' ขนมแม่เอ้ย หวานใครทานบ้างครับ หากใครอยากรับ เชิญครับเชิญชิมกันให้ทั่ว ผมปรุงด้วยมือผมเอง รับรองอย่ากลัว ขนมผมพิเศษทั่ว หากทานถึงผัวแล้วอิ่มถึงเมีย...' เสียงเพลง พ่อค้าขนมปลากริม ของ สุรพล สมบัติเจริญ ที่ออกมาจากรถซาเล้งติดเครื่องดังทั่วถนน เรียกความสนใจได้มากมาย
ทั้งยังขยี้ 'รอยยิ้ม' เพิ่มความน่าสนใจเข้าไปใหญ่ เมื่อเห็นคนขายแจกยิ้มเฉ่ง แต่งกายด้วยชุดสูทหล่อเหลา รองเท้าหนังมันวาว ราวกับตัวเองในหนังเรื่อง Men In Black มาดเท่ กำลังประคอง 'ปลากริมไข่เต่า' ที่ส่งกลิ่นหอมฉุย ซึ่งนอนนิ่งยิ้มหวานอยู่ในทัพพีบรรจงประคองใส่แก้วใบใส ไปเสิร์ฟให้กับลูกค้าที่ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นกำลังมุงถ่ายรูปคู่กับเจ้าของร้าน มาดเท่มากมาย จนหลายคนที่พบเห็นอดอมยิ้มเพราะความน่ารักไม่ได้
ไทยรัฐออนไลน์เข้าไปสอบถามพบว่าชื่อ นายสังวาลย์ คำประเวศน์ หนุ่ม จ.ร้อยเอ็ด ปัจจุบัน แม้อายุ 51 ปี แต่หน้าตายังเด็กเกินวัยเจ้าของร้านปลากริมไข่เต่าที่เท่สุดในปฐพี เล่าจุดเริ่มของไอเดียสุดบรรเจิดนี้ว่า เดิมตนเป็นคน จ.ร้อยเอ็ด ก่อนหน้านี้ทำนาและมาวิ่งสามล้อที่อุดรฯ หลังรายได้ไม่ดี จึงไปเป็นเด็กรถที่ จ.สกลนคร ระยะใหญ่ จากนั้นพี่ชายชวนให้ไปทำขนมปลากริมไข่เต่าขายได้โดยได้สูตรอร่อยขั้นเทพการ ทำมาจากเพื่อน หลังจากตนถูกหวย 500 บาท จึงตัดสินใจทิ้งอาชีพเด็กรถ หิวเงินหวยไปซื้อหม้อดินเผาใบละ 50 บาทตามพี่ชายไปขายปลากริมไข่เต่าที่ จ.เลย
...
"สมัยก่อนผมแต่งตัวธรรมดา ไม่ได้ใส่สูท ผูกเนกไท เปิดเพลง ปลากริมไข่เต่า ของ ครูสุรพล อย่างทุกวันนี้" พ่อค้าหัวเราะดังตามประสาคนอารมณ์ดีและว่า จำได้แม่นว่าเอาปลากริมไข่เต่า ที่วันนี้กลายเป็นขนมเงินแสน ใส่หม้อหาบขายในตลาดครั้งแรกที่ จ.ลพบุรี
