เฮียเสก โลโซ เสกสรร ศุขพิมาย นัดด่วนๆ 18.30 น. เพื่อเปิดใจที่บ้านตัวเอง ที่หมู่บ้านนันทวัน แถววัชรพล เกรงว่านักข่าวจะซิ่งแหลกมาไม่ทันเลย เปลี่ยนเวลาแถลงข่าวใหม่ เป็นประมาณ 20.00 น. เสกยังมีอารมณ์ระรื่น นำกุหลาบแดงประดับด้วย เหมือนจะซ้อมพูดมาดีชัดๆ อ้างคำว่าตรงไปตรงมาตลอด แต่มีหลายๆ ประเด็น ตอบไม่เคลียร์ยังแอบกั๊กเอาไว้อยู่
“ผมรู้สึกตื่นเต้นเหมือนกัน เรื่องหลายเรื่องที่จะมาเล่าให้ฟัง ก่อนอื่นผมต้องบอกว่าทุกอย่างอยู่ในพื้นฐานของความรัก ความเมตตา ความสมานสามัคคีกันไม่คิดที่จะมาหาเรื่อง หรือว่าก่อเรื่องอะไรเลย ผมเชื่อเหลือเกินว่าตั้งแต่ระยะเวลาที่ผมทะเลาะกับภรรยาผม และมีข่าวมีคราวขึ้นมานั้น ผมบอกตรงๆ ผมไม่ได้นิ่งนอนใจ ถ้าใครติดตามในเฟซบุ๊กของผม ก็จะรู้ดี วันนี้ถามผมได้ทุกเรื่องผมจะตอบหมดทุกเรื่องนะครับ หากใครติดตามผมในเฟซบุ๊กจะรู้ดี นั่นคือช่องทางเดียวที่ผมได้พูดความจริง"
"บอกตรงๆ พี่น้องนักข่าวเราก็เป็นพี่น้องกัน ผมคิดอย่างนี้เพราะผมอยู่ในวงการนี้มา 16 กว่าปีแล้วนะ ผมบอกเลยว่าหลายท่านก็เขียนข่าวค่อนข้างไม่ตรง ผมบอกตรงๆ ตัวผมเองไม่ค่อยได้อ่านข่าวแล้วก็ไม่ค่อยได้ดูทีวีเท่าไหร่แต่จะมีเลขาผมมาบอก แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านอะไร บอกตรงๆ นะผมก็ไม่ได้สะทกสะท้านกับอะไรอยู่แล้ว อันนี้ก็ไม่ได้คุยโม้โอ้อวดอะไร”
“มีอยู่วันหนึ่งผมมีโอกาสได้ไปเล่นคอนเสิร์ตที่อำนาจเจริญ เลขาผมชื่อว่าน้องอ้อมซึ่งก็เป็นแฟนผมด้วย เขาบอกว่า ผมหนีไปที่ประเทศลาว แล้วแม่ผมก็ไม่สบายอย่างหนัก ผมก็รู้สึกอะไรกัน เขียนอะไรแบบนั้น วันนี้ผมก็ไม่ได้จะต่อว่าต่อขาน ผมมีความรู้สึกว่าทุกท่านที่นี้ เป็นคนที่ความรับผิดชอบในประเทศไทยเหมือนกัน ผมเองก็รับผิดชอบประเทศไทย รับผิดชอบตรงไหนผมเองก็เป็นสื่อมวลชนเหมือนกันนะครับ เพราะฉะนั้นการเสนอข่าว การทำอะไรต่างๆ นั้นต้องอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้องและความเป็นจริงนะครับ นี่คือสิ่งที่ผมคิด เพราะฉะนั้นเวลาที่ผมเขียนเพลงต่างๆ นานา บอกตรงๆ 70-80 เปอร์เซ็นต์เป็นเรื่องจริงนะครับ เพราะฉะนั้นก็เลยอยากจะมาแถลงข่าวเพื่อให้ทุกคนได้เคลียร์กัน”
“หนึ่งก็คือไอ้ภาพที่เห็นวันนั้น เป็นภาพที่ผมไปอยู่ที่เมืองปราก โรงแรมมาริออทนะครับ ผมพาภรรยาไปเที่ยว ผมก็ไม่ทราบเลยว่าภรรยาผมไปทำการอย่างนั้นนะครับ คือถ่ายรูป ถ้าผมรู้ผมไม่มีทางให้ถ่ายรูปอย่างนั้นแน่นอน ผมยอมรับว่าสิ่งนั้นเกิดขึ้นจริง แต่ตอนนี้ผมก็ได้ปรับปรุง เมื่อวานนี้ผมก็ได้ให้เลขาผมแจ้งไปทางกองปราบปรามว่า ผมยินดีรับผิดชอบทุกอย่าง และผมจะแก้ไขให้ดีขึ้น ด้วยสัตย์ของลูกผู้ชาย จะไปทำการทุกอย่าง ไม่ว่าสื่อไหนสถานที่ไหนอยากให้ผมได้รับใช้ บอกผมได้เลยนะครับ”
