ทดลองขับยนตรกรรมคนเมือง New Ford Fiesta เครื่องยนต์ Ecoboost 1.0 ลิตรเทอร์โบ ลากยาวๆ ขึ้นลงดอยในเชียงใหม่ เจ๋ง ไม่เจ๋ง โปรดติดตาม...

Fiesta นับเป็นหนึ่งในโมเดลที่สร้างรายได้ให้กับบริษัท Ford Motor จากประสิทธิภาพและเรือนร่างของตัวรถที่รวบรวมเครื่องยนต์ประหยัดเชื้อเพลิง ผนวกเข้ากับเทคโนโลยีของระบบขับเคลื่อนได้อย่างลงตัว การมาถึงของ New Fiesta EcoBoost 1.0 L สร้างความตื่นตะลึงให้กับวงการยนตรกรรม ด้วยเครื่องยนต์สามสูบ อัดอากาศด้วยเทอร์โบ รูปลักษณ์ที่แสดงออกถึงความเป็นตัวตนของคนรุ่นใหม่ ระบบ Ford Sync ตัวถังผลิตจากเหล็กโบรอน ระบบความปลอดภัยขั้นก้าวหน้า

...

งานดีไซน์ตัวถังของ New Fiesta มีการปรับเปลี่ยนหลายจุด เพื่อทำให้ตัวรถรุ่นใหม่มีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ด้านหน้า เปลี่ยนไฟหน้าและกระจังหน้าใหม่ทั้งหมด สปอยเลอร์แบบสปอร์ตกับไฟตัดหมอกใหม่ กระจังหน้าใช้งานพลาสติกโครเมี่ยมสีเงิน ล้ออัลลอยลายล่าสุด ด้านข้าง เปลี่ยนกระจกมองข้างทรงใหม่ แม้โดยรวมเรือนร่างของ New Fiesta ในรุ่น 5 ประตู จะดูคล้ายกับรุ่นเดิม แต่มีการปรับรายละเอียดให้มีความลงตัวมากขึ้น ไฟท้ายดีไซน์ล่าสุดออกแบบให้มีความกลมกลืนกับไฟหน้า ส่วนรุ่นซีดานสี่ประตู มีด้านหน้าและด้านข้างที่เหมือนกันกับรุ่นห้าประตู แต่มีรูปแบบของสัดส่วนด้านท้ายที่ถูกปรับแก้ใหม่ ทั้งไฟท้าย และสปอยเลอร์หลัง ระบบอากาศพลศาสตร์หรือแอร์โรไดนามิกส์ใช้เวลาทดสอบในอุโมงค์ลมนานถึง 150 ชั่วโมง สำหรับการขัดเกลาให้ New Fiesta มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศดี และลดแรงปะทะของกระแสลม ซึ่งจะมีผลต่ออัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง (รุ่นห้าประตู CD-0.331 รุ่นสี่ประตู CD-0.312)

ส่วนประกอบบริเวณด้านหน้าของ New Fiesta Ecoboost คือ กระจังหน้ารูปสี่เหลี่ยมคางหมู ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ใหม่ของ Fiesta ภายใต้แบรนด์ Ford ตัดขอบด้านข้างด้วยไฟหน้าทรงใหม่ กระโปรงหน้ารถนูนขึ้นแบบพาวเวอร์โดม ทีมออกแบบให้ความใส่ใจต่อตราสัญลักษณ์ของ Ford ที่ฝังเลี่ยมอยู่บนพื้นผิวของรถ บริเวณด้านหลัง ไฟท้ายที่ได้รับการออกแบบให้มีรายละเอียดมากขึ้น เพื่อให้เข้ากับไฟหน้า ในรุ่นแฮทช์แบค 5 ประตู Ford ติดตั้งสปอยเลอร์ด้านหลังแบบใหม่ ส่วนรุ่นซีดาน 4 ประตู เปลี่ยนฝาท้ายและกันชนใหม่ พร้อมตัดขอบกันชนด้านล่างด้วยโครเมี่ยม New Fiesta ผ่านการทดสอบในอุโมงค์ลมเพื่อศึกษาลักษณะทางอากาศพลศาสตร์และปรับแต่งรูปลักษณ์ต่างๆ ของตัวรถ จนสามารถลดแรงเสียดทานลงอีก 3 เปอร์เซ็นต์ ทำให้มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงดีขึ้น มีผลต่อการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ชิ้นส่วนหลักๆ ที่ได้รับการปรับปรุงในครั้งนี้ ประกอบด้วย การออกแบบแผงกันลมด้านหน้าใหม่ ติดตั้งสปอยเลอร์ด้านหลัง เปลี่ยนแปลงบางส่วนบริเวณใต้ท้องรถ และขยับชิ้นส่วนที่มีน้ำหนักเบา เพื่อกระจายทิศทางลม ลดแรงปะทะของกระแสอากาศกับตัวรถ New Fiesta ใส่ล้ออัลลอยขอบ 16 นิ้ว ตัวถังมีสีใหม่ให้เลือกโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากแฟชั่น และกีฬา เช่น สีฟ้าเซเลสเทรียล บลู (Celestial Blue)

