รูปทรงแปลกตาที่เกิดจากการพังทลายของชั้นดิน แต่ได้สร้างความมหัศจรรย์ และสมบัติของชาติเอาไว้ ซึ่งถ้ามองดีๆ เราคงคิดว่าเป็นแพะเมืองผีที่ จ. แพร่ แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ เพราะวันนี้เรามาที่ จ. สระแก้ว เพื่อสัมผัสกับแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ 'ละลุ' แพะเมืองผีแห่งบูรพา

ความบังเอิญสุดสร้างสรรค์จากธรรมชาติกว่า 2500 ปี วันนี้เลยต้องมาเยือนถึงบ้านเนินขาม และบ้านคลองยาง ต.ทัพราช จ.สระแก้ว เพื่อมาชมความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ที่ออกแบบผืนแดนอันแห้งแล้งให้กลายเป็นงานศิลปะ ซึ่งกินเนื้อที่กว่า 2,000 ไร่



มาถึงทั้งที ทางเจ้าหน้าที่เลยจัดเตรียมราชรถเพื่อเยี่ยมชมความสวยงามของละลุ ด้วยรถอีแต๊ก พาหนะยอดนิยมของที่นี่ พร้อมด้วยไกด์กิตติมศักดิ์ คุณลุงสวัสดิื์ ที่ทั้งขับรถพาทัวร์และช่วยเล่าเรื่องราวของละลุ ให้ฟัง

...

รถอีแต๊ก

เสียงเครื่องรถอีแต๊กพร้อมให้ลูกทัวร์ไปสัมผัสกับความงามของธรรมชาติแล้ว เราจึงเริ่มได้ออกเดินทางไปถึงที่หมาย ซึ่งเป็นระยะทาง 1 กิโลเมตร จากศูนย์รับนักท่องเที่ยว ซึ่งก็เป็นอรรถรสในการเดินทางที่แตกต่าง และได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างเต็มปอด เพราะตลอดสองข้างทางนั้นขนาบไปด้วยทุ่งนาสีเขียวที่กำลังอุดมสมบูรณ์ ที่มองไปก็สดชื่นทุกครั้ง แม้ว่าถนนตามทางจะเป็นลูกรัง ทำให้ได้ออกกำลังกายสั่นสะเทือนกันตลอดเวลา จนในที่สุดก็มาถึงที่หมาย



'ละลุ' มาจากภาษาเขมร แปลว่า ทะลุ ในภาษาไทย ซึ่งที่ชื่อนี้็เพราะว่าผืนดินกว่า 2,000ไร่ ในบริเวณบ้านเนินขาม และคลองยางนั้นเกิดการทรุดตัว และพังทลายของดินทรายลึกลงเป็นเวลากว่า 2,500 ปี  ทำให้ดินเกาะจับตัวจนแข็ง และมีลักษณะเป็นกำแพง และหน้าผา รูปทรงแปลกตา มีความลึกกว่า 3 เมตร จากพื้นดิน ซึ่งปัจจุบันนี้การพังทลายของดินก็ยังไม่หยุด และมีโอกาสทรุดลงเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต

...

ผืนดืนที่กำลังถูกกัดเซาะลงไปอีก ซึ่งยังมีอยู่ทั่วบริเวณ


นอกจากจะได้ชมความมหัศจรรย์ของธรรมชาติแล้ว คุณลุงสวัสดิ์ยังบอกว่าถ้าใครที่อยากมาเที่ยวแนะนำให้มาช่วงต้นหนาวจะดีที่สุด ซึ่งถ้าเป็นคนที่ชอบการใช้ชีวิตแบบชาวบ้านด้วยแล้ว ก็สามารถนอนค้างกางเต็นท์ได้สบายๆ

...

คุณลุงสวัสดิ์ โชเฟอร์ใจดีที่พามาทัวร์

หน้าหนาวปีนี้ ไม่รู้จะหนาวขนาดไหน แต่ถ้าใครไม่อยากไปเที่ยวไกลๆ ก็ลองแวะมาที่นี่ดูก็ได้ เสน่ห์ของละลุไม่ได้มีแค่ความสวยงามของธรรมชาติอย่างเดียว แต่รอยยิ้มของชาวบ้านที่นี่ก็พร้อต้อนรับการมาเยือน เพื่อให้ทุกๆ คนประทับใจกลับไปเช่นกัน.