ยินดีไปถ่ายโปสเตอร์รณรงค์ต้านยาเสพติด? “ผมจะบอกให้นะครับการเป็นพรีเซนเตอร์รณรงค์ต้านยาเสพติดนั้นผมเคยเป็นอยู่ สมัยก่อน Just Say No ผมบอกตรงๆ ว่าตัวผมเองคงไม่ได้มีภาพลักษณ์ดีอะไรขนาดนั้น ผมเป็นร็อกแอนด์โรล ผมทำอะไรที่ขัดต่อตัวผม โกหกตัวผมเองผมไม่ทำ ผมไม่โกหกตัวผมเองแน่นอนนะครับ เพราะฉะนั้นที่จะเข้าไปผมจะเข้าไปบอกให้รู้ว่ายาเสพติดให้โทษเป็นอย่างไร และจะช่วยต่อต้านยาเสพติดอย่างไร และผมจะบอกว่า ทำด้วยความสัตย์จริงไม่มีโกหก การที่ผมจะไปบอกสื่อว่าต่อต้านยาเสพติด แต่ผมยังสูบบุหรี่บนเวทีกินเหล้าบนเวที ผมทำไม่เป็น ผมเป็นลูกผู้ชายผมโกหกไม่เป็น”
สาเหตุไหนที่ทำให้หันไปทดลองยาเสพติด? “ผมจะบอกอย่างนี้ ฟังผมก่อนอย่างแรก ยาเสพติดเป็นเรื่องที่ไม่ดีล้านเปอร์เซ็นต์ และผมไม่มีเจตนาที่จะให้ทุกคนได้ทำตามอย่างผม ชีวิตคนเรานั้นมีทั้งดีและไม่ดีนะครับ เอาแบบผมในทางที่ดี ถ้าอันไหนที่ผมไม่ดีอย่าไปเอาอย่างผมเป็นอันขาด ผมเป็นอาร์ติสต์ ที่แปลว่าศิลปิน ผมเป็นนักเขียนนะครับ ผมใช้มันเพราะผมทำงานเพลง ผมใช้มันเพราะผมเอามันอยู่ เอามันอยู่หมายถึงคอนโทรล (ควบคุม) มันได้ แต่คนส่วนใหญ่นั้นคอนโทรลไม่ได้ เกิดบ้าคลั่งหรืออะไรต่างๆ นานา แต่ผมบอกตรงๆ นะ อย่าใช้มันดีที่สุด เพราะคนที่ใช้มันแล้วเอามันอยู่ คือคนทีมีจิตใจที่เป็นแบบผม ผมไม่สะทกสะท้าน และผมไม่กลัวอะไร เพราะฉะนั้นผมเอามันอยู่แน่นอน แต่ผมจะบอกอย่างนี้ ผมจะพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ไม่บอกว่าพัฒนาเรื่องอะไร แต่ผมจะขอรับผิดชอบในเรื่องเหล่านี้ครับผม”
เป็นอาร์ติสต์ต้องคู่กับยาเหรอ? “อันนี้เรื่องใหญ่ผมขอกราบ สิ่งหนึ่งที่ผมเป็นนั้น ล่าสุดที่ผมโพสต์ในเฟซบุ๊กถ้าทุกคนได้อ่าน ถ้าแปลภาษาอังกฤษออกผมบอกว่า ผมจะบอกให้นะ ถ้าทุกคนรักผม และยอมรับผมในสิ่งที่ผมเป็น ผมก็จะเป็นในสิ่งนี้ แต่ผมจะทำมันให้ดีขึ้น แต่ถ้ายอมรับในสิ่งนี้ของผมไม่ได้ ผมก็จะไปอยู่ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นเหมือนบ้านที่ 2 ของผม ถามผมว่าทำไมต้องใช้สิ่งนี้ จอห์น เลนนอน จิมม่ี เฮ็นริกซ์ โอเอซิส หรืออะไรต่างๆ นานา ต่างก็ใช้สิ่งนี้ แต่ผมบอกและย้ำคำเดิมว่าอย่าทดลองเป็นอันขาด (เน้นเสียง) เพราะเป็นอันตรายนะครับ เด็กๆ ไม่ควรทดลอง”
...