...

...

ภายในห้องโดยสารของ New Fiesta แผงคอนโซลหน้าขึ้นรูปจากพลาสติก ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากแผงควบคุมของโทรศัพท์เคลื่อนที่ พวงมาลัยหุ้มหนังแบบสามก้านเดินขอบด้วยงานอัลลอย ก้านวงพวงมาลัย มีปุ่มควบคุมเครื่องเสียง และปุ่มใช้งานในโหมด Ford Sync ด้านบนแผงควบคุมอุปกรณ์ภายใน ตัดขอบด้วยวัสดุเคลือบเงา สำหรับผู้ที่ชื่นชอบห้องโดยสารโทนสีสว่าง นักออกแบบของฟอร์ด วางตัวเลือกแผงควบคุมอุปกรณ์แบบสองสี ทูโทน เพื่อให้ความรู้สึกที่ปลอดโปร่งมากยิ่งขึ้น บริเวณแผงอุปกรณ์ด้านหน้า เก็บรายละเอียดด้วยงานโครเมี่ยมแบบไม่ปัดเงา บวกไฟส่องสว่างสีฟ้า (Ice Blue) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ Ford ทั้งบริเวณปุ่มกดและพื้นที่แสดงข้อมูลต่างๆ วัสดุของเบาะนั่ง แบ่งออกเป็นรุ่นต่างๆ คือ เบาะหนังทั้งหมด เบาะหนังบางส่วน เบาะผ้าที่เน้นความสบาย และเบาะผ้าแบบสปอร์ตเดินตะเข็บด้วยวัสดุที่มีสีสันตัดกับตัวเบาะ

...

เนื่องจากผู้ใช้งานโทรศัพท์สมาร์ทโฟนในปัจจุบัน คาดหวังที่จะเชื่อมต่อการสื่อสาร และใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้อย่างคล่องตัว ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม รวมทั้ง ในขณะที่อยู่บนรถ ระบบ Ford Sync ทำให้ผู้ขับขี่รับสายและโทรออก หรือเลือกเพลงจากอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อการสื่อสารกับรถผ่านสัญญาณบลูทูธหรือช่องเสียบ USB ทำให้ระบบสามารถช่วยในการอ่านข้อความ ที่มีผู้ส่งเข้ามายังโทรศัพท์ของผู้ขับขี่ได้โดยใช้คำสั่งเสียง ด้วยการเชื่อมต่อผ่าน Sync บลูทูธ และ MP3 ผู้ขับที่ชอบใช้งานอุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆ สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์หลากชนิด เพื่อฟังเพลง และติดต่อสื่อสารกับผู้คนอื่นๆ ได้ในขณะเดินทาง New Fiesta ติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เช่น ระบบกุญแจอัจฉริยะ (Smart Keyless Entry) ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้กุญแจเปิดล็อกหรือสตาร์ตรถ เพียงแค่มีกุญแจอยู่ในกระเป๋า ผู้ขับสามารถเปิดล็อกรถได้ด้วยการดึงมือจับประตู จากนั้นก็กดปุ่ม Ford Power Start เพื่อสตาร์ตเครื่อง