"ตอนนั้นขายดีถ้วยละแค่ 2 บาท (หัวเราะ) ขนาดยังไม่ได้มีจุดขายอะไร แสดงว่าขนมผมอร่อยมาแต่ไหนแต่ไร ต่อมาพี่ชายไปขายที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ใส่หม้อดินเผาหาบขายตั้งแต่เช้าจนถึงเย็น เรียกได้ว่าเดินวันละเกือบ 100 กม.อยู่แบบนั้นประมาณ 5 ปี แม้จะขายดีแต่ยังไม่มีเงินเก็บเพราะเป็นคนกิน คนเที่ยว พออายุถึงเกณฑ์ทหารจึงไปจับใบ ดำ-แดง แต่ดันไม่โดน ทั้งๆ ที่อยากเป็น ต่อมาจึงไปบวชเพราะมีคนบอกว่าบวชแล้วดวงจะดีขึ้น (หัวเราะ) ไม่ถึงปีก็สึกออกมาขายขนมปลากริม ต่อมาก็ย้ายตามพี่ชายมาอยู่ กทม. พร้อมกับได้เมีย แต่เสียเงิน และหันไปประกอบอาชีพวิ่งรถรับจ้างแทนการขายขนม กระทั่งต้องตามพี่ชายมาพักบ้านเช่าแถวบางเสาธงอยู่ได้สักระยะ ที่สุดจึงตัดสินใจมาเช่าบ้านเองแถวตลาดเทเวศร์ พร้อมกับหันมาขายปลากริมไข่เต่าตามเดิม"
ตอนเดินขายที่กรุงเทพฯ ใหม่ๆ แต่งตัวเท่แบบนี้แล้วหรือยัง - เราสงสัย ? พ่อค้าอารมณ์ดี บอกว่า แต่งแล้ว แต่ยังไม่เต็มรูปแบบ ใส่แค่เสื้อเชิ้ตขาวกับเนกไท ยังไม่กล้าใส่สูท เพราะอากาศร้อน เหงื่อไหลเต็มหลัง เต็มรักแร้ และยังต้องเดินขายไกลๆ อยู่ ทว่าหลังจากเก็บเงินซื้อซาเล้งติดเครื่องคันละหลายหมื่นบาทได้ จึงเพิ่มออฟชั่นแบบที่ตั้งใจด้วยการใส่สูทหล่อแบบเต็มยศเต็มรูปแบบเหมือนที่ตั้งใจ
"ถามว่าทำไมต้องแต่งตัวเว่อร์ ใส่สูทผูกเนกไท สวมรองเท้าหนังมันวาวขนาดนี้เรียบร้อย หล่อเหลาขนาดนี้ ผมคิดเอาเองว่า ถ้าเราขายของกินให้กับคน เราก็น่าจะแต่งตัวเรียบ ร้อยสะอาดสะอ้าน ส่วนเรื่องเปิดเพลงปลากริมไข่เต่าของสุรพล สมบัติเจริญ ทั่วทั้งถนนก็เพราะว่าผมชอบครูสุรพลมาก แล้วเพลงปลากริมไข่เต่าก็เข้ากับขนมที่เราขายขับรถเปิดเพลงไปผ่านตรงไหนใคร ก็สนใจ เสียงเพลงรอสายผมก็เป็นเพลงของครูสุรพลนี้ด้วย นี่ถ้าเสียงดีผมร้องเพลงนี้ไปด้วย แต่ซวยเสียงเราไม่ดี"
ทั้งนี้ หนุ่มอารมณ์ขัน จากร้อยเอ็ด ย้ำว่า โชคดีที่ตนเองอยู่ในยุคทีี่โซเชียลมีเดีย ส่งผลให้วัยรุ่นสนใจ ใครผ่านไปผ่านมาก็ถ่ายรูปแชร์กันใหญ่ ทำให้ยอดขายดีมาก เฉลี่ยแล้วเดือนละหนึ่งแสนเลยทีเดียว
...