ต้องทำการบำบัดหรือว่าอย่างไร? “เอาเป็นว่า ผมจะแก้ไขด้วยตัวผมเอง และอยู่ในการควบคุมดูแลของทางราชการหรืออะไรก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะเป็นพี่ชายของผมที่เขามาดูแล ผมขออนุญาตกล่าวนามของท่านเพราะเม่ื่อวานเพิ่งได้มากินข้าวด้วยกัน พันตำรวจเอก ประสพโชค พร้อมมูล ซึ่งเป็นรองผู้บัญชาการกองปราบ ที่เข้ามาดูแลผม ผมเชื่อว่าหลายท่านเป็นห่วงเป็นใยในตัวผม โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่ชายผม ที่ท่านไม่ได้มาดูแลผม ผมขออนุญาตกล่าวนามท่าน พี่ตุ้ย-ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ผมเชื่อเหลือเกินว่าพี่ก็ยังติดตามผมอยู่นั่นก็คือ พี่ทักษิณ ชินวัตร ผมขออนุญาตกล่าวนามด้วยนะครับ”
“ผมพูดอย่างนี้เพราะอะไร ผมเป็นชายชาติทหาร ผมทำผิดผมยอมรับผิด และผมจะแก้ไข เอางี้ดีกว่านะครับ ผมสามารถแลกด้วยชีวิต เพื่อให้ทุกสิ่งทุกอย่างมันดีขึ้น ประเทศนี้ดีขึ้น โดยพื้นฐานของความรัก ความเมตตาและความสงบสุข ซึ่งท่านคงได้เห็นผมแล้ว ไม่ว่าจะออกไปทำงานช่วยประชาชน แจกของอะไรต่างๆ ลูกน้องของผมก็ขนไปกันหมด บ้านผมน้ำท่วมผมก็ไปแจกของแจกอะไรกันไป และผมทำอย่างนี้มาตั้งแต่ผมเริ่มเข้าวงการใหม่ๆ”
เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบอย่างไร? “ผมจะบอกให้นะ ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้สึกเสียใจ หรือไม่รู้สึกผิด ผมรู้สึกเสียใจ ผมเป็นลูกผู้ชาย ผมร้องไห้อยู่ ผมอยู่ในห้องผมร้องไห้ ถ้าผมไม่เปิดเผย ไม่เชิญทุกคนมาหรอก ผมกลัวว่าน้องๆ จะไปเลียนแบบต่างๆ นานา แต่ที่ผมแคร์ความรู้สึกมากที่สุด นั่นก็คือลูกของผมทั้ง 3 คนนะครับ น้องเสือ น้องกวางแล้วก็น้องลอนดอน ภรรยาผมนั่นคงจะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง และคุณแม่ผมด้วย ตอนนี้ท่านก็อยู่กับผมแล้ว นั่นก็เป็นการคอนเฟิร์มว่าแม่ของผมไม่สบายไม่เป็นความจริง และสิ่งที่ผมได้มาผมจะบอกให้สิ่งที่ทำให้ผมแข็งแรงคืออะไร เพราะแม่ผมเป็นคนที่จิตใจแข็งแรงมาก”