ระบบ Ford Sync นับเป็นระบบเชื่อมต่อ และสั่งงานด้วยเสียงในรถยนต์ขนาดเล็กเป็นครั้งแรกของโลก โปรแกรมไมโครซอฟท์ ที่รองรับการทำงานด้วยระบบสั่งงานจากเสียง เช่น การสั่งงานโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เล่นเพลงจากภายนอก รวมถึง การค้นหาคลื่นวิทยุ Sync มีอยู่ในรถยนต์ของ Ford มากกว่า 7 ล้านคันทั่วโลก ผู้ขับสามารถสั่งงานด้วยเสียงไปยังระบบเชื่อมต่อต่างๆ ภายนอกรถ บลูทูธที่เชื่อมต่อผ่านโปรแกรมของไมโครซอฟท์ ช่วยให้การสั่งงานด้วยเสียงมีความสะดวกสบายขณะขับขี่ ระบบสามารถเข้าใจคำสั่ง 150 รายการที่ถูกบรรจุมาในระบบ Ford Sync ช่วยให้การขับขี่รถยนต์มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้น ยังมีช่องเชื่อมต่อ AUX-USB อำนวยความสะดวกสำหรับการเล่นไฟล์เพลงผ่านอุปกรณ์พกพาจากภายนอก

ระบบบังคับเลี้ยวแบบไฟฟ้าใน New Fiesta ระบบพวงมาลัยไฟฟ้าแบบใหม่ใน New Fiesta ช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงลงได้อีก 3% การตอบสนองของพวงมาลัย ได้รับการปรับแก้ให้มีความเฉียบคมมากยิ่งขึ้น โดยจะแปรผันน้ำหนักไปตามความเร็วที่แท้จริง แชสซีของ New Fiesta ด้านหน้าระบบรองรับเป็นแบบแมคเฟอร์สันสตรัท สปริง โช้คอัพ และเหล็กกันโคลงส่วนหน้าใหญ่ขึ้น โดยมีเส้นผ่าศูนย์กลางขยับเป็น 22 มิลลิเมตร ส่วนด้านหลังเป็นแบบทอร์ชั่นบีม พร้อมเหล็กกันโคลง ระบบ Hill Launch Assist ช่วยให้การขับขึ้นหรือลงจากเนินเขา ทางลาดชัน มีความปลอดภัย การปรับปรุงด้านจุดยึดและจุดที่เกิดแรงสั่นสะเทือนให้ดีขึ้น ทำให้ New Fiesta มีความเงียบมากขึ้นอีกเล็กน้อยขณะเครื่องยนต์ทำงาน โครงสร้างที่แข็งแกร่งจากการออกแบบแชสซี ช่วยทำให้การขับในย่านความเร็วสูง มีความเสถียร เหล็กโบรอนค่าความแกร่งสูงที่นำมาผลิตแชสซีที่ตำแหน่งคานด้านหน้า ช่วยรองรับการกระแทกด้วยการกระจายแรงจากการออกแบบ เพื่อลดอาการบาดเจ็บ หากเกิดอุบัติเหตุ

แนวทางการทำตลาด หลังจากเปิดตัวมานานกว่าสามปีแล้ว ภาพลักษณ์ในรถรุ่นใหม่ถูกเปลี่ยนให้ดูทันสมัย Ford เล็งไปยังกลุ่มคนทำงานอายุน้อย ซึ่งเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยมีรุ่นห้าประตูที่ได้รับความนิยมสูงในประเทศไทย สำหรับสัดส่วนของยอดขายนั้น 70% เป็นรุ่นห้าประตู และอีก 30% เป็นรุ่นสี่ประตู เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร รุ่นล่าสุดยังมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่โดดเด่นมากกว่ารถเล็กทุกรุ่น ที่มีจำหน่ายในไทย งานวิศวกรรมด้านการทดกำลังที่ดีด้วยเกียร์ทวินคลัตช์ 6 สปีด

