ก้อย-รัชวิน โต้เกาเหลา ขิง-ทัศนพรรณ แฟนเก่า ตูน บอดี้แสลม แจงไม่เคยรู้จัก-พูดคุยกันเลย ปัดคิดแต่งสายฟ้าแลบ ยันไม่กลัวฝ่ายชายน้อยใจ รับมีคุยเรื่องวิวาห์บ้าง แย้มอีก 3-4 ปี คอยแพลนใหม่...

หลังจากมีข่าวเลิกราออกมาให้งุนงง จนต้องออกมาเคลียร์ข่าวรักร้าวไปรอบหนึ่ง สำหรับนางเอกหน้าหวาน “ก้อย-รัชวิน วงศ์วิริยะ” ล่าสุดยังมีข่าวเกาเหลาขั้นรุนแรงกับสาว ‘ขิง-ทัศนพรรณ สิริสุขะ’ อดีตแฟนเก่า ‘ตูน-อาทิวราห์ คงมาลัย’ หรือ ‘ตูน บอดี้แสลม’ หวานใจคนปัจจุบันของสาวก้อยนั้นเอง งานนี้สาวก้อยเลยขอแจงขณะมาร่วมงานเปิดตัวเครื่องปรับอากาศ แบรนด์ “ฮุนได” ณ โรงแรมวีโฮเต็ล ราชเทวี ว่าไม่เคยรู้จักกับสาวขิงเป็นการส่วนตัวเลย ย้ำไม่เคยพูดคุยหรือเจอกันด้วยซ้ำ รับรู้แค่ว่าเป็นใครเท่านั้นเอง เผยงงมากพอๆ กับข่าวรักล่มที่ยังคงงงไม่หายเลย ยืนยันว่าไม่ได้มีการเกาเหลากันเกิดขึ้นตามข่าวแน่นอน ส่วนเรื่องวิวาห์ยังไม่อยากคิด เพราะอยากใช้ชีวิตให้มันคุ้มค่า รอให้ถึงเวลาที่เหมาะสมก่อนดีกว่า ยอมรับมีคุยเล่นขำๆ บ้าง แย้มอาจจะมีสัก 3-4 ปีค่อยแพลนเรื่องนี้กันใหม่ ไม่กลัวฝ่ายชายน้อยใจแน่นอน

พี่ตูนอยากแต่งงานอยากบอกก้อยอย่างเป็นจริงเป็นจัง? (เขิน) "ไม่ใช่ ก้อยว่าน่าจะเป็นความคิดของเขามากกว่า เป็นเรื่องของอนาคตมากกว่าเขาคงอาจจะแบบ เหมือนกับวางแผนในชีวิตของอนาคตของเขาเอง" ได้มีการปรึกษากันเรื่องนี้ไหม? "อย่าง ที่บอกว่าไม่ได้คุยอะไรกันซีเรียสค่ะ จะเป็นการคุยกันว่าอนาคตอยากจะทำอะไร ทำงานอะไรมีอะไรที่อยากทำบ้าง ชีวิตอะไรที่เราอยากจะค้นหามีอะไรที่เราสนใจอีกและจะวางแผนอนาคตไว้ยังไงบ้าง ส่วนใหญ่ก้อยก็จะปรึกษาเขาในเรื่องของที่บ้านก้อยครอบครัวก้อยมากกว่า ตอนนี้ก็ดูที่ดินจะสร้างบ้านใหม่ค่ะตอนนี้" แล้วเรื่องแต่งงานนี้ล่ะ? "โอ๊ย อีกไกลค่ะ สำหรับก้อยนี่ยังไม่ได้คิดไกลถึงขั้นนั้น คิดว่าอยากจะทำงานตรงนี้ก่อน อยากจะใช้ชีวิตให้มันคุ้มค่าค่ะ เรายังมีอะไรที่น่าค้นหาอีกเยอะ เรื่องการแต่งงานก็เป็นอะไรที่น่าค้นหาเหมือนกัน เพียงแต่ว่าคงต้องรอให้ถึงเวลาที่เหมาะสมก่อนดีกว่า" ถ้าเขาเอ่ยปากขอขึ้นมาเลยล่ะ? "โอ้ว (หัวเราะ) ไม่น่านะ" ถ้าเขาเอ่ยขึ้นมาอย่างนี้เราจะยอมไหม? "มันก็ต้องดูตามเนื้อผ้าด้วย (หัวเราะ)"

