นี่คือรถยนต์ City Car ที่กำลังมาแรงจากสมรรถนะ รูปทรง และราคาที่สามารถครองใจผู้ใช้รถได้ไม่ยาก..

Ford Fiesta คือรถยนต์ขนาดเล็กที่บริษัท Ford ตั้งความหวังให้เป็นอัศวินม้าขาวที่เข้ามาช่วยกอบกู้สถานะภาพของบริษัทที่ย่ำแย่มานานหลายปีในตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็กของโลกแห่งยนตกรรม

ไม่ว่าจะเป็นที่อเมริกาเหนือ ยุโรป หรือเอเซียหรือในที่ห่างไกลเพียงใดก็สามารถพบเห็นรถรุ่นนี้จากการขยายตลาดการวางจำหน่ายที่ครอบคลุมไปทุกทวีป หลังจากยอดประกอบการของบริษัท Ford ต้องพบกับปัญหาการขาดทุนมาตั้งแต่ปี 2008 โดยตัวเลขขาดทุนสูงถึง1.3 พันล้านเหรียญยูเอส เนื่องจากหลายๆ สาเหตุที่ประดังเข้ามา ยกตัวอย่างเช่น ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจที่ตกต่ำในสหรัฐอเมริกา ปัญหาราคาของน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นทำให้คนอเมริกันส่วนใหญ่ลดเลิกการใช้รถยนต์คันโต ที่ซดน้ำมันเป็นว่าเล่น แล้วหันไปหารถยนต์จากแดนปลาดิบที่เป็นมิตรกับเงินในกระเป๋ามากกว่า

รถกระบะขนาดใหญ่ในบางรุ่นที่ผลิตในสหรัฐเริ่มขายไม่ออก รวมถึงรถซีดานบางรุ่นของ Ford ที่ผลิตในอเมริกาเหนือไม่สามารถเปรียบเทียบได้เลยกับการออกแบบที่สวยงามของ Ford ที่ผลิตจากทวีปยุโรป จนกระทั่ง Alan Mulally ผู้บริหารของ Ford ในสหรัฐต้องประกาศว่าบริษัทมีความจำเป็นที่จะต้องผลิตรถยนต์ที่สามารถส่งออกไปขายได้ทั่วโลก โดยใช้รูปแบบของตัวรถเหมือนกันในทุกตลาดซึ่งจะทำให้ต้นทุนในภาพรวมลดลง ลดความซับซ้อนในไลน์การผลิตทำให้เจ้ารถ Fiesta 2010 เจเนอรเรชั่นที่ 6 กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการกอบกู้สถานการณ์ในค่ายแห่งนี้

...


Ford Fiesta Project

Jord Beyer หัวหน้าทีมวิศวกร ซึ่งทำหน้าที่ดูแลรับผิดชอบในเรื่องงานวิศวกรรมของตัวรถรุ่นนี้ นำพาเอาแนวคิดของพวกยุโรปในการออกแบบตัวรถ Fiesta ทั้งหมด เพื่อทำให่้มันมีรูปลักษณ์ที่ปราดเปรียวสวยงาม พร้อมทั้งมีสมรรถนะที่สมราคาค่าตัว แนวทางในการดีไซน์จึงไปเชื่อมโยงกับรถยนต์ของพวกเยอรมันที่ขึ้นชื่อว่ามีความเป็นเอกลักษณ์และมีประสิทธิภาพสูงมากกว่ารถยนต์ที่ผลิตขึ้นในอเมริกาถ้าหากเทียบกันตัวต่อตัวทั้งด้านขนาดของตัวถังและปริมาตรความจุของเครื่องยนต์

New Ford Fiesta 2010 ใช้การออกแบบโดยเน้นไปที่การลดน้ำหนักของชิ้นส่วนบางชิ้น ทำให้มันมีน้ำหนักน้อยลงกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ถึง 40 กิโลกรัม น้ำหนักที่ลดลงช่วยเพิ่มสมรรถนะของตัวรถ Fiesta ในเรื่องของอัตราเร่ง และลดอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่กำลังกลายเป็นเรื่องสำคัญสำหรับการใช้รถยนต์ในยุคปัจจุบัน แม้น้ำหนักตัวของมันจะเบาลงแต่กลับมีพื้นที่ของห้องโดยสารเพิ่มขึ้นจากการดีไซน์ของพวกนักออกแบบรถยนต์หัวก้าวหน้าจากฝั่งยุโรป พื้นที่ในการจัดเก็บสัมภาระด้านท้ายก็กว้างมากขึ้นทั้งๆ ที่ขนาดโดยรวมของมันไม่ได้โตขึ้นแต่อย่างใด โครงสร้างแบบใหม่ที่แข็งแกร่งขึ้นทำให้ผู้ขับมีความรู้สึกมั่นคงหนักแน่นยามขับขี่ ซึ่งเกิดขึ้นจากการใช้ความคิดแบบพวกเยอรมันในการออกแบบโครงสร้างทั้งหมดของ Ford Fiesta 2010

...

