ถ้า “นครเมกกะ” คือดินแดนแห่งการจาริกแสวงบุญของศาสนาอิสลาม และ “กรุงเยรูซาเลม” เป็นนครศักดิ์สิทธิ์ของชาวยิวทั่วโลก “พุทธคยา” สถานที่ตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งอยู่ด้านตะวันตกของแม่น้ำเนรัญชรา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย ซึ่งองค์การยูเนสโกขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก ก็คงเป็นพุทธสังเวชนียสถานสำคัญที่สุดของพุทธศาสนา ซึ่งชาวพุทธที่มีศรัทธาแรงกล้าจากทั่วโลก ใฝ่ฝันจะเดินทางไปเยือนอย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต เพื่อสัมผัสถึงพลังอันศักดิ์สิทธิ์ของมหาพุทธสถานแห่งนี้ พร้อมกับย้อนรอยสู่จุดเริ่มต้นแห่งพระพุทธศาสนา
ตลอดระยะเวลาต่อเนื่องเกือบ 10 ปี ที่พุทธศาสนิกชนชาวไทย นำโดย “พระอาจารย์ ดร.กฤษฎา สิริวฑฒโน” ประธานสงฆ์ วัดเมตตาพุทธาราม พุทธคยา ประเทศอินเดีย ซึ่งอยู่ในการอุปถัมภ์ของสมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศวิหาร กรรมการมหาเถรสมาคม ได้มีโอกาสร่วมทำนุบำรุงอนุสรณียสถานสำคัญๆ ภายในพุทธคยา ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า แต่ถูกปล่อยทิ้งให้ทรุดโทรมหลังพุทธปรินิพพาน ล่าสุด ชาวพุทธในไทย ขอตอกย้ำถึงพลังศรัทธาอันยิ่งใหญ่ให้โลกประจักษ์อีกครั้ง ด้วยการรวมพลังสร้างสรรค์ โครงการหุ้มทองคำยอดฉัตรพระมหาเจดีย์พุทธคยา ซึ่งถือเป็นงานบุญใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของชาวพุทธไทย โดยมอบหมายให้นักกฎหมายชื่อดังของเมืองไทย และอดีตเลขาธิการคณะรัฐมนตรี “ศ.ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ” เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า รับหน้าที่เป็นหัวเรือใหญ่คอยอำนวยการบริหารจัดการโครงการมหาบุญให้บรรลุผลสำเร็จ
“พุทธคยา” มีความสำคัญต่อพุทธศาสนิก-ชนมากน้อยเพียงใด
เป็นสถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า จึงเป็นพุทธสังเวชนียสถานสำคัญที่สุดของชาวพุทธ ตอนจะปรินิพพาน พระพุทธเจ้าทรงมีพุทธดำรัสกับพระอานนท์ ในมหาปรินิพพาน สูตรบันทึกว่า พระอานนท์ทูลถามว่า เมื่อเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานไปแล้ว ผู้มีศรัทธาจิตอยากจะเข้าเฝ้าพระพุทธองค์จะไปเข้าเฝ้าได้ที่แห่งหนใด ก็ทรงมีพุทธดำรัสตอบว่า ดูก่อนอานนท์ พุทธบริษัทผู้ใดมีจิตศรัทธาจาริกไปในที่ซึ่งตถาคตประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน พุทธบริษัทผู้นั้นเมื่อถึงแก่กาลกายแตกดับก็จะเข้าสู่สุคติโลกสวรรคต นี่จึงเป็นธรรมเนียมสำหรับชาวพุทธทั้งโลกว่า จะต้องไปเยือนสังเวชนียสถานให้ได้หนึ่งครั้งในชีวิต และในบรรดาสังเวชนียสถานทั้งสี่แห่ง อันประกอบด้วย “ลุมพินีวัน” สถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า, “พุทธคยา” สถานที่ตรัสรู้, “สารนาถ” สถานที่แสดงปฐมเทศนา และ “กุสินารา” สถานที่ปรินิพพาน “พุทธคยา” คือ พุทธสังเวชนียสถานที่มีพุทธบริษัทไปจาริกแสวงบุญมากที่สุดปีละหลายล้านคน ไม่ต่างจากนครเมกกะของชาวมุสลิม และเยรูซาเล็มของชาวยิว ในพระไตรปิฎกยังระบุว่า พุทธสถานแห่งนี้คือสถานที่ที่พระพุทธเจ้าทั้ง 4 พระองค์ตรัสรู้ และในคัมภีร์พระอนาคตวงศ์ยังทำนายว่า พระพุทธเจ้าในอนาคต คือ “พระศรีอริยเมตไตรย” ก็จะมาตรัสรู้ ณ พุทธคยา ซึ่งถือเป็นจอมดิน หรือ สะดือโลก เมื่อโลกสูญสลายแล้วจะเกิดโลกใหม่ ท่ามกลางพื้นน้ำที่ปกคลุมโลก ดินจะโผล่ขึ้นมาครั้งแรกที่ตรงนี้ เป็นที่รวมพลังทั้งหมดของจักรวาล เป็นสถานที่เดียวที่พระพุทธเจ้าในอนาคตเสด็จมาตรัสรู้แล้วพื้นดินสามารถรองรับได้ ณ พุทธคยา ดอกบัวจะเกิดขึ้นเพื่อเป็นนิมิต ถ้ายุคไหนมีพระพุทธเจ้า 4 องค์ ก็จะเกิดดอกบัว 4 ดอกในก้านเดียวกัน
โครงการหุ้มทองคำยอดฉัตรพระมหาเจดีย์พุทธคยาริเริ่มขึ้นได้อย่างไร
เนื่องในโอกาส 2,600 ปีแห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ที่เรียกว่าพุทธชยันตี พวกเราก็เห็นว่าควรทำอะไรถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงเป็นพุทธมามกะ จึงเป็นที่มาของการดำริว่า ควรหุ้มทองคำยอดฉัตรพระมหาเจดีย์พุทธคยา ซึ่งถือเป็นสุดยอดงานบุญของศาสนิกชนชาวไทย อย่างไรก็ดี กว่าจะลงมือทำโครงการนี้ได้ต้องขออนุญาตจากทางการอินเดียก่อน ทั้งโพธิสมาคมของอินเดีย, กรมศิลปากร รัฐพิหาร และคณะกรรมการมรดกโลกของอินเดีย หลังจากได้รับไฟเขียวแล้ว ก็คุยกันว่าควรจะทำออกมาอย่างไร เมื่อขึ้นไปสำรวจก็พบว่า ยอดฉัตรมีความสูง 5 เมตร กว้าง 3 เมตรกว่า ช่างสิบหมู่ไทยจึงแนะนำให้ทำแบบไทยไม่ทำแบบพม่า คือ ตีทองเป็นแผ่นยาวและรีดแล้วไปหุ้มรอบยอดฉัตร คำนวณแล้วต้องใช้ทองคำประมาณ 200 กิโลกรัม!! หากสนใจร่วมทำบุญมหากุศลครั้งนี้สามารถติดต่อได้ที่กองอำนวยการของโครงการฯโดยตรง โทร. 0-2280-3413-4 ต่อ 511 หรือ 09-1212-5293-5
แล้วอาจารย์เข้ามาเป็นประธานคณะอำนวยการได้อย่างไร
ที่จริง “คุณปรีชา เลาหพงศ์ชนะ” เป็นผู้ริเริ่มโครงการนี้ และได้เชิญสมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นประธานโครงการ ซึ่ง “สมเด็จพระวันรัต” ก็ได้มอบหมายให้ผมเป็นประธานคณะอำนวยการ ดูแลการดำเนินงานทั้งหมด ผมรับงานนี้ด้วยความสาธุโมทนาที่จะได้ทำงานบุญใหญ่ และอนุโมทนาทุกวันขอให้ทำงานนี้สำเร็จสมดังตั้งใจ ตั้งแต่ผมเอ่ยปากชวนคนมาร่วมทำบุญใหญ่ก็ยังไม่มีใครปฏิเสธเลย จนถึงขณะนี้ รวบรวมทองคำได้แล้ว 60 กิโลกรัม
คาดหวังความสำเร็จมากน้อยแค่ ไหนจากโครงการนี้
ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่คนไทยทั้งประเทศได้ร่วมกันนำทองคำขึ้นไปปิดไว้บนยอดสูงสุดของพระมหาโพธิเจดีย์ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ผมเชื่อว่าอานิสงส์จากการทำบุญครั้งนี้ นอกจากจะช่วยปกปักรักษาคุ้มครองครอบครัวของผู้มีจิตศรัทธา ยังน่าจะช่วยให้บ้านเมืองสงบด้วย
ก่อนรับโครงการนี้ อาจารย์มีนิมิตอะไรเป็นพิเศษไหมคะ
ผมมีศรัทธาแรงกล้าในพระพุทธเจ้า และเชื่อว่าพระพุทธเจ้ามีจริง พระพุทธเจ้าไม่ใช่เทวดา แต่เป็นมนุษย์ซึ่งเทวดากราบไหว้ เมื่อพระพุทธองค์ปรินิพพาน ไม่ถือว่าทรงหายไปไหน แต่ยังอยู่เป็นพุทธคุณ อะไรที่เราอธิษฐานถึงพระพุทธ องค์ ล้วนแต่ถึงทั้งนั้น!! นิพพานแปลว่าภาวะเหนือกาลเวลา เหนือรูป เหนือนาม แต่ดวงจิตดวงนั้นยังอยู่
เคยเจอปาฏิหาริย์อะไร ถึงเกิดศรัทธาแรงกล้าต่อพระพุทธเจ้า
ผมไม่เคยเจอปาฏิหาริย์ในลักษณะเห็นโน่นเห็นนี่ แต่ปาฏิหาริย์ของผมคือ ผมไปอยู่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ครั้งแรก เกิดความรู้สึกปีติอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ขนลุกและน้ำตาไหล!! ผมไปมาแล้ว 10 ครั้ง มีอยู่ครั้งหนึ่งเดินทางไปขณะที่เส้นเลือดฝอยที่เยื่อบุตาแตก ซึ่งต้องใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจะหาย หลังจากปักกลดอยู่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ทั้งคืนและอธิษฐาน ปรากฎว่าคำอธิษฐานสัมฤทธิผล ตับที่เคยแย่ก็หาย เส้นเลือดฝอยค่อยๆจางหายไปจนเยื่อบุตากลับเป็นสีขาวปกติ จิตผมสัมผัสได้ว่าที่ตรงนั้นมีพลังมหาศาลจริงๆ เป็นสถานที่ที่พลังจักรวาลมารวมกัน
สำหรับมือใหม่ ก่อนเดินทางไป “พุทธคยา” ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
ไม่ต้องเตรียมอะไร นอกจากจิตศรัทธาบริสุทธิ์!! ชีวิตนี้ต้องไปเยือนอย่างน้อยหนึ่งครั้ง แล้วจะรู้ว่าไม่ธรรมดา ถ้าจิตบริสุทธิ์และมีศรัทธา อธิษฐานอะไรก็จะสัมฤทธิผล แต่ต้องเป็นคำอธิษฐานในทางที่ถูกที่ชอบด้วย
ศรัทธาของชาวพุทธไทยยุคใหม่อยู่ในระดับน่าพอใจไหม
คนไทยหันมาศรัทธาในพุทธศาสนามากขึ้น การชวนกันสวดมนต์ข้ามคืนของคนเป็นล้านคนถือเป็นปรากฏการณ์ที่ดี แม้จะเป็นเรื่องของกระแสนิยม คนไทยเข้าวัดเข้าวากันมากขึ้น อาจเพราะวิตกในความไม่แน่นอนของบ้านเมือง และสถานการณ์โลก จึงอยากหาที่พึ่งทางใจ ทำยังไงไม่ให้คนนับถือแต่เปลือก และเข้าถึงแก่นแท้
อะไรทำให้อาจารย์ใฝ่ธรรมะ มรสุมการ เมืองครั้งใหญ่มีส่วนไหมคะ
ผมกำลังขอวีซ่าไปปรโลก!! จุดพลิกผันที่สุดในชีวิตที่ทำให้ผมหันมาศึกษาธรรมะก็คือ ตอนออกจากการเป็นเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เป็นช่วงแห่งการเปลี่ยนแปลงของชีวิต ตอนนั้นบ้านเมืองเริ่มวุ่นวายขึ้นเรื่อยๆ ผมรู้สึกถึงความไม่แน่นอนของตัวเอง จึงอยากหาที่พึ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ อันที่สองคือมีปัญหาสุขภาพ ผมถูกพระเสาร์ทับและพระราหูเล็งอยู่ช่วงหนึ่ง ทำให้ล้มป่วยหนัก เป็นตับแข็งและเส้นเลือดหัวใจตีบ ตอนนั้นเป็นทุกข์มาก คนเราถ้าไม่เกิดทุกข์จะไม่หันเข้าหาธรรมะหรอก หลังจากบวชถวายพระเจ้าอยู่หัวอยู่ 2 อาทิตย์ และได้มาศึกษาธรรมะจริงจัง ทำให้ค้นพบว่า คำตอบของการดับทุกข์อยู่ในพุทธศาสนานี่แหละ
