ทดสอบเต็มรูปแบบ พิสูจน์สมรรถนะที่แท้จริงของ BMW 520d ทั้งอัตราเร่ง การทรงตัว อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง รวมถึงการทดสอบก่อนเข้าสู่สายการผลิตจริงในศูนย์ทดสอบของบริษัท BMW...

BMW Series 5 F10 520d คือ รถซีดานขนาดกลางของค่ายใบพัดที่มีเครื่องยนต์ประหยัดเชื้อเพลิงมากที่สุดแล้ว เมื่อเปรียบเทียบกับ F10 รุ่นอื่นๆจากปริมาตรความจุของเครื่องยนต์ดีเซลแถวเรียง 4 กระบอกสูบ 1,995 ซีซี ซึ่งมีอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ในระดับดีเยี่ยม (19.2 กิโลเมตรต่อลิตร) ถึงแม้จะมีออพชั่นน้อยกว่า Series 5 รุ่นอื่นๆที่มีเครื่องยนต์โตกว่า แต่เจ้า 520d ก็ยังคงมอบการตอบสนอง รวมถึงมีประสิทธิภาพและสมรรถนะในการใช้งานใกล้เคียงกัน จนแทบจะไม่มีความแตกต่างไปจากตัวรถรุ่นที่สูงกว่าอย่าง 523i Highline / 525d แม้แต่น้อย กำลังของเครื่องยนต์ดีเซลที่มีความจุเพียงแค่ 2.0 ลิตรให้ประสิทธิภาพมากเกินพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ทั้งการขับขี่ไปทำงานภายในเมืองหรือออกเดินทางระยะไกล พละกำลังบนแรงบิดในรอบต่ำของเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร อัดอากาศด้วยเทอร์โบแบบ Twin-Scoll ดันตัวถังหนัก 1.7 ตัน ให้พุ่งทะยานไปตามแรงกดของฝ่าเท้าได้อย่างง่ายดายบนราคาค่าตัวที่ต่ำ ที่สุดในรุ่น Series 5 ( 3.69 ล้านบาท)

ทดลองขับ BMW 520d (ตอนที่ 2)

...

ทดลองขับ BMW 520d (ตอนที่ 2)
ทดลองขับ BMW 520d (ตอนที่ 2)


ตลอดระยะเวลา 4 วันที่ผมได้มีโอกาสนำรถทดสอบของ BMW Thailand รุ่น 520d ออกตระเวนไปทั่วกรุงเทพมหานครเพื่อขับขี่ทดสอบการใช้งานภายในเมือง หลังจาก เมื่อ 3 เดือนก่อน เคยได้สัมผัสอย่างลึกซึ้งกับรุ่น 523i Highline ซึ่งให้ความประทับใจในแง่มุมของสมรรถนะมาแล้ว รถ Series 5 รุ่นใหม่ที่วางเครื่องยนต์ดีเซลสุดประหยัดคันนี้ คือ รถยนต์ที่สามารถใช้งานได้เป็นอย่างดีทั้งการวิ่งทางไกลหรือการขับขี่ภายในเมืองใหญ่ทั่วโลก ถูกออกแบบให้มีภายในที่กว้างขวางขึ้นมาก วัสดุและอุปกรณ์ต่างๆยังผ่านการคิดคำนึงถึงรูปแบบของการจัดวางในระดับที่ดีเยี่ยม สมราคา มิติของตัวรถที่ใหญ่โตขึ้น ทำให้มันใกล้เคียงกับความยาวของรุ่น Series 7 เข้าไปทุกที รวมถึงราคาที่แตกต่างจากรุ่น 525d เกือบ 7 แสนบาท คือความคุ้มค่า น่าใช้งานที่เหมาะสมกับราคาเชื้อเพลิงในยุคปัจจุบัน

ทดลองขับ BMW 520d (ตอนที่ 2)
ทดลองขับ BMW 520d (ตอนที่ 2)
ทดลองขับ BMW 520d (ตอนที่ 2)

...


กดปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ทางซ้ายมือใต้กรอบหน้าปัด เครื่องยนต์ดีเซลรุ่นเล็กขนาด 4 กระบอกสูบติดขึ้นมาอย่างง่ายดาย เสียงของเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ตัวนี้ยังเบามาก เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งที่มีเครื่องยนต์ดีเซลขนาดใกล้เคียงกันแต่มีเสียงการทำงานของเครื่องยนต์ (เสียงของวาล์ว) ดังมากกว่า วิศวกรของ BMW ยังคงใส่ระบบส่งกำลังซึ่งเป็นชุดเกียร์ออโตเมตริก Step-Tronic 8 สปีดของ ZF ที่ให้อัตราทดเกียร์ที่ต่อเนื่องในทุกย่านความเร็ว แม้แต่การออกตัวจากจุดหยุดนิ่งก็เต็มไปด้วยความง่ายดายจากแรงบิดรอบต่ำ ที่มีมาให้อย่างพอเพียง แค่ 1,700-2,000 รอบต่อนาทีกับตัวเลข 380 นิวตันเมตร หากคุณเผลอตัวกดคันเร่งไฟฟ้าลงลึกสุดๆ อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรใน 8.1 วินาทีจากการทำงานของเทอร์โบที่ไม่มีอาการรอรอบแม้แต่น้อย จะดึงตัวถังของมันให้พุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างมั่นคง แรงดึงดังกล่าว ยังมากพอจนทำให้คุณรู้สึกได้ถึงความเร็วที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและไหลลื่น การไต่ความเร็วไปที่ย่าน 100-120 140-160 180-200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาไม่นานจนผมแปลกใจในสมรรถนะของมันแต่ไม่เคยสงสัยเลยว่า ทำไมค่าย BMW มักจะได้รับรางวัลเครื่องยนต์ยอดเยี่ยมประจำปีอยู่เสมอเมื่อผมได้ลองขับ ทดสอบผลิตภัณฑ์ยานยนต์รุ่นใหม่ของบริษัทนี้อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งทำให้สามารถรับรู้ถึงประสิทธิภาพอันเข้มข้นของเครื่องยนต์รุ่นล่าสุด จากค่ายใบพัดสีฟ้า-ขาวได้เป็นอย่างดี

ทดลองขับ BMW 520d (ตอนที่ 2)

...

ทดลองขับ BMW 520d (ตอนที่ 2)
ทดลองขับ BMW 520d (ตอนที่ 2)


ที่รอบเครื่องยนต์ต่ำประมาณ 1,100 รอบต่อนาที รถ 520d ที่ใช้ระบบ BMW EfficientDynamics จะมีความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเมื่อผมลองเติมคันเร่งไฟฟ้าแบบ Drive By Wire ลงไปอีกเล็กน้อย ในรอบเครื่องยนต์ที่ 1500 รอบต่อนาที ตัวรถ 520d จะมีความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงพอดี ซึ่งถือได้ว่าเป็นรอบเครื่องยนต์ที่ต่ำและประหยัดสุดๆเมื่อเปรียบเทียบกับน้ำหนักตัวของมันที่หนักถึงกว่า 1.7 ตัน ส่วนการทรงตัวก็แทบจะไม่แตกต่างไปจาก New Series 5 F10 ทุกรุ่นที่ผมเคยทดสอบ มันให้ความมั่นคง นิ่งและเงียบในระดับที่เหนือกว่าตัวรถคู่แข่งอย่างสิ้นเชิง ถ่ายเทน้ำหนักได้ดี แม้จะมีมวลมากกว่ารถเล็กจากระบบรองรับแบบปีกนกอัลลอย การเก็บเสียงของรถคันนี้ใช้บานประตูที่ทำจากอลูมินัมอัลลอย หุ้มขอบประตูด้วยชิ้นยางขนาดใหญ่ถึงสองชั้น รวมถึงพรมปูพื้นกับวัสดุดูดซับเสียงแบบใหม่ที่ใช้ห่อหุ้มห้องโดยสารที่หรูหราของมัน เสียงการทำงานของเครื่องยนต์ดีเซลและเสียงของยาง Goodyear ไซล์ 255/55/R17 ก็ยังเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน ภายในห้องโดยสารของ 520d มีเพียงเสียงการทำงานของพัดลมปรับอากาศภายในห้องโดยสารเท่านั้นที่ดังเข้ามากระทบโสตประสาท แม้แต่รอยต่อถนน หลุมบ่อเล็กๆทั่วกรุงเทพฯ ช่วงล่างแบบปีกนกคู่ทำจากอลูมิเนียมของมันก็ยังจัดการกับเสียงดังกล่าว จนเงียบเข้าขั้นผิดปกติกันเลยทีเดียว

...