มีเรื่องครอบครัวเข้ามาเกี่ยวข้อง เสกจะจัดการปัญหายังไง? “เรื่องนี้มีหลายคนเข้ามาเกี่ยวข้อง ผมบอกตรงๆ นะ มีหลายคนมาเกี่ยวข้องต่างๆ นานา เฮ้ย! อย่ามาเกี่ยวข้องกับครอบครัวกู เพราะว่ากูรักของกูนะจะบอกให้นะครับ ขออนุญาตพูดแบบนี้ ผมจริงใจผมเป็นนักเลง ผมเป็นนักร้อง ผมเป็นนักรักหรืออะไรก็แล้วแต่ ผมจริงใจกับทุกคน ผมถือว่าทุกคนเป็นพี่น้องกันหมด ผมทำได้หมดเพื่อทุกๆ คน เรื่องของครอบครัวผม ผมจัดการได้ ชีวิตของคนสองคน ความรักขึ้นอยู่กับคนสองคน เอาอย่างง้ี! ผมยอมรับผิดว่าที่ผ่านมาผมมีเมียมีสาวๆ ต่างๆ นานา แต่ผมโกหกไม่เป็น เวลาผมมีผมก็เล่าให้เมียผมฟังหมด ซึ่งเมียผมก็จับได้ ผมเป็นคนรักจริงนะ อันนี้ผมยอมรับผิดแน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์นะครับ”
ปัญหากับอดีตภรรยาและเสก เกิดขึ้นเพราะความเจ้าชู้? “เอาเป็นว่าผมยอมรับผิดในเรื่องนั้น แต่ว่าผมจะบอกให้นะ...ภรรยาผมก็ค่อนข้างเป็นคน...ผมจะยอมเป็นสุภาพบุรุษนะครับ ผมจะบอกว่าผมรักเขา และผมยอมไม่กล่าวโทษโกรธแค้นอะไรเขา แม้กระทั่งที่เขาทำอย่างนั้นกับผม ผมถือว่าในช่วงที่เขาโมโหเขาก็ทำอย่างนั้นได้ เพราะฉะนั้นผมไม่ว่าอะไรเดี๋ยวผมจะเอาเขามาดูแลเอง ผมยอมรับผิดเรื่องนั้น”
มีการทำร้ายร่างกายอดีตภรรยาหรือเปล่า? “ผมมีอยู่แล้ว (ตอบทันที) เอาอย่างงี้ ผมตอบแล้วเลิกถามเลยนะ (น้ำเสียงดุดันหน้าตาเอาเรื่อง) แม้กระทั่งเขาเอาแก้วมาที่บาดมาข่วน (ทำท่าประกอบชี้ไปที่หน้าอก) เลือดไหลเต็มตัวยังเคยมี แต่อันนี้ผมไม่ได้บอกใคร ผมมีพยานไม่ว่าจะเป็น พี่จอร์ช-กริชโชค พี่หนุ่ย-อำพล ลำพูน พี่บิลลี่ โอแกน แล้วมีใครอีกวะ อยู่ด้วยกันหมดจะบอกให้ เพราะฉะนั้น!!! เลิกถามผมเรื่องนี้ ผมยอมรับครับ ผมก็ต้องมาปรับความเข้าใจกับเขา ให้เขาเชื่อมั่นว่าผมรักเขาและผมรักครอบครัวเขา"
"แต่สิ่งหนึ่งที่เขาต้องทำก็คือรักครอบครัวผมด้วย ต้องรักแม่ผมด้วย พอคุณมีเมียแล้วเมียไม่รักแม่คุณ แล้วคุณจะรักมันลงเปล่าว่ะ! เพราะฉะนั้นต้องรักแม่ผม ต้องรักครอบครัวผมให้เหมือนกับที่ผมรักและดูแลพี่น้องคุณนะครับ เพราะนั่นคือชีวิต ถ้าคุณทำอย่างนั้นไม่ได้ เราก็ไม่ต้องอยู่ด้วยกัน จริงๆแล้วที่ผมทำไม่ว่าจะเป็นการเซ็นใบหย่าหรือทำอะไรต่างๆ เพราะความต้องการของเขา