ฉีกหนีความซ้ำซากจำเจของรูปแบบเก่าๆ บนตัวรถ Series 5 ด้วยนวัตกรรมล่าสุดในรุ่น F10 523i Highline เจเนอเรชั่นที่ 6 กับการหวนคืนสู่บันลังก์สูงสุดของรถยนต์ซาลูนระดับพรีเมียมจาก BMW...

การมาถึงของ BMW Series 5 ในโมเดลที่ 6 รหัส F10 คือการปฏิวัติรถยนต์ในตระกูลซาลูนของค่ายใบพัดสีฟ้าให้สูงขึ้นไปอีกระดับ เช่นเดียวกับรถยนต์จากบริษัท BMW ทุกโมเดลที่สื่อให้เห็นถึงความตั้งใจของพวกเยอรมันในการผลิตยานยนต์คุณภาพเยี่ยม เพื่อตอบสนองการเคลื่อนที่เดินทางของมนุษย์ รถ Series 5 ทุกรุ่นคือพาหนะขนาดกลางที่มีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ความต้องการครอบครองความเป็นหนึ่งทางเทคโนโลยีและส่วนแบ่งทางการตลาด ผลักดันให้วิศวกรและนักออกแบบตัวรถรุ่น F10 ต้องทำงานกันอย่างหนักหน่วงมากกว่าที่เคยทำกับเจ้า e39 และ e60 โมเดล Series5 รุ่นก่อนหน้าที่ประสบความสำเร็จมาแล้วอย่างงดงาม

ทดลองขับ BMW 523i HIGHLINE (ตอนที่1)


BMW Model Series 5 1973-2011

รถ BMW Series 5 เป็นรถยนต์ในกลุ่มซาลูนขนาดกลางที่มีอายุอานามยาวนานเกือบ 40 ปีของสายพันธุ์ จากโมเดลแรกสุดของตระกูล Series 5 ซึ่งใช้รหัสรุ่น E12 ผ่านการขัดเกลาจากกาลเวลาจนมาถึงรุ่นล่าสุดในรหัส F10 พัฒนาการของรูปทรงเครื่องยนต์ตลอดจนสมถรรนะในการขับขี่ส่งถ่ายจากรุ่นเก่าสู่รุ่นใหม่ด้วยรูปลักษณ์ที่งดงามจนได้รับความนิยมไปทั่ววงการยานยนต์ ว่ามันคือหนึ่งในรถยนต์สี่ประตูขนาดกลางที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่บริษัท BMW เคยผลิตออกมา

...

ทดลองขับ BMW 523i HIGHLINE (ตอนที่1)


BMW Series 5 E12 (1973-1979)

การถือกำเนิดขึ้นของรถยนต์ในตระกูล Series 5 โมเดลแรกสุดเริ่มต้นขึ้นในยุคที่พลัังงานจากน้ำมันเชื้อเพลิงกำลังก่อปัญหาให้กับผู้ใช้รถยนต์ทั่วโลก แต่การที่มันมีปริมาตรความจุเครื่องยนต์ไม่ใหญ่โตมโหฬารเท่าใดนักทำให้สามารถขายได้ในยุโรปและอเมริกา โมเดลแรกสุดของ Series 5 มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4-6 กระบอกสูบ ปริมาตรความจุมีตั้งแต่ 2.0 ลิตรจนถึง 2.8 ลิตร รวมถึงรุ่นสูงสุดที่ใช้เครื่องยนต์ขนาด 3.2 ลิตรกับเอกลักษณ์เครื่องวางตามยาวด้านหน้าขับเคลื่อนล้อหลัง ภายในที่ตกแต่งอย่างดีและการบังคับควบคุมที่ไม่เป็นรองใครในยุค 70'

ทดลองขับ BMW 523i HIGHLINE (ตอนที่1)


BMW Series 5 E28 (1982-1987)