The Design

Martin Smith ดีไซน์เนอร์หัวก้าวหน้าในทีมออกแบบของ Ford ภาคพื้นยุโรปคือชายที่เข้ามาช่วยชุบชีวิตให้กับรถเล็กรุ่นใหม่คันนี้ การสร้างผลงานอันวิจิตรบรรจงลงบนตัวถังของ New Fiesta ปรับเปลี่ยนรถยนต์ทรงกล่องที่แสนจะธรรมดาในรุ่นที่แล้วมาเป็นรถแฮซแบ็ค 3-5 ประตู หรือซีดาน 4 ประตูทรงสวย เมื่อมองจากด้านหน้าเจ้า Fiesta ใช้ไฟหน้าดีไซน์ใหม่ที่มีรูปแบบแหลมคมประดุจใบมีด Martin Smith นำเอากระจังหน้าที่มีการขยายช่องรับอากาศเข้าให้ใหญ่ขึ้นตามสมัยนิยม เส้นสายด้านข้างของตัวถังโค้งไปตามกระแสลมและทำให้ตัวรถดูเหมือนมีมัดกล้ามเพิ่มขึ้น แนวของกระจกรอบคันดูลงตัวด้วยการออกแบบโดยเน้นไปที่รูปทรงแบบสปอร์ต บั้นท้ายที่ยกสูงขึ้นกว่ารุ่นเดิมดูคล้ายกับ Honda Jazz ไฟท้ายทรงสามเหลี่ยม กระจกหลังติดตั้งใบปัดน้ำฝนพร้อมไฟเบรคดวงที่สามบริเวณด้านบนของกระจกหลัง ฝาท้ายขนาดพอเหมาะพอดีกับตัวรถยิ่งดูดีขึ้นไปอีกระดับกับแนวกันชนหลังที่เป็นสปอยเลอร์ไปในตัว รูปลักษณ์ดังกล่าวกำลังเป็นที่นิยมอย่างสูงในตลาดรถเล็กและเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ Ford นำเอารูปแบบนี้มาใช้งานซึ่งทำให้เสียงวิจารณ์ในทางบวกของมันช่วยกระตุ้นยอดขายไปทั่วทุกสารทิศ

...

...

Cockpit Interior

คุณภาพและการออกแบบภายในจากรุ่นที่แล้วจนมาถึงรุ่นล่าสุดมีความแตกต่างกัน ราวฟ้ากับเหว รถ Fiesta รุ่นก่อนหน้านี้ใช้วัสดุเกรดต่ำคุณภาพแค่พอทนสีออกเทาหม่นที่ดูๆไปแล้ว เหมือนกับรถราคาถูก ในรุ่นที่ 6 ของ Fiesta ใหม่มาพร้อมกับงานออกแบบภายในชั้นเยี่ยมและทำการปรับเปลี่ยนวัสดุที่นำมาใช้ ตกแต่งภายในให้ดูดีขึ้นกว่าเดิมมาก พลาสติกที่ใช้ทำชิ้นส่วนต่างๆมีเกรดที่ดีขึ้น ถึงแม้จะไม่สามารถเทียบชั้นกับVW /Mercedes Benz/ BMW แต่กลับทำให้ตัวรถดูดีขึ้นกว่าเดิมแบบเห็นๆ สวิตช์ต่างๆ ปุ่มปรับโหมดควบคุม สวิตช์กระจกไฟฟ้า ช่องแอร์แบบเหลี่ยม พวงมาลัยสามก้านหุ้มหนัง สิ่งต่างๆเหล่านี้ล้วนมีผิวสัมผัสที่แสดงถึงความเอาใจใส่ต่อลูกค้าผู้เลือก ใช้รถ Fiesta โดยมุ่งเน้นไปที่การเลือกเอาวัสดุชั้นดีมาใช้งาน ปัญหาตำแหน่งที่นั่งขับขี่สูงกว่าปกติในรุ่นที่แล้วถูกแก้ให้ดีขึ้นทำให้ พื้นที่เหนือศีรษะโปร่งโล่งสบาย ฐานของตัวเบาะที่ต่ำลงยังช่วยสร้างความรู้สึกที่มั่นคงและกระชับในเรื่องของ จุดศูนย์ถ่วงที่เตี้ยลง การเปิด-ปิดประตูทุกบานมีความแน่นหนาแข็งแกร่งขึ้นจากการออกแบบกลอนประตูและ รูปแบบของประตูที่มีทั้งแบบ 3-4-5 ประตูให้เลือกตามความเหมาะสมของการใช้งาน (รุ่น 3 ประตูมีขายเฉพาะในยุโรปกับอเมริกา)


