Porsche เปิดตัวรถใหม่ในโมเดล 911 Carrera ด้วยรูปลักษณ์ที่ีถูกขัดเกลาให้ปราดเปรียวมากยิ่งขึ้นไปอีกระดับ โดยยังคงการขับขี่แบบสปอร์ตของ 911 Carrera เอาไว้อย่างเหนียวแน่น...
Porsche 911 Carrera สร้างตำนานให้กับวงการรถสปอร์ตมาอย่างต่อเนื่อง ยาวนานกว่า 48 ปีแล้ว และวันนี้ พร้อมแล้วที่จะออกมาอวดโฉมวาดลวยลายและสีสันในวงการสปอร์ตซุปเปอร์คาร์ Porsche 911 Carrera หรือ 911 รุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่ได้รับการดีไซน์ ปรับปรุงให้มีความ คมคายลงตัวมากยิ่งขึ้น การออกแบบใหม่นี้ ทำตามไอคอนความเป็นสปอร์ตที่สืบสานตำนานแห่งรูปทรงของเจ้าชายกบ ดีไซน์ของไฟหน้าแบบใหม่หมดจด ตัวถังยาวขึ้น การออกแบบภายในและภายนอกที่ได้รับการลงรายละเอียดในทุกชิ้น หากแต่ยังคงความเป็นโมเดล 911 ได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบที่นุ่มนวล แต่ดูแล้วเปี่ยมด้วยขุมพละกำลังและความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของบริษัทผู้ผลิตรถสปอร์ตเก่าแก่จากเยอรมัน
...
ฐานล้อได้รับการขยายให้กว้างขึ้นกว่า 100 มิลลิเมตร (3.9 นิ้ว) และลดระดับตัวรถให้ต่ำลง เพื่อรับกับการติดตั้งล้อ 20 นิ้ว เพื่อความเสถียรในระหว่างวิ่งด้วยความเร็วสูง ส่งถ่ายการยึดเกาะที่นิ่งและมั่นคงมากขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มความโดดเด่นให้กับรูปลักษณ์ที่แข็งแกร่ง ในขณะเดียวกัน รูปลักษณ์ภายนอกยังคงไว้ซึ่งความกะทัดรัด ตามรูปแบบความเป็นรถยนต์สปอร์ตทุกประการ การออกแบบหน้ารถให้ดูมีมิติที่กว้างขึ้น ช่วยสร้างความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ที่ชัดเจน การเพิ่มความกว้างให้กับด้านหน้ารถ ทำให้ Porsche 911 Carrera ใหม่ล่าสุดคันนี้ สามารถทรงตัวอยู่บนถนนได้อย่างดีเยี่ยม กระจกมองข้างได้รับการออกแบบใหม่ โดยติดตั้งเข้ากับด้านบนของประตูรถ ซึ่งช่วยให้ทัศนวิสัยในการมองดีขึ้น และความสมดุลตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่ผ่านการคำนวนค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านทานของลมที่เข้ามากระทบ อีกทั้งยังเป็นการเน้นย้ำให้เห็นถึงการออกแบบที่ลงตัวและสร้างความประทับใจให้แก่ผู้พบเห็นอีกด้วย
911 คาร์เรร่าใหม่ล่าสุด มาพร้อมกับตัวรถที่มีน้ำหนักเบา ทำจากเหล็กอลูมิเนียม ที่มีประสิทธิภาพดีเยี่ยม ส่งผลให้น้ำหนักตัวรถ ลดลงกว่า 45 กิโลกรัม ตัวรถมีความกว้างขึ้นและสปอร์ยเลอร์หลังได้รับการขยายเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของรถยนต์ให้สมดุลตามหลักอากาศพลศาสตร์ให้ได้มากที่สุดอีกทั้งยังส่งผลให้การยกตัวที่เกิดจากลมทางด้านล่างของ911 คาร์เรร่า (911 Carrera) ใหม่ล่าสุดนี้ ลดลง ในขณะที่รักษาสัมประสิทธิ์ความเสียดทาน Cd ไว้ได้อย่างดีเยี่ยม
...
วิศวกรและนักออกแบบของ Porsche เพิ่มเติมความลงตัวให้เข้ากับรูปลักษณ์ภายนอกที่มีความทันสมัย นักออกแบบของ Porsche จึงนำรูปแบบเส้นสายและวัสดุที่ใช้ตกแต่งภายในของ Carrera GT ซุปเปอร์คาร์รุ่นสูงสุดภายในค่าย มาใช้เป็นไอเดียในการออกแบบภายในห้องโดยสาร หรือภายในตัวรถ โดยใช้หลักการทำให้ตำแหน่งคนขับคือจุดศูนย์กลางในการใช้ อุปกรณ์ การออกแบบห้องโดยสารในรูปแบบนี้ส่งผลให้ผู้ขับขี่สามารถใช้งานอุปกรณ์ต่างๆได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งต้องขอบคุณต่อคอนโซลกลางที่ได้รับการออกแบบให้เชื่อมต่อไปจนถึงคอนโซลทางด้านหน้า ตำแหน่งของก้านเกียร์และคันเกียร์ได้รับการปรับเปลี่ยนให้อยู่สูงขึ้นและใกล้กับพวงมาลัยให้มากขึ้นตามรูปแบบของความเป็นมอเตอร์สปอร์ต นอกจากนี้ ความคลาสสิคของ Porsche ยังได้รับการเติมแต่งเข้าไปในห้องโดยสารอย่างครบครัน อาทิ หน้าปัดรถที่มีห้าวง หนึ่งในนั้นเป็นหน้าจอดิจิตอลที่มีความละเอียดสูงและแสดงผลการทำงานได้หลายระบบ ซึ่งจะติดตั้งอยู่ตรงกลาง เพื่อแสดงผลของรอบเครื่องยนต์
...
ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ใน 911 Carrera และ 911 Carrera S ใหม่ล่าสุดนี้ ได้รับการเพิ่มเติมเพื่อสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการรถสปอร์ตเหมือนกับความสำเร็จที่เคยได้รับอย่างที่ผ่านมา ทุกรุ่นมีอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงที่น้อยกว่า 10 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ซึ่งอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงและอัตราการปล่อยมลพิษของ 911 ตัวใหม่นี้ ลดลงถึง 16 เปอร์เซ็นต์ หากเทียบกับรุ่นเก่าเลยทีเดียว และประสิทธิภาพของอัตราที่เหนือชั้นเหล่านี้ได้มาจากระบบการทำงานต่างๆที่ถูกติดตั้งให้กับรถ 911 ใหม่คันนี้ อาทิ ระบบสตาร์ต/หยุด อัตโนมัติ (Auto start/stop) ระบบการจัดการกับการแผ่คลื่นความร้อนของกลไกต่างๆที่เคลื่อนไหว (Thermal management) ระบบ electrical system recuperation หรือระบบการนำพลังงานไฟฟ้ากลับมาใช้ใหม่และระบบเกียร์ธรรมดา 7 จังหวะ ที่ทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะจาก Porsche - Porsche-Doppelkupplungsgetriebe (PDK) นั่นเอง ระบบพวงมาลัยแบบ electro-mechanical power steering ใหม่ล่าสุด ยังส่งผลให้ Porsche 911 Carrera คันนี้ มีความแม่นยำและให้การตอบสนองที่ดีเยี่ยม อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ควบคู่ไปกับการลดการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงอีกด้วย
...