ไม่เชื่อคุณลองไปถามเขตสายไหมหรือเขตไหนอะไรก็ได้ ผมไปทำอยู่ตั้ง 2-3 ที สุดท้ายเขาก็ไม่ยอมหย่า ผมก็ยื้อเอาไว้ว่าอย่าไปหย่าเลยนะครับ พ่อแม่เองเขาก็ไม่อยากให้ผมหย่า อยู่มาวันหนึ่งเขาต้องการอีกแล้วนี่ก็เป็นครั้งที่ 3 แล้วผมก็ต้องทำ เพื่อความต้องการของเขา ถามพี่บูลย์ (อากู๋-ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม)ได้ก่อนจะหย่า ตื่นขึ้นมาผมก็โทรหาพี่บูลย์ว่าผมมีเรื่องใหญ่อยากจะปรึกษาพี่บูลย์ ผมจะหย่าพี่บูลย์บอกอยู่นิวยอร์ก ขอคุยหน่อยได้มั้ย พี่บูลย์บอกว่ากำลังจะบินกลับเดี๋ยวค่อยคุยกัน เพราะว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ ก็ไม่เป็นไร ผมจัดการเองได้”
...
แม้จะมีข่าว แต่ก็ยังมีงานตลอด? “ผมมีงานคอนเสิร์ตอยู่ตลอดเวลา เพราะผมเชื่อว่าประชาชนเขาเข้าใจผมรักผม ถึงแม้ว่าผมจะผิด เอาอย่างงี้น้องแหม่ม (คัทลียา) เขาเป็นเพื่อนผม เป็นน้องที่รู้จักกัน เป็นเพื่อนที่รู้จักกันกับ ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง ผมยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าสมมติว่าเขาบอกว่า เฮ้ย! เป็นแบบนี้แล้วมาออก ครับ! เพิ่งรู้ว่าท้องได้ 5 เดือน กูทำไม่เป็นหรอกไอ้เ-ี้ย จะบอกให้เข้าใจมั้ยว่า พี่เป็นคนจริงๆ (เสียงดัง) เข้าใจมั้ยว่าพี่โกหกไม่เป็น อันนี้ขอโทษด้วยที่พูดถึงน้องแหม่มเรื่องนั้น ผมหมายถึงว่าผมเป็นคนจริงๆ นะครับ และผมมีงานตลอดเวลา เพราะประชาชนเข้าใจว่าผมไม่โกหกเขาอยู่แล้ว ผมยอมรับผมจะแก้ไข มันก็เป็นเช่นนั้นเองครับ”
ที่ผ่านๆ มา ได้คุยกับทางแกรมมี่เรียบร้อยแล้ว? “เขาก็มานั่งกินข้าวกับผมเมื่อประมาณ 4-5 วันที่แล้ว พี่เล็ก (บุษบา ดาวเรือง) พี่เจือ ผมจะบอกให้เรื่องมันเกิดขึ้นอย่างนี้ มันมีคนดักฟังโทรศัพท์ผม อย่าบอกว่าไม่รู้นะ ขับรถตามผม ถามลูกน้องผมดูได้ ไอ้-่า ผมจะไปเล่นคอนเสิร์ต ก็มาดักหน้าดักหลัง ผมเป็นนักเลงนะ เมื่อคืนผมก็ชักปืนยิงไป 3 นัด บอกตรงๆ จนถึงขั้นที่ผมทนไม่ได้แล้ว ผมถึงเรียกทุกคนมาแถลงข่าว เพราะผมคิดว่าพี่น้องทุกคนที่เป็นนักข่าว ทั้งทหาร ตำรวจเป็นพี่น้องผมหมด และเชื่อว่าผมพูดเรื่องจริง”
...