เครื่องยนต์ Ecoboost 1.0 ลิตร ภายใต้สิทธิบัตรของ Ford เจ้าของรางวัลเครื่องยนต์ยอดเยี่ยมระดับนานาชาติ 2 ปีซ้อน ในปีพ.ศ. 2555 และ 2556 Ecoboost 1.0 ลิตร เป็นเครื่องยนต์เบนซินแบบ 3 สูบ ที่ผสานการทำงานของระบบไดเร็กอินเจ็กชั่น เข้ากับเทอร์โบชาร์จ และระบบวาล์วแปรผัน กำลัง 125 แรงม้า (92 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 170 นิวตันเมตร เทียบชั้นได้กับเครื่องยนต์เบนซินทั่วไปขนาด 1.6 ลิตร โดยแรงบิดสูงสุดมาที่ความเร็วเครื่องยนต์ ตั้งแต่ 1,400-4,500 รอบต่อนาที สำหรับรถรุ่นที่จะวางจำหน่ายในอาเซียน เครื่องยนต์ Ecoboost ขนาด 1.0 ลิตร มาพร้อมระบบส่งกำลัง ซึ่งเป็นเกียร์อัตโนมัติ PowerShift 6 Speed วิศวกรของ Ford เคลมว่า จะมีอัตราการประหยัดน้ำมันประมาณ 18.9 กิโลเมตร/ลิตร และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 121 กรัม/กิโลเมตร Eco Mode เป็นซอฟต์แวร์ที่คอยวัดว่า ผู้ขับขี่เปลี่ยนเกียร์ในจังหวะที่เหมาะสมหรือไม่ ขับด้วยความเร็วสม่ำเสมอ และมีการเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงหรือไม่ โดยผู้ที่มีทักษะในการขับขี่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จะได้รับรางวัลเป็นกลีบดอกไม้แสดงผลบนหน้าจอของรถ เครื่องยนต์ขนาด 1.0 ลิตรนี้ เป็นเครื่องยนต์ขนาดเล็กที่สุดในตระกูล Ecoboost ขนาดที่เล็กพอจะบรรจุในช่องเก็บกระเป๋าเหนือศีรษะบนเครื่องบินได้ แต่ความสามารถในการมอบพละกำลังถึง 125 แรงม้า (92 กิโลวัตต์) และแรงบิดสูงสุดถึง 170 นิวตันเมตร นับว่าเทียบได้กับเครื่องยนต์เบนซินทั่วไปขนาด 1.6 ลิตร อีกทั้ง ยังให้แรงบิดสูงสุดตั้งแต่ 1,400-4,500 รอบต่อนาที

เครื่องยนต์ Ecoboost 1.0 ลิตร นับว่าเป็นน้องใหม่ล่าสุดในตระกูลเครื่องยนต์ Ecoboost ของ Ford ซึ่งปัจจุบันมีอยู่หลายขนาด เช่น เครื่องยนต์แบบ 4 สูบ ขนาด 1.4 ลิตร 1.6 ลิตร และ 2.0 ลิตร รวมทั้งเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.5 ลิตร อีก 2 รุ่น เครื่องยนต์ Ecoboost จดสิทธิบัตรไว้ 125 รายการ นอกจากนี้ เครื่องยนต์ขนาดเล็กที่สุดรุ่นนี้ ยังมีความสามารถในการประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ขนาดใหญ่กว่า โดยไม่ทำให้สมรรถนะในการขับขี่ลดลง การนำเอาเครื่องยนต์ที่มีขนาดเล็กกว่ามาใช้แทนที่เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ นับว่าเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การทำงาน ที่มุ่งมั่นต่อการประหยัดน้ำมันในทุกเซกเม้นต์ ทิศทางการพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องยนต์ของ Ford ดำเนินไปในแนวทางเดียวกับการพัฒนาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ในปัจจุบัน อาทิ โทรศัพท์เคลื่อนที่ และคอมพิวเตอร์แบบพกพา ที่ต่างลดขนาดของอุปกรณ์ให้เล็กลง แต่มีประสิทธิภาพในการทำงานสูงขึ้นเรื่อยๆ

ปัจจุบันเครื่องยนต์ Ecoboost ติดตั้งอยู่ในรถที่วางจำหน่ายในทวีปยุโรป ประเทศอินเดีย และจีน โดย Ford วางจำหน่ายเครื่องยนต์รุ่นนี้ในทวีปอเมริกาเหนือ ภูมิภาคอาเซียน และประเทศอื่นๆ ต่อไป เครื่องยนต์ Ecoboost 1.0 ลิตร มอบ 3 สิ่งที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญ การประหยัดน้ำมัน ความคุ้มราคา และประสิทธิภาพในการขับขี่