"สาวๆ พนักงาน นักเรียน นักศึกษาส่วนใหญ่เป็นสาวๆ เห็นเราก็ชอบมาซื้อปลากริม และขอถ่ายรูปเยอะ เขาบอกเอาไปลงเฟซบุ๊ก (หัวเราะ) บางคนกินแล้วมาขอถ่ายบอกเอาไปลงเฟซบุ๊กให้เพื่อนที่ต่างประเทศดูมันจึงขายได้ ก่อนหน้านี้เราก็ไม่รู้จักเฟซอะไรนี่หรอก แต่พอลูกสะใภ้เอามาให้ดูก็ อ้อๆ ถ่ายไปโพสต์แบบนี้เอง (หัวเราะ) อีกจุดเด่นหนึ่งที่ใครๆ ก็ติดใจก็คือรสชาติของปลากริมที่อร่อยเนื้อปลากริมไม่แข็งจนเกินไป เส้นพอดีคำ หอม รสชาติกลมกล่อม ปัจจุบันราคาใส่แก้วปิด 20 บาทเมื่อหักค่าลงทุนไปแล้ว 3 วัน ตนเองจะมีเงินให้ภรรยาเก็บ 10,000 บาท เฉลี่ยแล้วเดือนหนึ่งจะมีรายได้แสนกว่าบาท"
เจ้าของร้านปลากริมใส่สูท เปิดเพลงสุรพล เล่ากิจวัตรแต่ละวิธีทำปลากริมเงินแสนสูตรเอร็ดอร่อยว่า ทุกๆ เช้าต้องตื่นตี 1 ครึ่งเพื่อนำน้ำตาลปี๊บมาเคี่ยวจนส่งกลิ่นหอมขจรขจาย หลังจากนั้นก็เทน้ำลงไปเพื่อให้น้ำตาลที่เคี่ยวเป็นสีแดงน่า รับประทาน (ส่วนคนที่ชอบกินรสเค็มใส่มะพร้าวคุณภาพดีที่เป็นหัวกะทิแยกต่างหากราดผสมลงไป) สำหรับตัวแป้งผมก็ต้องนวดให้ได้ที่ แบ่งใส่คนละหม้อ หลังจากนั้นก็กดผ่านเครื่องเพื่อให้เป็นเส้นตรง คล้ายๆ ตัวหนอน แล้วจึงอุ่นใส่หม้อให้ร้อนตลอดเวลา
...
เมื่อถามย้ำว่ามีคนมามองการแต่งกาย การเปิดเพลงว่าบ้าไหม พ่อค้าปลากริมบอกว่า มีบ้างแต่ส่วนใหญ่จะเป็นพ่อค้าแม่ค้าด้วยกันพูดว่าแต่งตัวเว่อร์ไปหรือเปล่า เราก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรก็ได้แต่ยิ้มๆ ส่วนลูกค้าก็จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า โอ้โห! พ่อค้าเท่จริงๆ
ปัจจุบันพ่อค้าอัธยาศัยดี บอกว่า มีสูททั้งหมด 6 ตัว โดยแทบทั้งหมดจะซื้อผ้าที่ใส่สบายหอบไปให้ร้านตัดเสื้อที่รู้ใจตัดเย็บให้ เนื่องจากไม่อยากได้สูทที่มีรูปแบบวัยรุ่นไม่เชย
"ผมคิดว่าตัดเองวัยรุ่นกว่า ไม่อยากได้สูทแก่ๆ (หัวเราะ) เอาผ้าที่ไปตัดครั้งแรกเขาก็ยิ้มๆ เพราะผมเน้นว่าเอาแบบวัยรุ่นๆ หน่อยนะ สูทตัดตัวแรกราคา 1,800 สีดำ-เทา หลังจากนั้นก็ใช้บริการตัดมาตลอด ถามว่าตัวไหนตัวเก่ง สูททุกตัวเป็นตัวเก่งหมด แต่ถ้าให้เลือกผมจะชอบสีฉูดฉาดมองแล้วสะดุดตา ส่วนกางเกงสีดำรีดกลีบให้คม รองเท้าธรรมดาๆ แต่ขอให้ขัดมันๆ แต่รูปแบบไม่ได้หวือหวาอะไร โดยอาทิตย์หนึ่งขายแค่ 6 วัน หยุดวันอังคาร ซึ่งเป็นวันเกิด เพราะทำงานหนักมีเงินมากๆ ก็ต้องมีเวลาพักผ่อนบ้าง และยิ่งวันไหนมีม็อบยิ่งขายดี เพราะแค่อยู่กับที่ก็มีคนมาซื้อชั่วโมงเดียวก็หมด 2 หม้อ 400 ถ้วย ไม่ต้องเสียเวลาวิ่ง แต่จริงๆ ถ้าวิ่งไปเรื่อยๆ จะขายได้มากกว่านี้ เพราะขนมยังไม่อืด แต่หากเราตักไปเรื่่อยๆ วิ่งขายไปเรื่อยๆ จะได้จำนวนถ้วยมากกว่านี้เพราะตัวแป้งยิ่งโดนน้ำกะทิยิ่งตัวใหญ่" เจ้าของร้านปลากริมย้ำและว่า ส่วนตัวไม่ได้เชียร์สีไหน เพราะในรถขายของมีพล็อบเก๋ๆ ของทั้ง 2 สี เรียกได้ว่าเข้าไปขายของที่ไหนก็ได้เนียนหมดจด
...