ทดลองขับ BMW 520d (ตอนที่ 2)
ทดลองขับ BMW 520d (ตอนที่ 2)
ทดลองขับ BMW 520d (ตอนที่ 2)


พวงมาลัยไฟฟ้าแบบ Active Steering ส่งประกายงาน Dynamic ชั้นดีออกมาให้เห็นเมื่อผมลองลากรอบขึ้นไปที่ย่านความเร็วสูงพร้อมกับทำการเปลี่ยนทิศทางของตัวรถไปด้วยในเวลาเดียวกัน ล้อขนาด 17 นิ้วกับยาง 255/55/R17 ของ Goodyear ถึงแม้จะเล็กกว่ารุ่น 523i Highline ที่ให้ล้อ 18 นิ้วมาจากโรงงานแต่ไม่ก่อให้เกิดปัญหาในการควบคุมใดๆทั้งสิ้น แรงม้าทั้ง 184 ตัวถ่ายทอดลงสู่ระบบขับเคลื่อนล้อหลังผ่านเฟืองท้ายและการปรับเปลี่ยนอัตรา ทดของเกียร์ Step-Tronic 8 สปีด จนไม่สามารถจับความรู้สึกยามตัวรถเปลี่ยนอัตราทดได้เลย มันเนียนจนเหมือนกับเกียร์ CVT ที่ไร้ตะเข็บรอยต่อใดๆที่จะทำให้รับรู้ถึงการเปลี่ยนเกียร์ขึ้น-ลง เกียร์ Over-Drive ที่ตำแหน่งเกียร์ 8 ยังช่วยเข้ามาลดการใช้รอบเครื่องยนต์สูงเกินความจำเป็น ส่งผลให้เกิดความประหยัดเชื้อเพลิงอย่างสูงสุดชนิดที่รถเล็กเครื่องดีเซลบางคันยังทำได้แย่กว่านี้ด้วยซ้ำ เกียร์อัตโนมัติของ ZF ลูกนี้ยังทำงานประสานไปกับเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตรได้อย่างยอดเยี่ยม แรงบิด 380 นิวตันเมตร หมายถึง อัตราทดจะลดลงเฉลี่ยเพียง 1 เกียร์เมื่อคุณอัดมันไปบนทางโค้งที่คดเคี้ยวซึ่งสร้างความรู้สึกที่ดี และให้จังหวะจะโคนที่แสนจะตรงไปตรงมาบนงาน Dynamic ที่วิศวกรของ BMW ลงมือลงแรงเพื่อทำสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับการขับ ส่วนรุ่น 523i Highline ที่วางเครื่องยนต์เบนซิน จะตอบสนองได้ช้ากว่าเล็กน้อย BMW 520d เป็นรถที่เร็วคันหนึ่งในโลกแห่งความเป็นจริงของการขับขี่ใช้งานในชีวิตประจำวัน มันขับได้อย่างสบาย หน้ารถเกาะหนึบกับผิวถนน พวงมาลัยน้ำหนักเป็นเลิศ แซสซีส์ก็ยังถูกออกแบบให้ทำงานสอดคล้องไปกับกำลังของเครื่องยนต์ และมีพลังสำรองเหลือพอสำหรับการเร่งแซงรถช้า

ทดลองขับ BMW 520d (ตอนที่ 2)
ทดลองขับ BMW 520d (ตอนที่ 2)
ทดลองขับ BMW 520d (ตอนที่ 2)


เบรคมือไฟฟ้า ยังช่วยทำให้การจอดรถรอการเคลื่อนตัวยามรถติดมีความปลอดภัยและสะดวก ต่อการใช้งานเพียงแค่ผู้ขับขี่กดปุ่ม P บนตำแหน่งหัวเกียร์หรือแป้นรูปตัว P หลังซุ้มหัวเกียร์ ระบบเบรคมือไฟฟ้าที่ล้อหลังจะทำงานทันที ช่วยป้องกันรถไหลโดยไม่ได้ตั้งใจ และสร้างความปลอดภัยยามมีเด็กเล็กอยู่ในรถ เนื่องจากการปลดล็อกตำแหน่งของเบรคมือไฟฟ้า ผู้ขับจะต้องเหยียบเบรคทุกครั้งก่อนทำการปลดล็อกสวิตช์เบรคมือ การเหยียบแป้นเบรคทุกครั้งก่อนการเคลื่อนที่ของตัวรถ ยังช่วยให้คุณใส่เกียร์ D เพื่อเดินหน้าหรือเกียร์ R เพื่อถอยหลังได้อีกด้วย โดยการออกแบบในลักษณะดังกล่าวช่วยทำให้การขับขี่ใช้งานมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