ธรรมะทำให้ชีวิตเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง
ผมศึกษาธรรมะอยู่พักใหญ่ และเริ่มสวดมนต์ทุกวัน การสวดมนต์เป็นบุญนะ เพราะขณะที่สวดมนต์ กายจะเป็นกายสุจริต จิตก็เป็นจิตสุจริต วาจาก็เป็นวาจาสุจริต จิตผูกกับถ้อยคำของพระพุทธมนต์ ซึ่งพระพุทธเจ้าและพระมหาสาวกสาธยาย 2,600 ปี ผมเห็นความเปลี่ยนแปลงในชีวิต อันดับหนึ่งคือ ใจร้อนน้อยลง เมื่อก่อนผมเป็นคนโมโหร้าย อันดับสองคือสุขภาพดีขึ้น อันดับสามคือ มีแต่คนทักว่าไปทำอะไรมาหน้าใสจัง ทุกวันนี้ผมพยายามรักษาศีล 8 ทุกวันพระ ถ้ามีเวลา ก็จะไปวัดฟังเทศน์สวดมนต์ ถ้าไม่มีเวลาก็จะอาราธนาศีลเองที่บ้าน ทุกเช้าเมื่อขึ้นรถปั๊บผมจะสวดพระปริตธรรมทั้งเล่ม ถ้าเดินทางไกลก็จะอัญเชิญพระธัมมจักกัปปวัฒนสูตร ตอนเย็นก็จะสวดมนต์ทำสมาธิชั่วโมงครึ่ง ถ้าสวดมนต์ได้ทุกวัน วาจาจะเป็นวาจาศักดิ์สิทธิ์คนเชื่อถือ อย่าไปปรารถนานะ เขาจะมาเอง
สำหรับคนห่างวัด ถ้าอยากศึกษาธรรมะต้องเริ่ม จากจุดไหน
อันดับแรกคือ ต้องมีศรัทธาก่อน แล้ววิริยะกับสติ สมาธิ ปัญญา ถึงจะตามมา ศาสนาต้องอาศัยศรัทธา แต่อย่างมงาย เราศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้วพบว่ามีตรรกะ จึงเกิดศรัทธาขึ้นมา ทำให้เกิดวิริยะ มีสติ สมาธิ และปัญญา ไม่ต้องคิดถึงเรื่องบ้าๆบอๆกิเลสทั้งหลาย ถ้าไม่ศรัทธาคงศึกษาไม่ได้อย่างลึกซึ้ง แต่คนที่จะเข้าหาธรรมะได้ ส่วนใหญ่จะเห็นทุกข์มาก่อน จึงจะมาทางนี้ เมื่อมาทางนี้แล้วได้ปฏิบัติจนเห็นผล จึงเกิดศรัทธาและวิริยะที่จะทำ การศึกษาธรรมะสามารถเริ่มต้นง่ายๆด้วยการสวดมนต์บทอิติปิโส แล้วนั่งหายใจเข้าหายใจออกดูลมหายใจตัวเอง หรือนั่งธรรมดา แล้วภาวนาพุทโธ พุทโธ พุทโธ ในใจเบาๆ เอาฐานจิตมาไว้ที่หัวใจ, สะดือ, หน้าผาก หรือที่ปลายจมูก ให้จิตนิ่งๆได้สัก 5 นาที ทำเช้า 5 นาที และเย็น 5 นาที เมื่อจิตนิ่งถึงจะผลิตพลังจิตได้ พลังจิตจะติดตัวเราไปข้ามภพข้ามชาติ ถ้าจะให้เกิดกำลังต้องนิ่ง นอกจากทำสมาธิแล้ว ควรเดินจงกลมด้วย เป็นการทำสมาธิตื้น และฝึกสติ อย่านับจังหวะตามเท้า แต่ใจต้องภาวนาพุทโธ พุทโธ พุทโธ เมื่อรู้ตัวว่าหลุดคิดฟุ้งซ่าน ก็ดึงกลับมาสู่สมาธิ
ชีวิตนี้ทำอะไรเพื่อสังคมมาเยอะ ยังมีอะไรคั่งค้างอีกไหม
ปีนี้ผมอายุ 59 ปีแล้ว สิ่งที่อยากทำในชีวิตอีกอย่างคือ การสร้างตึกในโรงพยาบาลสงฆ์ เพื่ออุทิศให้สมเด็จหลวงพ่อทวดและสมเด็จโต ซึ่งสร้างความมั่งคั่งให้คนมหาศาล อยากให้คนไทยรำลึกถึงพระคุณของท่าน.
...
ทีมข่าวหน้าสตรี