จะโชว์แต่ลีลา ต่อยๆ เตะๆ อย่างเดียว เกรงว่าแฟนหนังจะเอียน "จา พนม ยีรัมย์" พร้อมเสริมแอ็กชั่นผสมฮา ในแบบเล่นจริงเจ็บจริงอีกครั้ง ในหนังเรื่องใหม่ A Man Will Rise ทุนสร้างทะลุไปกว่า 150 ล้าน และมีความเป็นไปได้สูงว่าจะเกิน 200 ล้านบาท เฉพาะค่าตัวดาวบู๊จากฮอลลีวู้ด "ดอล์ฟ ลันด์เกรน" ก็ปาไปแล้วกว่า 60 ล้านบาท จาเฉยๆ เพราะไม่ได้ควักเงินจ่ายเอง แต่ได้ "เสี่ยเจียง-สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ" เป็นคนออกเงินทุนทั้งหมด โดยหนังใหม่เรื่องนี้จาขึ้นแท่นขอกำกับและเล่นเองด้วย

หนังเรื่องนี่้ เสี่ยเจียงไม่คิดเยอะ เพราะอยากจะให้จาได้ปะทะดาวเด่นจากฮอลลีวู้ดบ้าง เลยตัดสินใจควักจ่ายเงินมากกว่า 60 ล้านบาท ให้ ดอล์ฟ ลันด์เกรน แบบไม่ลังเลเยอะ โดยเสี่ยเจียงกล่าวยิ้มๆ ว่า ถ้าหนังกวาดรายได้ทะลุพันล้านบาทก็คงจะดี เสี่ยเจียงยังมั่นใจว่าจาจะเป็นผู้กำกับที่ดีได้ ส่วนเรื่องปัญหาของจากับครอบครัวนั้น เสี่ยเจียงยืนยันอีกครั้งว่าเคลียร์กันเรียบร้อย จะไม่มีผลกระทบกับการทำหนังแน่นอน

จา พนม เล่าว่า หนังเรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากม้าไทย เคยร้องเพลงม้ากล่อมลูกแล้วหลับ ก็น่าจะนำท่าม้ามาใส่ในหนังได้ โดยจะมีท่าแอ็กชั่นม้าๆ ในหลายๆ แบบ ทั้งรุกและรับ ส่วนการเลือกดอล์ฟมาเล่นด้วยกันนั้น จาเลือกจากความชอบเป็นหลัก และคิดว่าดอล์ฟนี่แหละน่าจะเป็นคู่ต่อสู้ที่สูสีได้ ตอนถ่ายทำหนังกับดอล์ฟ จาบอกอย่างอารมณ์ดีว่า "แรกๆ ผมก็ไม่กล้าต่อย เพราะเขาเป็นดาราฮอลลีวู้ด (ยิ้ม) ก็ยั้งๆ เอาไว้ก่อน แต่เขาว่ารีลๆๆๆ (Real) หลังๆ พอเขารู้ว่าสไตล์หนังของผมเป็นแบบเล่นจริงเจ็บจริง ผมก็เลยจัดหนักให้ไปเลย (ยิ้ม)"

ด้านนักบู๊จากฮอลลีวู้ด ดอล์ฟ ลันด์เกรนด์ ยินดีมากที่ได้มาเล่นหนังที่ไทยเป็นครั้งแรก กล่าวชมว่า ไทยเป็นประเทศที่มีเสน่ห์ ทั้งในเรื่องวัฒนธรรม อาหารการกิน ที่ตัดสินใจมาเล่นหนังเรื่องนี้ เพราะเป็นหนังบู๊ที่น่าจะสนุกและตลก ที่สำคัญได้ร่วมงานกับ โทนี่ จา

หนึ่ง-วิทิตนันท์ โรจนพานิช โปรดิวเซอร์ เล่าถึงที่มาของหนัง "เราเอาเค้าโครงเรื่องจาก จา พนม มาทำเป็นบทหนัง ส่วนผมจะดูแลการผลิด ดูแลภาพรวมด้วย แล้วมาช่วยกำกับเรื่องสตอรี่ทั้งหมด" ตอนแรกๆ อยากจะได้นักแสดงจากฮอลลีวู้ดที่ดังกล่าวนี้ แต่ติดขัดเรื่องบประมาณ เลยเลือกดอล์ฟมาแทน? "อ๋อ ไม่ใช่ครับ เรื่องงบไม่ใช่เลย เลือกเขานี่แหละตั้งแต่แรกๆ หนังเรื่องนี้เริ่มมาจากไอเดียก่อนว่าครึ่งหนึ่งมาจากการตลาด อีกครึ่งหนึ่งมาจากความรู้สึกของจิตใจ คุณจาบอกว่าฮีโร่ของเขาตั้งแต่เด็กๆ คือ จอห์น เวนย์ และ บรู๊ซ ลี"

...