รูปทรงของเจ้า e28 โมเดลที่ 2 ในตระกูลซาลูนของ BMW เริ่มมีพัฒนาการที่ดีขึ้นภายในหรูหรามากกว่าตัวแรก พร้อมระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ทันสมัย ซึ่งพัฒนามาเพื่อยกระดับของการขับขี่ ทั้งกระจกไฟฟ้า เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ของ Bosch เซนเตอร์ล็อกในทุกตำแหน่งพร้อมด้วยระบบตรวจสอบการทำงานของเครื่องยนต์ ที่แจ้งเตือนในรูปแบบของออนบอร์ดคอมพิวเตอร์ เครื่องยนต์แถวเรียงหกสูบ 2.0-3.5 ลิตร และรุ่นพิเศษกับการถือกำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรกของตัวแรงรหัส M5 ที่ใช้เครื่องของรถสปอร์ตรุ่น M1 เครื่องยนต์มีขนาดของพลังให้เลือกมากขึ้นจาก 126 แรงม้าไปจนถึง 286 แรงม้า รวมถึงรูปลักษณ์ของตัวถังที่มีให้เลือกเพิ่มขึ้น ทั้งซาลูน 4 ประตู และแบบ Touring 5 ประตู พร้อมการขับขี่ทรงตัวในสไตส์รถยนต์ชั้นดีจากเยอรมัน

ทดลองขับ BMW 523i HIGHLINE (ตอนที่1)


BMW Series 5 E34 (1987-1995)

โมเดลที่ 3 ของรถ Series 5 มุ่งเน้นไปที่ความหรูหราสะดวกสบายของภายในการยึดเกาะของช่วงล่างและระบบส่งกำลังที่มีทั้งเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ตัวถังแบบซีดานสี่ประตูและเอสเตทแวน 5 ประตู (Touring) มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นที่แล้วทำให้มันกลายเป็นรถยอดนิยมทันทีหลังจากออกขายได้ไม่นานนัก สมรรถนะทุกอย่างของตัวรถเหนือกว่ารุ่นที่ 2 (e28) แบบเห็นๆ เครื่องยนต์เริ่มตั้งแต่ขนาดเล็กสุด 1.8 ลิตร ไปจนถึง 3.8 ลิตรและรุ่นพิเศษจากสำนัก M Version เครื่องยนต์เบนซินหกสูบ 3.8 ลิตร 335 แรงม้า พร้อมระบบอิเล็กทรอนิกส์ และเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดในการขับขี่ เช่น ระบบ ABS/ ASC-T ระบบช่วยทรงตัว พร้อมหน่วยความจำประมวลผลบันทึกข้อผิดพลาดในระหว่างการใช้งาน โดยแจ้งเตือนทันทีที่นำรถเข้ารับบริการ รวมถึงระบบต่างๆ ที่่เหนือกว่ารถในกลุ่มเดียวกันทำให้มันมีความโดดเด่นมากในช่วงปี 1988-1994

...

ทดลองขับ BMW 523i HIGHLINE (ตอนที่1)


BMW Series 5 E39 (1996-2003)

เหลี่ยมมุมทื่อๆ จากรุ่นที่แล้วถูกขัดเกลาให้โค้งมนขึ้นไฟหน้าซีนอน บวกไฟหรี่วงแหวนในรุ่น Minor Change กลายเป็นแบบอย่างให้ค่ายรถอื่นเอาไปลอกเลียนแบบ พร้อมกันนั้นวิศวกรของ BMW ได้ประดังเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้กับรถ BMW Series 5E39 หน้าปัดและคอนโซลออกแบบได้อย่างสวยงามถึงใจนักเลงบีเอ็ม สมรรถนะในการขับขี่ขึ้นถึงจุดสูงสุดของโมเดล Series 5 โดยการใช้ช่วงล่างอะลูมิเนียมในระบบรองรับ เพียบพร้อมไปด้วยระบบช่วยในการทรงตัวแบบ ASC-T พวงมาลัยติดตั้งสวิตช์มัลติฟังก์ชั่นเพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน เครื่องยนต์มีทั้งเบนซินและดีเซล ขนาด 2.3 ลิตร ไปจนถึง 4.0 ลิตรในรุ่น 540i และรุ่นแรงสุด M5 ที่ใช้เครื่องยนต์ V8 400 แรงม้า รถ Series 5 E39 เป็นรถซาลูน 4 ประตู ที่สามารถเข้ามาสานต่อตำนานของรุ่นได้อย่างยอดเยี่ยม สมรรถนะของมันถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มสูงสุดของซาลูน 4 ประตูขนาดกลาง โดยจุดเด่นของตัวรถอยู่ที่ช่วงล่างและการสื่อสารระหว่างพวงมาลัยกับผู้ขับ ที่ให้ความรู้สึกดีเยี่ยมเกินหน้าเกินตารถยนต์ยี่ห้ออื่นๆ ที่มีขนาดและปริมาตรความจุเครื่องยนต์เท่ากัน

...