ถ้าเขาถามมาเราตกใจตอบตกลงไปเลยไหม? “ในส่วนตัวก้อยนะค่ะ ก้อยมองเรื่องความรักเป็นเรื่องของการใช้ชีวิตคู่ เราทั้งคู่น่าจะต้องพร้อม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอารมณ์ทางจิตใจหรือว่าความเป็นผู้ใหญ่ค่ะ มันเป็นเรื่องของวุฒิภาวะมากกว่าค่ะ คือหลายคนบอกว่าต้องแต่งงานเมื่อพร้อมจริงๆ การแต่งงานเดี๋ยวนี้มันเหมือนกับว่าเป็นการบอกว่าถึงจุดจบของความรักแล้ว เราพร้อมที่จะมีครอบครัว พร้อมที่จะก้าวเข้าไปสู่อีกสเต็ปหนึ่งของความรัก แต่การเป็นวัยรุ่นการเป็นคู่รักกันและต่อไปก็คือการมีครอบครัวมีลูกอะไรแบบ นี้แต่ว่า ณ เวลานี้สำหรับตัวก้อยเองยังไม่ได้คิดไกลถึงว่าเราจะต้องวางแผนครอบครัวหรืออะไร คิดแค่ว่าตอนนี้เราทำงานของเราให้เต็มที่มีความสุขและก็เขาเองก็จะได้ทำงาน ที่เขารักอย่างมีความสุขเต็มที่ด้วยค่ะ” ไม่กลัวเขาน้อยใจเหรอ? “ก็เรื่องแบบนี้เราคุยกันอยู่เรื่อยๆ อยู่แล้วค่ะ ด้วยความที่ก้อยเป็นเด็กกว่าก้อยมีอะไรก็จะปรึกษาเขา อย่างตอนนี้คิดถึงเรื่องของครอบครัวของก้อยมากขึ้นเราทำงานมาตรงนี้แล้วเรา มีอะไรที่เราอยู่ในจุดที่เราสามารถสร้างฐานะดูแลตัวเองได้ อยากจะตอบแทนตรงนี้ให้กับคุณพ่อคุณแม่ให้กับคนที่เลี้ยงดูเรามาให้ท่านมี ความสุขก่อนแล้วก็ค่อยก้าวต่อไปก็ค่อยเป็นทีของเราที่จะมีความสุขบ้าง”

เคยคุยกันเรื่องแต่งงานกับพี่ตูนแล้วใช่ไหม? “พูดขำๆ มากกว่าแต่ไม่มีอะไรซีเรียสเลยค่ะ เพราะเรารู้สึกว่าเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องค่อนข้างเซนซิทีฟระหว่างผู้หญิง กับผู้ชายเพราะฉะนั้นเราไม่อยากจะให้เรื่องตรงนี้มากดดันความรักของเราด้วย คือทุกครั้งที่ก้อยให้สัมภาษณ์ก้อยจะพูดว่าอยากใช้วันทุกวันให้มันดีที่สุด เราไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้ามันจะเกิดอะไรขึ้น ไม่อยากจะให้ไปแบบคาดคะเนว่า เดี๋ยวมันจะต้องเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้” แล้วคุยขำๆ นี่ใครเป็นคนพูดขึ้นมาก่อน? (หัวเราะ) “ไม่มีอะไร แค่แบบว่าเอ๊ย ถ้าอนาคตอย่างนี้สมมุติแบบว่าอะไรยังไง ต่อไปจะเป็นยังไงอย่างนี้” คือเริ่มมองไปถึงอนาคตบ้างแล้ว? “ด้วยวัยอายุเท่านี้ก็ไม่ได้เด็กมาไม่ได้โตเป็นผู้ใหญ่มาก เราก็มีคิดถึงด้วยความที่เป็นผู้หญิงเราก็ต้องวางแผนอนาคตชีวิตเราเหมือนกัน แต่ก็อย่างที่บอกไม่อยากเอาเรื่องการแต่งงานมากดดันตัวเอง เรารู้ว่าวันนี้เรามีคนที่เรารัก เราทำทุกวันให้มันมีความสุขก็พอ อนาคตมันจะเดินไปถึงตรงนั้นไหม ก็ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์” จะอีกกี่ปีดี? “เอาสัก 3-4 ปีแล้วกันค่ะ” ชักจะเริ่มจริงจังแล้วถ้า 30 เกี่ยวกับเรื่องนี้? “จริงๆ ถ้าพูดเรื่องความรักก้อยจริงจังอยู่แล้วไม่ว่าจะในสถานะภาพไหนก็ตาม แต่ว่าการแต่งงานมันเป็นอีกก้าวหนึ่งของชีวิตดังนั้นต้องรอบคอบค่ะ จะคิดจะทำอะไรจะตอบอะไรหรือว่าการจะใช้ชีวิตคู่ร่วมกันเนี่ยรายละเอียดมัน เยอะตอนนี้ยังไม่กล้าคิดไปไกลขนาดนั้นเพราะว่ามันมีอะไรที่ต้องทำอีกเยอะ ด้วย” แต่ว่าพี่ตูนก็ถือว่าใช้ที่จะมองอนาคตร่วมด้วย? “ก็ค่อนข้างใกล้เคียงค่ะ” แต่ก็ยังไม่มีสายฟ้าแลบเนอะ? “โอ๊ย ไม่มีแน่นอนค่ะ”