ตัวอย่าง เช่น Porsche 911 Carrera ใหม่ จะมีขุมพลังสูงสุดถึง 350 แรงม้าเครื่องยนต์ ขนาด 3.4 ลิตรแบบลูกสูบเรียงนอน หากติดตั้งระบบเกียร์ PDK เสริมเข้าไป จะทำให้มีอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงที่ต่ำเพียงแค่ 8.2 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร (ตามรูปแบบวงจรการขับขี่ในยุโรปหรือ NEDC) ซึ่งถือได้ว่าลดลงจากรุ่นก่อนถึง 1.6 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรเลยทีเดียว อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์นั้นอยู่ที่ 194 กรัม/กิโลเมตรเท่านั้น และถือได้ว่าเป็นรถสปอร์ตปอร์เช่คันแรกที่สามารถสร้างอัตราการปล่อยมลพิษได้ ต่ำกว่า 200 กรัมต่อกิโลเมตรเลยทีเดียว สำหรับรุ่น คาร์เรร่า เอส (Carrera S) มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 3.8 ลิตร เครื่องยนต์ลูกสูบเรียงนอนซึ่งมีขุมพลังเครื่องยนต์สูงสุดถึง 400 แรงม้า หากติดตั้งระบบเกียร์ PDK เสริมเข้าไปนั้น อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงจะลดลงถึง 14 เปอร์เซ็นต์หากเทียบกับรุ่นเดิม นั่นคือลดลง 1.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ซึ่งทำให้มีอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่แค่เพียง 8.7 ลิตร ต่อ 100 กิโลเมตร ในขณะที่กำลังของเครื่องยนต์เพิ่มขึ้นถึง 15 แรงม้าเลย ส่วนอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์นั้น ถือได้ว่าต่ำมาก นั่นคือ 205 กรัมต่อกิโลเมตรเพียงเท่านั้น
ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ของทั้งสองรุ่นยังได้รับการพัฒนาเพิ่มเติม นั่นคือ รุ่นคาร์เรร่า เอส (Carrera S) ที่ติดตั้งระบบเกียร์ PDK จะสามารถสร้างอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ในเวลาเพียงแค่ 4.3 วินาทีเท่านั้น หากติดตั้งอุปกรณ์เสริม Sport Chrono Package และเลือกกดปุ่มสปอร์ต พลัส (Sport Plus button) จะทำให้ลดเวลาลงเหลือแค่เพียง 4.1 วินาทีเท่านั้น สำหรับรุ่นคาร์เรร่า (Carrera) ที่ติดตั้งระบบเกียร์ PDK มีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 4.6 วินาที (Sport plusใช้เวลา 4.4 วินาที)
911 ใหม่ล่าสุดนี้ ไม่เพียงแค่มีประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น หากแต่ยังเพิ่มความคล่องตัวและความว่องไวในการขับขี่ได้มากขึ้นอีกด้วย นอกเหนือจากฐานล้อที่ขยายใหญ่ขึ้นแล้ว การยึดเกาะถนนยังเพิ่มมากขึ้น และเน้นในเรื่องของความแม่นยำและการทรงตัวที่ดีเยี่ยมด้วยเช่นกัน อีกทั้งความกว้างของด้านหน้ารถที่ขยายเพิ่มขึ้นรวมถึงเพลาด้านหลังที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่ และระบบพวงมาลัยไฟฟ้าแบบ electro-mechanic อีกด้วย เจ้าของรถยังสามารถเลือกติดตั้งออพชั่นระบบและอุปกรณ์เสริมเพิ่มเติมได้ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและประโยชน์ใช้สอยให้กับรถมากขึ้นไปอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระบบการควบคุมการทรงตัวหรือระบบ Porsche Dynamic Chassis Control (PDCC) สามารถเลือกติดตั้งให้กับ Porsche 911 Carrera S ได้เป็นครั้งแรกอีกด้วย ระบบนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพความคล่องตัวให้กับรถมากขึ้น เช่น การลดความโน้มเอียงทางด้านข้างขณะเข้าโค้ง ล้อจะอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม จึงสามารถทำงานได้อย่างเต็มพิกัด และสามารถส่งผ่านแรงดันทางด้านข้างได้มากที่สุด จึงเพิ่มความเร็วขณะเข้าโค้งได้ ทำให้สามารถทำเวลาในสนามแข่งได้เร็วยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน
สรุปได้อย่างชัดเจนว่า รถรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Porsche คันนี้ ได้มีการพัฒนาทั้งรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและลงตัวมากยิ่งขึ้น ผสมผสานเข้ากับประสิทธิภาพและสมรรถนะของเครื่องยนต์ที่พัฒนาขึ้นและเต็มไปด้วยความเป็นสปอร์ต ที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัวตามรูปแบบของความเป็น Porsche 911 Carrera ทุกประการ Porsche 911Carrera จะเฉลิมฉลองและเปิดตัวสู่สายตาชาวโลกอย่างเป็นทางการที่งานโชว์รถครั้งยิ่งใหญ่ของทวีปยุโรปหรือแฟรงเฟิร์ตมอเตอร์โชว์ 2011 (Frankfurt Motor Show) และจะเปิดตัวอีกครั้งพร้อมกันในวันที่ 3 ธันวาคม 2011 สำหรับในประเทศไทยนั้น Porsche 911 Carrera มีราคาเริ่มต้นที่ 12,650,000 บาท และ 911 Carrera S สนนราคาเริ่มต้นที่ 14,500,000 บาท
VDO
Arcom roumsuwan
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook http://www.facebook.com/chang.arcom