หลายคนก็ยังมีความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการเลือกซื้อยางอยู่ เพราะได้รับฟัง หรือได้อ่านเรื่องราวความเชื่อที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับอายุการผลิตของยาง จนทำให้เจ้าของรถในเมืองไทยจำนวนไม่น้อย คำนึงถึงวันผลิตที่ติดอยู่บนแก้มยางหรือDOT มากจนเกินความจำเป็น เพราะแท้จริงแล้วการเลือกซื้อยางที่ถูกต้อง ควรเลือกซื้อยางที่มีขนาดที่ถูกต้อง เหมาะกับประเภทของรถ การใช้งาน คุณภาพ และควรให้ความใส่ใจการดูแลรักษายาง
จากการศึกษาและวิจัยจากหน่วยงานภาครัฐบาลและบริษัทชั้นนำทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ พบว่า แท้จริงแล้ววันผลิตของยางไม่ได้มีผลกับสมรรถภาพของยางอย่างที่หลายคนเข้าใจเพราะโดยปกติยางที่ผลิตออกมานั้น เมื่อมีการจัดเก็บที่ดีพอ เช่น การเก็บรักษาในอุณหภูมิที่เหมาะสม และยังไม่ได้เริ่มใช้งาน ก็จะสามารถเก็บยางเส้นนั้นๆ ได้เป็นเวลาหลายปีโดยไม่เสื่อมสภาพ
...
กรมทรัพยากรอุตสาหกรรมของประเทศเกาหลีใต้ ได้เคยออกเอกสารที่มีข้อความที่ไม่ถูกต้องเมื่อ พ.ศ.2550 ว่ายางที่ผลิตนานกว่าหนึ่งปีอาจจะมีผลต่อความปลอดภัยในการขับขี่ได้ แต่ท้ายที่สุด ความเชื่อที่คลาดเคลื่อนนี้ก็ได้ลบล้างไปหลังจากกรมคุ้มครองผู้บริโภคของประเทศเกาหลีใต้ได้ จัดการทดสอบเพื่อพิสูจน์ระดับความปลอดภัยในการใช้ยางระหว่างยางใหม่และยาง ที่ผลิตย้อนหลังไปสามปี (พ.ศ.2548 –พ.ศ.2550) ซึ่งด้วยการทดสอบแบบ KSM6750 เกี่ยวกับการขับขี่ด้วยความเร็วสูงและการขับขี่แบบหยุดเป็นระยะได้ผลลัพธ์ ว่าแม้วันที่ผลิตจะแตกต่างกัน แต่ประสิทธิภาพและสมรรถนะของยางเหมือนกันทุกประการ
นอกจาก นั้น TUV Rheinland Group Ltd. ยังได้ทำการทดสอบว่า วันที่ของการผลิตที่แตกต่างกัน จะมีผลต่อสมรรถนะของยางในด้านความสามารถในการเกาะถนน การควบคุมการขับขี่และการเบรคของยางหรือไม่ โดย TUV Rheinland Group Ltd. ได้ทำการทดสอบระยะการเบรคที่ความเร็ว80กิโลเมตรต่อชั่วโมงจนกระทั่งหยุดนิ่งผล การทดสอบพบว่ายางที่มีวันที่ของการผลิตแตกต่างกัน มีความสามารถในการเกาะถนน การควบคุมการขับขี่ และการเบรคใกล้เคียงกันมาก จนแทบจะไม่มีความแตกต่าง
นอกจากนั้นกรมคมนาคมของประเทศสหรัฐอเมริกายังเคยตีพิมพ์บทความเกี่ยวกับ “ประสิทธิภาพของยางรถที่มีการเติมลมแล้ว (The Pneumatic Tier)” ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2549 โดยระบุว่าความร้อนที่เกิดขึ้นขณะที่ยางมีการใช้งานคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยางเสื่อมสภาพยาง รถยนต์ที่วิ่งด้วยความเร็ว120 ก.ม.ต่อชั่วโมง สามารถทำให้เกิดอุณหภูมิที่หน้ายางสูงขึ้นถึง 75 องศาเซลเซียส แต่หากความดันในลมยางน้อยกว่าปกติ (เช่น ยางแบน) ก็จะยิ่งทำให้ความร้อนหน้ายางสูงมากกว่าที่ควรจะเป็นด้วยดังนั้น อุณหภูมิในโกดังที่จัดเก็บยางรถยนต์ก่อนการใช้งานจริง จึงมีผลต่อคุณภาพของเนื้อยางเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเมื่อเทียบกับความร้อนที่เกิดจากแรงเสียดสีเมื่อนำยางไปใช้ในการขับขี่จริงเพราะ โดยทั่วไปนั้น ยางที่ยังไม่ได้ถูกนำไปใช้งาน สามารถเก็บได้เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 3 ปีก่อนการใช้งานจริง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเก็บรักษาจากคำแนะนำของบริษัทผู้ผลิต
...