ทดลองขับ BMW 523i HIGHLINE (ตอนที่1)


BMW Series 5 E60 (2004-2009)

Chris Bangle ปรมาจารย์นักออกแบบรถยนต์และหัวหน้าทีมดีไซน์ของ BMW นำแนวคิดล้ำสมัยมาปรับใช้บนรูปทรงของรถ Series 5 E60 ให้ก้าวล้ำไปในอนาคตด้วยดีไซน์ที่แหวกแนว ไฟหน้า กระจังหน้า ไฟท้ายถูกปรับปรุงเปลี่ยนแปลงทั้งหมด E60 เป็นรถซีดานขนาดกลางที่มีระบบอิเล็กทรอนิกส์รกรุงรังมากที่สุด ภายในสุดหรูด้วยการใช้วัสดุชั้นเยี่ยม iDrive บนจอกลางคอนโซล ระบบควบคุมการทรงตัวที่ถูกพัฒนาให้ดีขึ้นไปอีกระดับและอื่นๆ อีกเพียบ เครื่องยนต์มีทั้งเบนซินและดีเซลเทอร์โบ ขนาด 2.0-4.0 ลิตรและรุ่นพิเศษ M5 เครื่องยนต์ V10 500 แรงม้า รถ Series 5 E60 ได้รับความนิยมไม่แตกต่างจากรุ่น E39 เท่าใดนัก

ทดลองขับ BMW 523i HIGHLINE (ตอนที่1)

...

ทดลองขับ BMW 523i HIGHLINE (ตอนที่1)


BMW Series 5 F 10 The Design

BMW New Series 5 2010 ใช้รหัสตัวถัง F10 โดยยึดแนวทางการออกแบบด้วยเส้นสายที่มีความเรียบร้อยมากขึ้น หัวหน้าทีมออกแบบชาวฮอลแลนด์ชื่อ Adrian Van Hooydonk ผู้เข้ามารับหน้าที่แทน Chris Bangle เริ่มสร้างมาตรฐานใหม่ในการนำเสนอรูปทรงของรถ BMW ให้มีความปราดเปรียวและลงตัวมากยิ่งขึ้น โดยใช้แนวความคิดเดิมของ Bangle มาผสมผสานกับความทันสมัยของเส้นสายรอบตัวถังที่ทำการออกแบบใหม่ทั้งหมด ด้วยการใช้แนวเส้นข้างของตัวรถทีี่มีความคมชัดเป็นแนวนำสายตา กระจังหน้ารูปไตคู่มีขนาดใหญ่ขึ้น พัฒนาการที่ส่งถ่ายผ่านรูปทรงของ New Series 5 โฉมใหม่ปี 2010 คือ การใช้แนวเส้นเป็นตัวสร้างแสงเงาที่เฉียบคมบนตัวถังประสานไปกับความเรียบง่ายของรูปลักษณ์ ที่ยังคงเอกลักษณ์เส้นตัวถังพลิ้วไหว สร้างความรู้สึกที่ดีจากภายนอกสู่ภายในได้อย่างกลมกลืนสมราคาค่าตัว 4.2 ล้านบาทในรุ่น 523i Highline

ทดลองขับ BMW 523i HIGHLINE (ตอนที่1)
ทดลองขับ BMW 523i HIGHLINE (ตอนที่1)
ทดลองขับ BMW 523i HIGHLINE (ตอนที่1)