1.6 Litre  Duratec Ti-VCT Engine


เครื่องยนต์ Duratec 1.4 ลิตร ประหยัดเชื้อเพลิงสำหรับรุ่นสไตล์ และเครื่องยนต์ Duratec Ti-VCT 1.6 ลิตร สำหรับรุ่นเทรนด์และสปอร์ตคือเครื่องยนต์ที่ประจำการอยู่ในรถ Fiesta ที่วางขายในไทย เจ้าเครื่อง Duratec Ti-VCT 1.6 เป็นเครื่องยนต์ปรับเปลี่ยนแปรผันองศาของแคมแบบระบบ VVTiของ Toyota ที่มีนิสัยชอบให้ลากรอบขึ้นสูงเนื่องจากมีแรงบิดรอบต่ำน้อยไปสักนิดจึงต้อง กดคันเร่งลงลึกเพื่อเรียกแรงบิดและกลายเป็นที่ชื่นชอบสำหรับพวกขาซิ่ง แต่ถ้าเป็นพวกขับเรื่อยๆสบายๆไม่รีบร้อนเครื่องยนต์ตัว 1.4 ลิตรดูจะเหมาะสมมากกว่า ระบบ Ti-VCT ของ Ford Fiesta ในรุ่น 1.6 ลิตร ใช้โซลินอยด์วาล์ว 1 ตัวต่อแคมชาร์ฟ 1 ชุด ควบคุมการทำงานผ่านกล่องควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ (ECM) ทำให้แคมชาร์ฟ ไอดี และแคมชาร์ฟไอเสียสามารถปรับไทม์มิ่งได้อย่างอิสระ หรือควบคุมให้วาล์ว ไอดี-ไอเสีย ทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง และสัมพันธ์ไปกับรอบเครื่อง เครื่องยนต์ของ Fiesta ถูกพัฒนาและปรับปรุงจนมีสมรรถนะที่ดี เห็นได้อย่างชัดเจนจากแรงบิดที่มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่รอบเครื่องต่ำไป จนถึงรอบสูง มันสร้างแรงบิดสูงสุดได้ถึง 112 ปอนด์ฟุตที่ 4050 รอบต่อนาที เครื่องยนต์ Duratec Ti-VCT 1.6 เป็นเครื่องที่ดีตัวหนึ่งในโลกแห่งความเป็นจริงของการใช้งานรถยนต์แบบ City Car อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเหมาะสมกับพลังในทุกย่านความเร็ว เร่งจาก 0-100 กิโลเมตรใน 9.9 วินาทีจนไปสุดคันเร่งที่ 193 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ Powershift 6 จังหวะ Twin-clutch ให้อัตราทดที่เหมาะสมสำหรับการขับขี่ใช้งานทั้งภายในเมืองใหญ่หรือวิ่งทาง ไกล ตัดต่อเกียร์ขึ้นลงได้อย่างแนบเนียนไร้รอยต่อแบบเกียร์อัตโนมัติในยุคใหม่ เกียร์ลูกยังนี้มีน้ำหนักเบาเพียง 73 กิโลกรัม อันเป็นผลมาจากการลดความซับซ้อนต่างๆของชิ้นส่วน เช่นการเลือกใช้ คลัทช์แห้งแบบคู่หรือ Twin-clutch ส่งกำลังและแรงบิดผ่านผ้าคลัทช์ธรรมดา ซึ่งการติดตั้งคลัทช์แห้งแบบนี้ไม่ต้องใช้ปั๊มน้ำมัน ทอร์คคอนเวอร์เตอร์ ออยล์คูลเลอร์หรือของเหลวอื่นๆ ขณะเดียวกันยังเป็นระบบปิดลดการบำรุงรักษา แต่แนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามระยะจะดีกว่าเพราะราคาค่าตัวของเกียร์ ใหม่ไม่ใช่ถูกๆ