อีกตัวอย่างหนึ่งได้จากการทดสอบของประเทศในฝั่งยุโรปโดยองค์กร ADAC ซึ่งเป็นหน่วยงานเพื่อผู้ขับขี่รถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเยอรมนี ได้พิสูจน์เรื่องสมรรถนะของยางเอาไว้ในเดือนมิถุนายน 2553 โดยได้ทำการทดสอบประสิทธิภาพยางรถยนต์ที่ผลิตใน พ.ศ.2550 และ พ.ศ.2547 สำหรับการขับขี่ในช่วงฤดูหนาวและฤดูร้อน ซึ่งผลการทดสอบก็ไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่า ยางที่ผลิตใหม่จะมีสมรรถนะเหนือกว่ายางที่ผลิตมานานกว่า
ขณะเดียวกัน ทางประเทศไทยเอง ก็มีหน่วยงานภาควิชาการที่ได้ทำการทดสอบในลักษณะเดียวกัน โดยคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ TUV Rheinland Group Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำหน้าที่ทดสอบและให้การรับรองคุณภาพแก่ผลิตภัณฑ์และสินค้าของบริษัทชั้นนำทั่วโลก มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศเยอรมนี ทำการทดสอบเพื่อหาข้อพิสูจน์ว่า ในสภาพแวดล้อมของประเทศไทยนั้น สมรรถนะของยางที่ผลิตใหม่กับยางที่ผลิตมานานกว่าจะมีความแตกต่างกันในด้าน ประสิทธิภาพและความปลอดภัยหรือไม่ จึงได้นำยางรถยนต์ที่มีวันผลิตต่างกันหนึ่งปี ไปทดสอบการใช้งาน โดยการขับขี่ด้วยความเร็วสูงที่ 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในระยะเวลาที่ต่อเนื่องนาน 60 นาที ผลที่ได้จากการทดสอบพบว่ามีความแตกต่างกันไม่เกินหนึ่งเปอร์เซ็นต์ รวมทั้งยังมีความสามารถในการบรรทุกหนักและวิ่งเป็นระยะทางไกลตลอดจนความแข็งแรงของหน้ายางและโครงสร้างยางไม่แตกต่างกัน ทั้งๆ ที่วันผลิตยางนั้นห่างกันถึงหนึ่งปี
...
นายชูเดช ดีประเสริฐกุล อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า "ยางที่มีวันที่การผลิตต่างกันสองถึงสามปีจะให้สมรรถนะและประสบการณ์การขับขี่ในระดับที่ไม่แตกต่างกัน แต่อย่างไรก็ตาม ก็ต้องขึ้นอยู่กับการเก็บรักษายางในร้านด้วยว่ามีการควบคุมอุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสม รวมทั้งไม่โดนแดด เพราะอาจจะทำให้หน้ายางมีความยืดหยุ่นน้อยลงและแข็งขึ้น ดังนั้น การเลือกซื้อยางในร้านที่เชื่อถือได้จึงมีความสำคัญ แทนที่จะคำนึงเรื่องวันเดือนปีที่ผลิตเป็นหลัก"
...
"ส่วนความเชื่อที่ว่ายางรุ่นเดียวกันถ้ายิ่งผลิตใหม่ที่สุดก็จะยิ่งทำให้ได้รับยางที่ผลิตโดยเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้นและมีวัตถุดิบที่ดีขึ้นก็ไม่ได้รับการยืนยัน เพราะยางในแต่ละรุ่นนั้นจะมีการใช้วัตถุดิบและเทคโนโลยีเช่นเดียวกัน บางครั้งยางที่ผลิตก่อนอาจจะมีเหนียวของยางมากกว่า ซึ่งทำให้การขับขี่มีสมรรถนะยิ่งขึ้น สำหรับคำแนะนำในการเลือกซื้อยางสำหรับผู้ขับขี่ชาวไทย คือ ต้องเลือกยางที่เหมาะสมกับการใช้งานและขนาดของล้อ ส่วนวันที่ผลิตนั้นไม่ถือเป็นสิ่งที่มีผลโดยตรงต่อการเสื่อมสภาพของยางแต่ อย่างใด" นายชูเดชกล่าวสรุป เมื่อรู้อย่างนี้แล้วถึงเวลาแล้วหรือยังที่ผู้ใช้รถยนต์ทุกท่านจะมีวิธีการ เลือกซื้อยางที่ถูกต้องและมอบความปลอดภัยแก่การขับขี่มากที่สุด การเสียเวลาและเสียค่าใช้จ่ายในการเลือกหายางที่ใหม่ที่สุดเพื่อใช้งานจะหมดไป เพราะในวันนี้มีผลพิสูจน์จากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือทั่วโลกแล้วว่ายางใหม่ และยางเก่าไม่แตกต่างกัน
วันนี้ผู้ใช้รถทั่วโลกเริ่ม ตระหนักแล้วว่า การเลือกซื้อยางต้องเลือกยางที่เหมาะสมกับประเภทใช้งานและความต้องการ รวมทั้งเลือกขนาดของยางที่ถูกต้อง เพื่อประสิทธิภาพและสมรรถนะของการขับขี่สูงสุด แล้วคุณจะทิ้งความเชื่อที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับวันผลิตยาง แล้วเลือกยางที่เหมาะสมกับรถและการขับขี่ใช้งานของคุณให้มากที่สุดแล้วหรือยัง.
Arcom Roumsuwan
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook http://www.facebook.com/chang.arcom