คุยกับแกรมมี่เป็นอย่างไร? “พูดง่ายๆ นะ ผมก็บอกว่าโอเคเราเข้าใจกัน แล้วเราก็จะหยุดการแอ็กชั่นในทุกๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ผมรู้ว่าใครทำอะไร ถ้าไม่หยุดผมก็ต้องทำแบบนี้ ผมจะบอกให้นะครับว่า นี่คือชีวิตผม ถ้าคุณเอาผมไปแฉเสร็จเสียแล้ว อย่าให้ผมแฉคุณบ้างก็แล้วกัน ผมถือว่านี่เป็นการทดแทนบุญคุณคุณ ผมจะไม่แฉหรือบอกกล่าวว่าอะไรคุณต่างๆ นานา ว่าคุณจะผิดหรือถูกยังไง ถือว่าทดแทนบุญคุณกัน ที่ทำให้ผมมีชื่อเสียงทุกวันนี้ ผมแต่งเพลงเองทุกเพลง คุณก็โปรโมต เพียงแต่คุณกับผมจบกันวันนี้ แค่นั้นเอง”
ความหมายว่า ต่อจากนี้จะไม่มีสัมพันธ์ใดๆ กับแกรมมี่? “ผมมีความสัมพันธ์ สิ่งหนึ่งนะ ที่คุณอยากจะมีความสัมพันธ์กับผมคือ ส่งคนมาขอโทษผมแล้วคุณทำอะไรก็ขอโทษผม บอกด้วยถ้าคุณไม่ได้ทำ แก้ตัวกับผม ผมเป็นลูกผู้ชาย ผมเดิมพันด้วยชีวิต” ทางแกรมมี่ทำอะไรล่ะ? “ผมไม่บอกว่าเขาทำอะไรแล้วกัน มันเป็นเรื่องที่ผมรู้ กับนายผม” สรุปยังไงกับแกรมมี่คือ...พี่จะมีการทำงานของตัวเอง “ไม่ๆ ผมยังทำงานกับแกรมมี่อยู่ ชุด Love Song ยังขายกับแกรมมี่ ผมจะบอกยังงี้ ถ้าคุณไม่เคลียร์กับผมเราจบกันจบกันนี่หมายถึงต้องอธิบายให้ผมเข้าใจว่า เกิดอะไรขึ้นทำไมต้องทำแบบนี้ ต่างๆ นานา”
เรื่องที่ดักฟังโทรศัพท์ แล้วยังมีคนขับรถตาม? “เรื่องอะไรเหล่านั้นผมรู้ดี เอางี้แล้วกัน ถ้าผมเข้าใจผิด มาหาผมที่บ้านนะครับ แล้วคุยกันแบบพี่น้องกันนะครับ” เรื่องมันเกิดขึ้นหลังจากที่ไปทานข้าวกับพี่เล็กหรอ? “เรื่องมันเกิดขึ้นมาตั้งนานแล้ว 5-6 เดือน ครึ่งปีแล้ว” มีการอ้างว่าเสกได้โพสต์ข้อความยกของทุกอย่างให้ลูกอีกคนนึง เขาก็เลยบันดานโทสะโพสต์รูปออกมา
“เอามาจากไหนครับ (น้ำเสียงดุ)" ถามใครมา มีอัดไว้รึเปล่า เอามาดูหน่อย ผมไม่เคยได้ข่าว ผมจะบอกให้นะครับ เอางี้! ผมพูดเรื่องน้องป่านแล้วกัน น้องป่านก็เป็นภรรยาผมอีกคนหนึ่งนะครับ จะบอกว่าผมก็เป็นคนเจ้าชู้ (หัวเราะร่วน) ผมเป็นคาสโนว่า(ดัดเสียงสำเนียงฝรัั่ง)" แต่คุณแม่น้องป่านออกมาบอกว่าไม่ใช่ไม่ได้เป็นอะไรกันกับเสก “โอ๊ย!!! คุณนายแป๊ดนี่บ้ามาก เคยมากินสุกี้บ้านผม ผมให้ทองเขาไปเส้นหนึ่ง Welcome เมื่อประมาณ 2-3 อาทิตย์ที่แล้ว ผมจะบอกให้นะ เอาอย่างนี้แล้วกัน"
...