The New F10 Body Work

ภาพรวมของตัวถังรถ Series 5 รุ่นใหม่ใช้แพลตฟอร์มร่วม กับ Series7 มีรูปลักษณ์ที่สง่างามมากขึ้น แต่ออกแนวเรียบร้อยไม่ดุดันเท่ารุ่น E60 โครงสร้างของตัวถังเป็นแบบโมโนค็อกใช้เหล็กส่วนผสมพิเศษที่มีความเหนียวซึ่งทำให้ความแข็งแกร่งของโครงซัสซีส์เพิ่มขึ้นอีก 50% กระจังหน้าสัญลักษณ์ไตคู่มีขนาดใหญ่ขึ้น และวางอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำกว่าเดิม ระยะโอเวอร์แฮงค์หน้าถูกร่นให้สั้นขึ้น แต่มีการเพิ่มขนาดความยาวของฐานล้อออกไปอีกถึง 80 มิลลิเมตร ทำให้มันมีตัวถังที่ยาวกว่ารุ่นเก่าเล็กน้อย แนวของหลังคาคล้ายกับ Series 7 แต่ใช้เส้นข้างลำตัวที่คมชัดลากจากซุ้มล้อหน้า ไปจนจรดไฟท้ายเหมือนกับ Series3 E90 เส้นด้านข้างของตัวรถ Series 5 F10 สามารถสร้างแสงเงาและช่วยเพิ่มเติมมุมมองให้เด่นชัดสมบูรณ์แบบ

ทดลองขับ BMW 523i HIGHLINE (ตอนที่1)
ทดลองขับ BMW 523i HIGHLINE (ตอนที่1)
ทดลองขับ BMW 523i HIGHLINE (ตอนที่1)


BMW Series 5 F10 523i Highline Exterior Design

ไฟหน้าDynamic Bi-Xenon ดีไซน์ใหม่มีหลอดไฟหรี่ LED สีเหลืองที่มุมบน ฝากระโปรงหน้าผลิตจากอะลูมินัมอัลลอยไล่แนวกลมกลืนไปกับความลาดเอียงของกระจกหน้า กึ่งกลางขอบหลังคาใกล้กระจกหลังติดเสาโทรศัพท์ทรงครีบปลาฉลาม เสา C หรือเสาหลังดูดีขึ้นและเข้ากับกระจกทั้งแนวตลอดด้านข้าง มือจับประตูทรงเว้ามีหลอดไฟ LED ซ่อนอยู่ภายในเพื่อให้แสงสว่างสำหรับการใช้งานในตอนกลางคืน ฝาถังน้ำมันยังใช้ทรงเหลี่ยมตามแบบฉบับของรุ่นเก่า ไฟท้ายเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดโดยขยายขนาดของไฟท้ายแบบแยกตำแหน่ง ทำงานด้วยหลอด LED รูปลักษณ์ด้านบั้นท้ายงดงามลงตัวด้วยสปอยเลอร์หลังใหม่ฝากระโปรงท้ายใช้เส้นที่ต่อเชื่อมกับแนวด้านข้าง โดยทำเป็นสันตรงบริเวณขอบท่อระบายไอเสียแบบสปอร์ต 2 ท่อติดกันทำจากสแตนเลส วัสดุประเภทอะลูมินัมอัลลอยยังถูกนำมาใช้ทำประตูทั้ง 4 บาน ลดน้ำหนักลงไปได้ถึง 23 กิโลกรัม ฝากระโปรงหน้า บังโคลนคู่หน้า และระบบกันสะเทือนด้านหน้าก็ยังคงใช้อัลลอยเนื้อเหนียวพิเศษ แต่น้ำหนักตัวกลับเพิ่มมากขึ้นกว่ารุ่น E60 ถึง 50 กิโลกรัม เนื่องจากเจ้า Series 5 F10 ตัวโตขึ้นในทุกมิติของตัวถังนั่นเอง ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ห่อรัดด้วยยาง Run-Flat ของ Goodyear ขนาด 245/45/r18 96Y ทั้งสี่ล้อ

ทดลองขับ BMW 523i HIGHLINE (ตอนที่1)
ทดลองขับ BMW 523i HIGHLINE (ตอนที่1)
ทดลองขับ BMW 523i HIGHLINE (ตอนที่1)