ทดลองขับ BMW 520d (ตอนที่ 2)
ทดลองขับ BMW 520d (ตอนที่ 2)
ทดลองขับ BMW 520d (ตอนที่ 2)


หลักแนวคิดของระบบ EfficientDynamics ที่มีใช้อยู่ในตัวรถ BMW รุ่นใหม่ล่าสุดทุกคัน มุ่งเน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพของการเผาไหม้ในเครื่องยนต์ เพื่อทำให้เครื่องยนต์มีสมรรถนะที่สูงขึ้น ประหยัดเชื้อเพลิงและปล่อยมลภาวะลดลงในทุกๆสภาวะของการขับขี่และทุกสภาพอากาศ ในห้องปฏิบัติการทดสอบเครื่องยนต์รุ่นใหม่ที่จะออกสู่สายการผลิต วิศวกรของ BMW ทำการจำลองสภาพความกดอากาศที่มีความแตกต่างกันจากระดับ 200 เมตรต่ำกว่าระดับน้ำทะเลไปจนถึงที่ระดับ 4,200 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ทำการปรับอุณหภูมิในห้องทดสอบเครื่องยนต์ที่ -30 องศาเซลเซียสไปจนถึง 45 องศาเซลเซียสเพื่อตรวจดูการทำงาน จำลองสภาพการวิ่งที่ความเร็ว 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังสามารถปรับความชื้นและความร้อนจากการแผ่รังสีของดวงอาทิตย์ ตัวแปรดังกล่าวมีผลอย่างยิ่งยวดต่อประสิทธิภาพการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ โดยเฉพาะเครื่องยนต์ที่ใช้ระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบ ซึ่งการวิ่งในระดับความสูงเหนือระดับน้ำทะเลนั้น เครื่องยนต์จะมีการทำงานที่ลดลงจากความสูงที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยทุกๆความสูง 1000 เมตร ความกดอากาศจะลดลง 30% ข้อมูลที่เรียนรู้จากห้องทดลองจึงเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการพัฒนาเครื่องยนต์ให้มีประสิทธิภาพสูงในอนาคต

ทดลองขับ BMW 520d (ตอนที่ 2)
ทดลองขับ BMW 520d (ตอนที่ 2)
ทดลองขับ BMW 520d (ตอนที่ 2)


การทดสอบสมรรถนะการทำงานของเครื่องยนต์ในระดับความสูงที่แตกต่างกันทั่วโลกหรือ Altitude Test Chamber รถยนต์ทดสอบจะวิ่งอยู่ในสภาวะของการขับขี่ที่จำลองขึ้นให้เหมือนกับการวิ่งบนภูเขาสูง เช่น ภูเขาไฟฟูจิในประเทศญี่ปุ่น เมืองลาซาในทิเบต หรือเทือกเขาร็อคกี้ของสหรัฐอเมริกา รถยนต์ทดสอบจะทำการวิ่งไปตามโปรแกรมที่ถูกกำหนดขึ้นเสมือนการวิ่งบนถนนในสถานที่จริง ทั้งการเร่งเครื่องยนต์เพื่อไต่ทางชัน การเบรคในขณะที่ขับลงเขา อีกทั้งยังสามารถทำการคำนวณน้ำหนักบรรทุกและน้ำหนักลากจูงได้อีกด้วย นอกจากการทดสอบเครื่องยนต์เพื่อมุ่งเน้นไปที่ประสิทธิภาพของการเผาไหม้แล้ว ยังเน้นในเรื่องการทำงานของเทอร์โบ ระบบจ่ายเชื้อเพลิง ระบบหล่อลื่นเช่นน้ำมันเครื่องและน้ำหล่อเย็นในหม้อน้ำรวมถึงระบบเบรค หลังจากนั้นจ ะนำรถทดสอบมาผ่านการจำลองสภาพอากาศที่มีความแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว ด้วยการลดอุณหภูมิลงไปที่ -40 องศาเซลเซียส เพื่อดูการทำงานของชุดปรับอากาศ ระบบละลายน้ำแข็งบนกระจก ระบบความปลอดภัยของตัวรถและระบบชาร์จไฟเข้าสู่แบตเตอรี่ รวมถึงระบบควบคุมเครื่องยนต์และการสตาร์ท ระบบเกียร์ ระบบไฮดรอลิก ในสภาวะของการทำงานภายใต้เงื่อนไขที่มีอุณหภูมิต่ำหรือสูงผิดปกติ การทำงานของระบบต่างๆ ภายในรถ New Series 5 จะถูกจดบันทึกโดยคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาในการทดสอบลงมาก แถมค่าที่ได้ยังใกล้เคียงกับสภาพความเป็นจริงจนสามารถนำไปพัฒนาต่อได้อีก