Suspension

ช่วงล่างแบบมาตรฐานของ New Fiesta มีบุคลิกเหมือนกับรถคันโตๆซึ่งรถเล็กน้อยคันจะมีช่วงล่างที่ยึดเกาะกับผิว ถนนได้แบบมัน ช่วงล่างด้านหน้าของ New Fiesta เป็นแบบแม็คเฟอร์สัน สตรัท สปริงพร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นแบบคานบิด ทอร์ชั่นบีมที่ปรับตั้งการยุบตัวมาให้พอสมควรเพื่อความนิ่มนวล ให้ความหนึบแน่นในสไตล์ยุโรป การที่ช่วงล่างของ New Fiesta มีระยะการยุบตัวเพิ่มขึ้นกว่ารุ่นเก่าเล็กน้อยเนื่องจากความต้องการให้มัน เป็นรถที่ขับง่ายขับสบายในทุกเส้นทางของโลกใบนี้ที่มีถนนหนทางส่วนใหญ่ไม่ ค่อยจะดีนัก เมื่อวิ่งที่ความเร็วเดินทางบนไฮเวย์ มันจะวิ่งตัดอากาศไปด้วยเสียงของลมที่เข้ามาปะทะกับตัวถังในระดับที่เบาซึ่ง เกิดขึ้นจากการออกแบบรูปทรงของตัวรถ พวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฟฟ้าอาจช่วยประหยัดน้ำมันเล็กน้อยและช่วยลดภารกรรมของ เครื่องยนต์เนื่องจากไม่ต้องไปหมุนปั๊มเพาเวอร์ แต่มันขาดสัมผัสที่ส่งผ่านจากผิวถนนตรงมายังผู้ขับแบบไร้รสชาติซึ่งเป็นปกติ ของพวงมาลัยแบบนี้ ข้อดีคือไม่ต้องมีลูกรอกสายพานที่ไปเพิ่มภาระให้กับเครื่องยนต์ ลดการซ่อมบำรุงและช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายที่มีทั้งสายพาน ปั๊มและน้ำมันไฮดรอลิก.

Ford Fiesta 2010 Specifications

แบบ..............................................แฮชแบ็ค 5 ประตู-ซีดาน 4 ประตู

เครื่องยนต์....................................1.6 ลิตร 4 สูบ DOHCวางตามขวางด้านหน้า ขับเคลื่อนล้อหน้า

ปริมาตรความจุ............................1596 c.c. / 97.394 cu in

กระบอกสูบxช่วงชัก......................79.0 mm x 81.4 mm

วาล์ว.............................................4 วาล์วต่อสูบ = 16 วาล์ว

อัตราส่วนกำลังอัด........................11.0:1

ระบบจ่ายเชื้อเพลิง........................หัวฉีด PFI

แรงม้าสูงสุด..................................119.5 แรงม้าที่ 6000 รอบต่อนาที

แรงบิดสูงสุด.................................152.0 นิวตันเมตร ที่ 4050 รอบต่อนาที

อัตราเร่ง........................................0-100 กิโลเมตรใน 9.9 วินาที

ความเร็วสูงสุด..............................193 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

แรงม้าต่อน้ำหนัก..........................120.53 แรงม้าต่อตัน

ระบบพวงมาลัย.............................Rack & Pinion PAS

ระบบกันสะเทือน

ด้านหน้า........................................แม็คเฟอร์สัน สตรัท สปริงพร้อมเหล็กกันโคลง

ด้านหลัง........................................ทอร์ชั่นบาร์ คอยสปริง

ระบบส่งกำลัง................................เกียร์ธรรมดา 5 สปรีด/ เกียร์อัตโนมัติแบบ Powershift 6 จังหวะ Twin-clutch

ล้อและยาง

ล้อหน้า..........................................อัลลอยขนาด 5½ x 14 นิ้ว ขนาดยาง 175/65 R 14

ล้อหลัง..........................................อัลลอยขนาด 5½ x 14 นิ้ว ขนาดยาง 175/65 R 14

มิติตัวถัง(รุ่นแฮชแบ็ค5ประตู)

ความกว้าง....................................1722 มิลลิเมตร

ความยาว......................................3950 มิลลิเมตร

ความสูง........................................1481 มิลลิเมตร

ความจุถังเชื้อเพลิง........................45 ลิตร

น้ำหนักตัวรถ.................................979 กิโลกรัม