Cockpit Interior

ห้องโดยสารของรถ BMW ในตระกูล Series 5 ทุกรุ่นขึ้นชื่อในของความสง่างามลงตัวมานานแล้ว วัสดุและอุปกรณ์ต่างๆ ที่นำมาใช้ทำภายในเป็นวัสดุชั้นดีคุณภาพสูงทั้งสิ้น คุณจะไม่มีวันได้พบกับพลาสติกราคาถูก ปุ่มปรับรูปร่างตลกๆ หรือการจัดวางรูปแบบของอุปกรณ์ที่ไม่ได้เรื่องได้ราวในรถ Series 5 ทั้ง 6 รุ่นเป็นอันขาด บริษัท BMW ต้องการให้มันเป็นรถซาลูน 4 ประตูขนาดกลางที่ดีที่สุดและมันก็ทำได้ตามที่คิดเอาไว้จากยอดจำหน่ายที่เหนือกว่าบรรดาคู่แข่ง โดยใช้แนวคิดยึดมั่นและรวบรวมเอาสิ่งที่ดีที่สุดของวิศวกรรมยานยนต์จากเยอรมัน มาบรรจงใส่ไว้ภายในห้องโดยสาร ภายในของรถ Series 5 523i Highline ใหม่คันนี้ยังคงไว้ซึ่งกลิ่นไอของห้องโดยสารที่สวยงามในรุ่นที่แล้ว (E60) แต่ปรับปรุงในบางตำแหน่งเพื่อความลงตัว คอนโซล สวิตช์ปรับโหมดแอร์ ชุดเครื่องเสียงบิลด์อิน หัวเกียร์และปุ่ม iDrive ยังคงรูปลักษณ์เดิมิ แต่แนวโค้งของคอนโซลตรงกึ่งกลางเหนือจอมัลติฟังชั่นหายไปจากการออกแบบใหม่หมดจด และใช้พื้นผิวสัมผัสเรียบๆ ที่ดูกลมกลืนมากขึ้น

ทดลองขับ BMW 523i HIGHLINE (ตอนที่1)
ทดลองขับ BMW 523i HIGHLINE (ตอนที่1)
ทดลองขับ BMW 523i HIGHLINE (ตอนที่1)


Cockpit Interior

หน้าปัดเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย มองครั้งเดียวก็รู้ทันทีว่านี่คือหน้าปัดของรถ BMW พวงมาลัยทรงสามก้านหุ้มหนังแท้คล้ายกับของเดิม มีสวิตช์ + - สำหรับเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์และสวิตช์มัลติฟังก์ชั่นปรับชุดเครื่องเสียง ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติและโทรศัพท์เคลื่อนที่ ไฟหรี่บริเวณมือจับประตูถูกเปลี่ยนสีให้สวยงามขึ้น ซึ่งกลายเป็นลูกเล่นชิ้นใหม่ของค่ายใบพัด คอนโซลของ Series 5 F10 จะเอียงเข้าหาตำแหน่งของผู้ขับขี่เล็กน้อย เนื่องจากผู้ทีี่่เลือกซื้อรถรุ่นนี้กว่า 90% มักจะขับรถด้วยตนเอง วิศวกรของ BMW จึงเน้นไปที่การใช้งานของอุปกรณ์ภายในทีี่ต้องสะดวกสบายและรวดเร็ว ส่งตรงไปยังผู้ขับขี่โดยตรง เบาะนั่งคู่หน้าคล้ายกับของรุ่นเดิมที่มีขนาดพอเหมาะนั่งสบายปรับด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าพร้อมหน่วยความจำ ระบบสั่งการในโหมดต่างๆ ด้วยปุ่ม iDrive ถูุกปรับโปรแกรมใหม่ทั้งหมดเพื่อการใช้งานที่ง่ายขึ้นกว่า iDrive ของรุ่นแรกๆ มีโหมดให้เข้าไปเลือกใช้งานได้เพียบนับร้อยรายการ ทั้งการควมคุมปรับแต่งระบบต่างๆ ที่เอื้ออำนวยต่อการขับขี่ให้มีความสะดวกสบาย เพิ่มเติมสมรรถนะในการควบคุมและตรวจสอบความผิดพลาดของระบบต่างๆ อย่างครบครัน

ทดลองขับ BMW 523i HIGHLINE (ตอนที่1)
ทดลองขับ BMW 523i HIGHLINE (ตอนที่1)