มีข่าวว่าเราทะเลาะกับพิงแฟนเก่าตูน? “โอ๊ย ก้อยไม่รู้จักพี่ขิงเป็นการส่วนตัวเลยค่ะ” เคยพูดคุยกันไหม? “ไม่เคยเลยค่ะ ยังไม่เคยเจอด้วยซ้ำ” งงไหมมีข่าวว่าเราไปทะเลาะกับเขารุนแรงเลยทีเดียว? “งงค่ะ งง เหวอพอๆ กับวันก่อนที่มีข่าวว่าเลิกกัน ยังงงตั้งแต่วันนั้นมาวันนี้มีงงอีกอันนี้งงกว่าเดิมด้วยค่ะ” ช่วงที่เราคบกับพี่ตูนเขารับรู้หรือว่าทราบบ้างไหม? “ไม่ทราบเลยค่ะ ก็ไม่เคยเจอด้วย” พี่ตูนเคยพูดถึงอะไรเป็นพิเศษบ้างไหม? “ไม่ได้พูดอะไรเป็นพิเศษนะค่ะ ก็เรารับทราบแค่นั้นเองว่าพี่ขิงเป็นใครยังไง แต่ก็ทราบว่าทั้งพี่ตูนและพี่ขิงก็ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ยังเป็นเพื่อนกันเพราะว่าเขารู้จักกันมานานมาก แต่ว่าเราก็ไม่ได้มีเรื่องหรือประเด็นอะไรที่มาทำให้เป็นปัญหาอย่างที่เป็นข่าว ไม่มีเลยๆ” ถ้าเจอกันร่วมงานกันได้ไหม? “ได้ค่ะ จะเข้าไปสวัสดีพี่เขาแน่นอนค่ะ” เห็นก่อนหน้านี้มีข่าวเลิกกันได้คุยกับพี่ตูนบ้างไหม? “ขำ ก็วันนั้นเสร็จจากงานไปก็ไปเจอกันก็ยังคุยกันอยู่เลยว่าเจอข่าวเดียวกันเลย เนอะ ก็ยังงงกันอยู่ค่ะ แต่ก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรก็ขำๆ กันไปก็คิดว่ามันก็คงเป็นอะไรที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปเหมือนข่าวที่ผ่านๆ มาค่ะ” มีข่าวแล้วทำให้เข้าใจกันมากขึ้นไหม? “จริงๆ แล้วมันสิ่งรอบข้างมันอยู่ที่คนสองคนว่าจะสามารถประคับประคองไป คือถ้าเราไปหวั่นไหวต่อคำพูดหรือว่าข่าวต่างๆ ที่มันเกิดขึ้นเนี่ยในที่สุดเราก็จะแพ้ภัยตามข่าวที่มันเกิดมา แต่ถ้าเกิดเราเข้มแข็งและก็มองว่ามันเป็นเรื่องของปัจจัยภายนอก ไม่ได้เอามาทำเป็นปัญหากับเราสองคนมันก็โอเคค่ะ”.

...