การทำงานของเครื่องยนต์ 3 สูบ
เครื่องยนต์ Ecoboost ขนาด 1.0 ลิตร เป็นเครื่องยนต์แรกของ Ford ที่มี 3 กระบอกสูบ ได้รับการออกแบบขึ้น ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ Ford ที่เมืองอาเชนและเมืองเมอร์เคนิช ประเทศเยอรมนี และเมืองดันตัน ประเทศอังกฤษ โดยหนึ่งในเอกลักษณ์สำคัญที่ทำให้เครื่องยนต์รุ่นนี้แตกต่างจากเครื่องยนต์รุ่นอื่นๆ ทั้งหมดนั่นคือ การที่ทีมวิศวกรได้สร้างสรรค์เทคนิคใหม่ขึ้นมาเพื่อเอาชนะปัญหาการสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์ ที่มีจำนวนกระบอกสูบเป็นเลขคี่ เดิมที การลดแรงสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์ขนาดเล็ก ทำได้ด้วยการติดตั้งเพลาถ่วงดุลภายในมอเตอร์เครื่องยนต์ เพื่อลดอาการสั่น แต่เพลาถ่วงดุลนั้น มีน้ำหนักและมีราคาสูง ทำให้รถกินเชื้อเพลิงมากขึ้น

ทีมวิศวกรของ Ford จึงแก้ปัญหาด้วยการหันมาปรับล้อช่วยแรงและรอกให้อยู่ในตำแหน่งที่ ‘ไม่สมดุล’ เพื่อชดเชยน้ำหนักของเครื่องยนต์ในทิศทางที่เหมาะสม ช่วยกระจายแรงสั่นสะเทือน ไปในทิศทางที่จะไม่ส่งผลกระทบต่อตัวรถมากนัก และออกแบบแผ่นรองแท่นเครื่องให้ดูดซับแรงสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์ให้มากที่สุด ผลลัพธ์ที่ได้ ก็คือ หนึ่งในเครื่องยนต์ที่ทำงานได้อย่างราบรื่นและเงียบที่สุดในจำนวนเครื่องยนต์ขนาดเล็ก หรือแทบจะเรียกได้ว่าเครื่องยนต์รุ่นนี้ ทำงานโดยมีเสียงรบกวนและการสั่น สะเทือนน้อยมากขณะจอดติดเครื่องเดินเบา

ระบบอัดอากาศในเครื่องยนต์ตัวนี้ วางเทอร์โบขนาดเล็ก ความเร็วสูงใบพัดเทอร์ไบน์หมุนได้เร็ว 248,000 รอบต่อนาที เครื่องยนต์จึงตอบสนองได้ดี ระบบหล่อเย็นแบบแยกส่วนช่วยจัดการอุณหภูมิของเครื่องยนต์ในเรื่องของการแพร่ความร้อน ด้วยการแบ่งน้ำยาหล่อเย็นให้ไหลผ่าน 2 ช่องทาง คือทางเสื้อสูบและฝาสูบ ทำให้เครื่องยนต์อุ่นเร็วขึ้น ส่งผลให้เครื่องยนต์มีอุณหภูมิการทำงานที่เหมาะสมประหยัดน้ำมันและลดการปล่อยมลภาวะ ปั๊มน้ำมันแบบแปรผันปรับจ่ายน้ำมันหล่อลื่นให้มีปริมาณพอเหมาะกับความเร็ว รวมถึงประสานไปกับจังหวะการทำงานของเครื่องยนต์ ช่วยประหยัดพลังงานได้ด้วยการจ่ายน้ำมันเท่าที่จำเป็น ต่างจากเครื่องยนต์ทั่วไปที่ปั๊มจะจ่ายน้ำมันตามปริมาณที่กำหนดไว้แบบตายตัว ปั๊มแบบแปรผันเข้ามาช่วยลดการสิ้นเปลืองพลังงาน การชดเชยเพลาข้อเหวี่ยง จากลูกปืนเพลาข้อเหวี่ยงที่ได้รับการออกแบบมา ให้อยู่ในตำแหน่งที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ช่วยลดแรงเสียดทานของเครื่องยนต์ และทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกว่า รถตอบสนองต่อการสั่งงานได้ดีขึ้น อัตราเร่งดี