Suspensions And 8 Speed Auto-Transmission

รถBMW Series 5 รุ่นเก่าใช้ช่วงล่างด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง เมื่อเวลาเดินทางมาถึงพร้อมกับความสมบูรณ์แบบในรถ Series5 รุ่นล่าสุดอย่าง F10 วิศวกรของ BMW จึงปรับเปลี่ยนช่วงล่างด้านหน้าทั้งหมดขึ้นใหม่ โดยหันมาใช้ปีกนกคู่ที่ขึ้นรูปจากอะลูมินัมอัลลอย ส่วนช่วงล่างด้านหลังยังคงรูปแบบเดิม พร้อมระบบ Adaptive Damper สามารถปรับเปลี่ยนค่าความแข็งได้ถึง 3 ระดับ ทำให้การขับเข้าสู่ทางโค้งด้วยความเร็วสูง ตัวรถจะไม่มีอาการโคลงตัวแต่อย่างใด ระบบบังคับเลี้ยวหรือพวงมาลัยแบบ ActiveSteering เปลี่ยนจากปั๊มไฮดรอลิก มาเป็นระบบไฟฟ้าแปรผันไปตามความเร็วเพื่อลดภาระของเครื่องยนต์ ที่ต้องมีสายพานมาเชื่อมต่อ เพื่อให้ปั๊มไฮดรอลิกทำงาน การใช้พวงมาลัยไฟฟ้าในรถ Series 5 F10 ทำให้การตอบสนองของพวงมาลัยที่สื่อสารไปยังพื้นถนนลดลงแต่ไม่มากนัก ระบบบังคับเลี้ยวสี่ล้อที่ล้อคู่หลังสามารถขยับตัวได้ 2.5 องศา จะเป็นออปชั่นเสริมที่ตามออกมาในรุ่นต่อๆ ไป ส่วนระบบเกียร์จากที่เคยมีแค่ 6 เกียร์ในรถ Series 5 E60 เมื่อมาถึงรุ่นใหม่ BMW ได้ปรับเพิ่มอัตราทดจนมีถึง 8 ตำแหน่ง เพื่อการส่งกำลังที่ลื่นไหลและครอบคลุมในทุกย่านความเร็ว เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดของบริษัท ZF ตัวนี้มีน้ำหนักมากขึ้นอีก 20 กิโลกรัม แต่มีขนาดเท่าเดิม ซึ่งประจำการอยู่ในรถ BMW 760 Li V12 รวมถึง Series 7 ในรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด

ทดลองขับ BMW 523i HIGHLINE (ตอนที่1)
ทดลองขับ BMW 523i HIGHLINE (ตอนที่1)


BMW 523i Highline Engine

BMW มักเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ในค่าย ด้วยการใช้เครื่องยนต์รุ่นสุดท้ายของตัวเก่าแล้วค่อยปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ เพื่อใส่ลงไปในรุ่นไมเนอร์เชนจ์ ที่จะตามออกมาในภายหลังเพื่อกลยุทธ์ทางการตลาด รถ Series 5 F10 มีเครื่องยนต์ให้เลือกมากมายเหมือนเดิม ทั้งเบนซิน 6 สูบ/ ทวินเทอร์โบ 6 สูบในรุ่น 535i และ V8 ส่วนเครื่องดีเซลเทอร์โบมีขนาดตั้งแต่ 2.0 ลิตร 4สูบจนถึง 3.0 ลิตร โดยมีเครื่องยนต์ใหม่ล่าสุดเพียงรุ่นเดียวที่นำออกขายในตอนเปิดตัว เครื่องยนต์ทุกขนาดของมันถูกปรับแก้ให้ปล่อยมลพิษน้อยลงและประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย หลังจากนั้นรุ่นเครื่องยนต์ลูกผสมแบบไฮบริดจึงจะตามออกมาพร้อมโหมดพิเศษ ที่สามารถปรับระบบขับเคลื่อนตัวรถด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ล้อคู่หน้าเพียงอย่างเดียว โดยหยุดการทำงานของเครื่องยนต์ในขณะที่มอเตอร์ทำงานเพื่อการประหยัดพลังงาน ส่วนรุ่นพิเศษ M5 จะใช้เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 578 แรงม้า ที่มีพื้นฐานของเครื่องมาจากรุ่น X5 M และ X6 M ที่ทั้งเร็วและแรงกว่า M5 E60 ตัวที่แล้ว เครื่องยนต์ทุกตัวใน F10 มีระบบ Efficient Dynamics ในการอนุรักษ์สภาพแวดล้อม ส่วนรถที่นำมาทดสอบเป็นรุ่น 523i Highline วางเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 6 กระบอกสูบ 24 วาล์ว พร้อมระบบ Valvetronic และ Double-Vanos แปรผันวาล์วทั้งฝั่งไอดีและไอเสีย ปริมาตรความจุ 2,497 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า ที่ 6,300 รอบต่อนาทีแรงบิดสูงสุด 25.47 กิโลกรัม-เมตร ที่ 2,750-3,000 รอบต่อนาที อัดจาก 0-100 กิโลเมตรใน 8.6 วินาที ความเร็วสูงสุดตามที่วิศวกรของ BMW เคลมตัวเลขมาคือ 220.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดในการชาร์จพลังงานไฟฟ้าเข้าสู่แบตเตอรี่ ด้วยการใช้พลังงานความร้อนจากการเบรก แปรเปลี่ยนไปเป็นกระแสไฟฟ้าแล้วประจุเข้าสู่ตัวแบตโดยอัตโนมัติ