"หนังเรื่องนี้มีการต่อสู้ของไทยแบบใหม่คือ มวยม้า หนังเรื่องก่อนๆ ของจาไม่ค่อยพูดมีแต่แอ็กชั่น หนังเรื่องนี้จาจะพูดทั้งเรื่องเลย (ยิ้ม) แล้วขำด้วย เราจะเห็นในสิ่งที่เราไม่นึกว่าเขาจะทำได้ ส่วนการเลือเอาดอล์ฟ ลันด์เกรน มานั้น จาก็นึกถึงว่าใครนะที่มีบุคลิกเหมือน จอห์น เวนย์ ก็คนนี้แหละ เราเลือกคุณดอล์ฟเพราะคนไทยก็รู้จักมานานแล้ว ตั้งแต่หนังร็อคกี้ (Rocky) ภาค 4 เรื่องยูนิเวอร์แซลโซลเดอร์ (Universal Soldier) ก็เล่นกับ ฌอง โคลด แวนแดม์ ล่าสุดเรื่อง ดิ เอ็กซ์เพนเดเบิ้ล (The Expendables ) ภาค 1-2 ก็มีเขาเป็นตัวหลัก

"ประเทศไทยจะเปิดอาเซียนแล้ว น่าจะทำหนังที่เป็นโกลบอล (Global) คือไม่ใช่ทำหนังไทยฉายที่ไทยที่เดียวแล้ว เป็นเอ็นเตอร์เทนเม้นท์อินดัสเทรียล (Entertainment Industrial ) ที่มุ่งหน้าไปสู่ตลาดต่างประเทศด้วย จริงๆ พยายามให้คนทั้งโลกได้ดู โดยเฉพาะศิลปะแม่ไม้มวยไทย อย่างความเป็นวัฒนธรรมของไทย เช่น ความคิด การเป็นอยู่ ปรัชญาในการมองโลกแบบตะวันออก เรื่องความกตัญญู ความมีสัมมาคารวะ การมีซีเนียร์ริตี้ (Seniority) การมองโลกที่แยกส่วนกัน ระหว่างความดี ความงาม ความรัก มันเป็นวิธีพุทธ เรื่องแบบนี้น่าจะนำไปใส่ในหนังเป็นธีมได้"

ทุนสร้างทั้งหมด? "งบจริงๆ 150-200 ล้าน" ทุนสูงเพราะไปถ่ายทำต่างประเทศด้วย? "ถ่ายทำที่ไทยทั้งหมด ต้องสร้างเมืองทั้งเมืองเลย อย่างไปถ่ายที่เยาวราช ก็ต้องปิดเยาราช อีกส่วนหนึ่งมองกันไว้อาจจะเป็นสระบุรี เฉพาะค่าตัวก็เยอะแล้วครับ ปกติดอล์ฟรับค่าตัวอยู่ 2 ล้านยูเอส เราได้ราคาไม่แพงขนาดนั้น แต่ว่าก็ไม่น้อยกว่านั้น เพราะรู้จักกัน (ยิ้ม) เขามาทำงานที่ไทยแฮปปี้มาก ประโยชน์ของเขาที่มาไทยแล้ว เขาจะไปบอกโปรดักชั่นอื่นๆ ในฮอลลีวู้ดได้ว่าเนี่ย มาทำหนังกับคนไทย เท่าที่คุยกัน และรู้มาตอนนี้มีโปรดิวเซอร์ที่ฮอลลีวู้ดหลายคนที่เห็นดอล์ฟมาเล่นหนังที่ไทย ก็อยากจะมาถ่ายทำด้วย".

...

...

...