ทดลองขับ BMW 520d (ตอนที่ 2)
ทดลองขับ BMW 520d (ตอนที่ 2)
ทดลองขับ BMW 520d (ตอนที่ 2)


ส่วนการทดสอบค่าสัมประสิทธิ์ แรงต้านทานของอากาศในอุโมงค์ลม Environmental Wind Tunnel ของศูนย์เทคโนโลยี ETC ยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในขั้นตอนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ยานยนต์ของ BMW โดยตัวอุโมงค์ลมจะจำลองสภาพการขับขี่ที่มีอุณหภูมิแตกต่างกัน ทั้งแบบร้อนจัดถึง 55 องศาเซลเซียส ไปจนถึงระดับ -20 องศาเซลเซียส รวมถึงการจำลองสภาพพายุฝนฟ้าคะนองและพายุหิมะที่มีกระแสลมความเร็วสูง เพื่อทดสอบสมรรถนะของ New Series 5 ก่อนที่จะเข้าสู่สายการผลิต เพื่อทำให้แน่ใจได้ว่า ทุกชิิ้นส่วนสามารถทำงานได้อย่างเป็นปกติ ภายใต้สภาวะที่สุดขั้วในห้องทดสอบ

ทดลองขับ BMW 520d (ตอนที่ 2)
ทดลองขับ BMW 520d (ตอนที่ 2)
ทดลองขับ BMW 520d (ตอนที่ 2)


เวลาแห่งความสุข สำหรับการขับขี่ทดสอบ BMW New Series 5 F10 520d ทั้ง 4 วัน หมดลงอย่างรวดเร็ว ผมกล้าพูดได้เลยว่า เจ้า 520d จะกลายเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ซีดานระดับพรีเมี่ยมที่นิยมชมชอบเครื่องยนต์ดีเซล หากงบประมาณในกระเป๋าของคุณมีไม่มากพอที่จะซื้อตัวรถในรุ่นที่มีความจุเครื่องยนต์สูงกว่านี้ ราคา 3,699,000 ล้านบาทที่แลกกับสมรรถนะ อัตราเร่ง งานประกอบและการใช้วัสดุชั้นเลิศ มันมีความเหมาะสมและคุ้มค่ามากที่สุดแล้วในกลุ่มรถหรูราคาแพงของทวีปยุโรป มันทั้งประหยัดน้ำมันมากกว่า ช่วงล่าง Adaptive ให้ความรู้สึกที่ดีและถ่ายทอดประสบการณ์การขับขี่ที่คุณไม่เคยรับรู้มาก่อน เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดก็มีการทำงานที่ยอดเยี่ยม ส่วนออพชั่นภายใน ก็ให้มาอย่างจุใจและพอเพียงต่อการใช้งานจนแทบไม่ต้องดิ้นรนไปเสียเงินเพิ่มแต่อย่างใดทั้งสิ้น คุณภาพในงานประกอบห้องโดยสารที่เหนือระดับ ส่งถ่ายความสะดวกสบายยามขับขี่ใช้งานได้ดีสมราคา แซสซีส์ที่ใช้ร่วมกันกับรุ่น Series 7 ยังทำให้ตัวรถมีขนาดที่ใหญ่โตจุใจนั่งสบาย รูปลักษณ์ภายนอกที่ท้าทายสายตาของพวกนักขับและออพชั่นระบบความปลอดภัย กับระบบควบคุมการทรงตัวยาวเหยียดจนแทบจะไม่มีรถรุ่นใหม่ในขนาดเดียวกับมันที่จะมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากมายเท่ากับเจ้า Series 5 F10 520d อีกแล้ว รวมถึงอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ทำได้ใกล้เคียงกับที่วิศวกรของ BMW เคลมไว้บนตัวเลข 19 กิโลเมตรต่อลิตร

Arcom roumsuwan
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook http://www.facebook.com//chang.arcom