ทดลองขับ BMW 523i HIGHLINE (ตอนที่1)
ทดลองขับ BMW 523i HIGHLINE (ตอนที่1)


BMW Series 5 F10 นับว่าเป็นรถยนต์ที่มีอุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์รกรุงรังมากที่สุดในโลก การประดังใส่เทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าไปในตัวรถไม่ใช่เพียงแค่เพิ่มเติมประสิทธิภาพของมันเท่านั้น มันยังทำให้ค่ายรถฝั่งตรงข้ามถึงกับคุยไม่ออก เนื่องจากการขยันคิดค้นระบบควบคุมแบบใหม่ของวิศวกรและช่างผู้ชำนาญงานจาก BMW เพื่อต้องการทำให้ตัวรถ New Series 5 ออกมาเหนือกว่ารถคู่แข่งในทุกระบบออปชั่นพิเศษที่จะตามออกมาในอีกไม่นานนี้ (2012-2015) เจ้าของรถจะพบว่ามันสามารถถอยเข้าจอดได้เอง !!

ทดลองขับ BMW 523i HIGHLINE (ตอนที่1)
ทดลองขับ BMW 523i HIGHLINE (ตอนที่1)


การออกนวัตกรรมทางเทคโนโลยีใหม่ๆ ของค่ายใบพัดสีฟ้า-ขาว ถือว่าเป็นเรื่องปกติที่เราสามารถพบเห็นได้ในรถยนต์รุ่นล่าสุดของ BMW เมื่อมาถึงรถ Series 5F10 ก็จะพบกับการเปลี่ยนแปลงระบบควบคุมแบบใหม่ FlexRay ซึ่งมีใช้อยู่ในรถ Series 7 และ Series 5 Gran Turismo ระบบนี้สามารถส่งถ่ายข้อมูลได้เร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 20 เท่า ด้วยไมโครโปรเซสเซอร์รุ่นก้าวหน้า ทำให้สามารถเพิ่มการควบคุมได้ในหลายๆ ส่วน เช่น การทำงานของระบบกล้องกับเรดาร์ ระบบเซนเซอร์อัลตร้าซาวด์ที่ทำงานร่วมกับพวงมาลัยไฟฟ้า เพื่อปรับค่าน้ำหนักของพวงมาลัยแปรผันไปตามความเร็ว การแจ้งเตือนทันทีที่ตัวรถเริ่มเบนออกจากเส้นทาง หรือแจ้งเตือนเมื่อมีรถข้างหน้าที่อยู่ในมุมอับ จนทำให้ผู้ขับไม่สามารถมองเห็นได้ กล้องอินฟาเรดในระบบ Night Vision ระบบ Speed Control รักษาระยะห่างระหว่างรถคันหน้าให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย พร้อมเบรกฉุกเฉินที่จะทำงานทันทีที่เห็นว่าระยะของตัวรถใกล้กันจนอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ (อุปกรณ์ออปชั่นเสริมพิเศษที่ลูกค้าสามารถเลือกติดตั้งได้) ทั้งหมดสามารถเปิดหรือปิดโหมดเพื่อเพิ่มหรือยกเลิกคำสั่งได้อย่างรวดเร็ว ทำให้การขับขี่ซาลูนตัวเจ็บรุ่นนี้มีความโดดเด่นเหนือกว่าคู่แข่ง ด้วยนวัตกรรมล่าสุดที่วิศวกรของ BMW ได้ทำการคิดค้นขึ้นและบรรจงใส่ลงไปในตัวรถรุ่นนี้.

ติดดามอ่าน ทดลองขับ BMW 523i HIGHLINE ได้ในตอนต่อไป

Arcom roumsuwan
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook