน่อย แต่ชั่วโมงบินและภาระรับผิดชอบช่างมากเหลือเกิน ต้องมีชื่อของ กรกฤช จุฬางกูร ทายาทคนที่ 4 ในจำนวนทั้งหมด 6 คนของ สรรเสริญ-หทัยรัตน์ จุฬางกูร เจ้าของธุรกิจหมื่นล้าน "ซัมมิท คอร์เปอร์เรชั่น"  ยักษ์ใหญ่แห่งวงการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ของเมืองไทย  รวมถึงสนามกอล์ฟและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์  แม้ในวัยเด็ก "กรกฤช" จะค่อนข้างเฮ้ว ไม่ตั้งใจเรียน แต่พอเริ่มเข้าสู่ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป จากเด็กที่เรียนลุ่มๆดอนๆ เขากลับมุ่งมั่นตั้งใจเรียนปริญญาตรีและโทที่  American Intercontinental  University จนสามารถคว้าเกียรติ นิยมมาให้บุพการีได้ชื่นใจ  แถมได้รับความไว้วางใจให้เข้ามาบริหารธุรกิจที่เป็นหัวใจหลักของครอบครัว   โดยนั่งเก้าอี้ผู้ อำนวยการบริษัทซัมมิท  โอโต  บอดี้ อินดัสตรี จำกัด ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์รายใหญ่ เฉพาะในส่วนที่  กรกฤช ดูแลอยู่นั้น แต่ละปีทำรายได้มูลค่า สูงถึง  2  หมื่นล้านบาท  ด้วย ความทุ่มเทที่มีให้กับงาน ไหนจะวิ่งดูทั้งเรื่องงบประมาณ   การลงทุนใหม่ๆ  ตลอดจนในส่วนของแม่พิมพ์ที่จะมาขึ้นชิ้นส่วน   จึงทำให้บุพการีเห็นในศักยภาพของทายาทคนขยัน  ปีใหม่นี้  กรกฤช เลยได้รับของขวัญชิ้นงามจากครอบครัว  ให้ขึ้นนั่งแท่นเป็นกรรมการผู้จัดการ ซึ่งหมายความว่าต้องแบกรับภาระที่หนักอึ้งยิ่งขึ้น แต่ กรกฤช ก็ไม่หวั่น แถมยังมุ่งมั่นต่อยอดและรักษาความเป็นผู้นำด้านผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ที่สำคัญคือมีจุดหมายแน่วแน่ที่จะนำพาธุรกิจหมื่นล้านที่รับผิดชอบนี้ให้ก้าวขึ้นไปอยู่ในระดับสากล

...


ระฟ้า

น้องใหม่ล่าสุดในวงการธุรกิจที่รวยทั้งทรัพย์สมบัติและรูปสมบัติ ขอยกให้ ระฟ้า ดำรงชัยธรรม ทายาทยักษ์ใหญ่ธุรกิจบันเทิงของเมืองไทย เพราะความที่เกิดและเติบโตมากับแกรมมี่  จึงซึมซับการทำงานของอากู๋  ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ผู้เป็นพ่อมาอย่างดี หลังคว้าปริญญาตรีสาขา Communication จาก 0University of Southern California (USC) ระฟ้าก็โดดเข้ามาสานต่อการทำงานในแกรมมี่กับพ่อทันที  เริ่มจากการดูภาพรวมธุรกิจของแกรมมี่ทั้งหมด จากนั้นก็รับผิดชอบโดยตรงในบริษัทจีเอ็มเอ็ม ดิจิตอล จำกัด ซึ่งดูแลธุรกิจดิจิตอลโดยเฉพาะ  เพราะมองแล้วว่าโลกนับแต่นี้ไปดิจิตอลเข้ามามีบทบาทอย่างแรง จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเข้ามาบุกเบิกธุรกิจด้านนี้ให้ล้ำไปข้างหน้า ผลงานชิ้นเด่นของระฟ้าคือ การโปรโมตและการตลาด *123 แกรมมี่ได้หมดเลย  เป็นบริการเบอร์เดียวในการโหลดเพลงรอสาย ริงโทน เพลงเต็ม และมิวสิกวีดิโอของแกรมมี่ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ  ในการเข้ามาสานต่อธุรกิจของครอบครัว ระฟ้าบอกว่าต้องพยายามเรียนรู้จากรุ่นพี่ๆ และค่อยๆสร้างจุดเล็กๆให้เติบโตในอนาคต โดยมีหลักคิดในการทำงานตามที่ได้รับการปลูกฝังจากคุณพ่อคือ  "มุ่งมั่น  วางแผน  ลงมือทำ  พยายาม สม่ำเสมอ".