สุดท้ายพ่อค้าปลากริมเงินแสนบอกว่า วันนี้สิ่งที่ภาคภูมิใจที่ขายของดีมีเงินส่งลูกทั้ง 2 คนเรียนจบด้านกฎหมาย คนแรกจบ ป.ตรี ที่ ม.กรุงเทพ คนที่สองเรียนเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ แต่ไม่จบเพราะมีแฟนก่อนเลยต้องไปขอลูกสาวเขาให้หมดเงินเก็บไป 2 แสน กับ ทองคำอีก 5 บาท
"จากเมื่อก่อนต้องเช่าห้องเล็กๆ อยู่ ตอนนี้ก็มีเงินเช่าบ้านหลังใหญ่ทั้งหลัง แล้วก็แบ่งห้องให้คนเช่าทำกำไรอีก ก่อนหน้านี่ก็เอาเงินเก็บที่ได้จากปลากริมไข่เต่าซื้อที่ต่างจังหวัดไว้ 3 ไร่ ปลูกบ้าน ปลูกผัก เลี้ยงไก่ ในบั้นปลายชีวิต แม้ว่าเราจะไม่ได้หนังสือผมก็พออ่านออกเขียนได้ เขียนหนังสือพอได้ แต่เราก็สามารถส่งลูกเรียนให้จบได้มันภูมิใจมากๆ"
ท้ายที่สุด ถ้าอยากเจอหนุ่มปลากริมไข่เต่าเงินแสน เขาบอกว่าอยากให้ติดตามผลงานตามตารางเวลา วันจันทร์เจอได้ที่แถวโบ๊เบ๊ วันอังคารหยุด วันพุธ โบ๊เบ๊ วันพฤหัสบดี โรงเรียนเซนต์คาเบรียล ช่วงเที่ยงอยู่สวนอ้อย ศรีย่าน ร.ร.ราชินีบน วันศุกร์ เสาชิงช้า วันเสาร์ไปโบ๊เบ๊ ตั้งแต่ตี 3 เพราะคนเยอะมาก ส่วนวันอาทิตย์ก็วนแถวๆ นี้เทเวศร์
"ผมเชื่อว่าถ้าเราไม่เกี่ยงงาน และสร้างจุดขายให้กับตัวเอง ของที่เห็นอยู่ว่าเหมือนกันมันก็สร้างความแตกต่าง ดึงความสนใจได้เป็นอย่างดี แล้วอาชีพนี้เป็นอาชีพที่ไม่ต้องพึ่งพาใคร เหนื่อยก็พักผ่อนได้ มีคนชอบมาถามว่าผมขายได้วันละเท่าไหร่ ผมบอกไปว่าเดือนละแสนเขาบอกว่า ผมทำงานบริษัทเอกชนเงินเดือนแค่หมื่นห้าแถมขาด ลา มาสายก็ไม่ได้ ถูกคน ถูกเจ้านายเอารัดเอาเปรียบแต่ผมเป็นเจ้านายตัวเองและมีความสุขทุกวัน แล้วกิจการตรงนี้ก็มีลูกชายคนที่ 2 สืบทอดอีกด้วย" หนุ่มที่มีเสียงเพลงรอสายโทรศัพท์เป็นเพลง พ่อค้าขนมปลากริมกล่าวในที่สุด
ฟังเพลงสุรพล สมบัติเจริญ / พ่อค้าขนมปลากริม http://www.youtube.com/watch?v=PLpQCgXIbXw