เน้นสาขาขาดแคลน-สรรหาระบบปกติไม่ได้ ไฟเขียวเฉพาะสายผู้สอน

นางศิริพร กิจเกื้อกูล เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เปิดเผยว่า จากการที่สำนักงาน ก.ค.ศ. ได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เกี่ยวข้องมาระดมความคิดเห็นเพื่อกำหนดแนวทางการจัดทำหลักเกณฑ์และวิธีการบรรจุบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ มีความชำนาญหรือเชี่ยวชาญระดับสูง เข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตามมาตรา 51 ใน พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 ที่กำหนดว่า หน่วยงานการศึกษาใดมีเหตุผลและความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อประโยชน์แก่ทางราชการที่จะบรรจุและแต่งตั้งบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ มีความชำนาญหรือเชี่ยวชาญระดับสูงเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้หน่วยงานการศึกษาดำเนินการขอความเห็นชอบจาก อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาก่อน แล้วขออนุมัติ จาก ก.ค.ศ. เมื่อ ก.ค.ศ. ได้พิจารณาอนุมัติให้สั่งบรรจุและแต่งตั้งในตำแหน่งใด วิทยฐานะใด และกำหนดเงินเดือนที่จะให้ได้รับแล้ว ให้ผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 สั่งบรรจุและแต่งตั้งได้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด เพื่อเปิดทางให้ได้คนเก่ง คนดีเข้ามาเป็นครู

เลขาธิการ ก.ค.ศ. กล่าวอีกว่า จากการระดมความคิดเห็นดังกล่าวที่ประชุมมีการเสนอแนวทางว่า การบรรจุบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ ความชำนาญหรือเชี่ยวชาญระดับสูงเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในช่วงแรกอาจจะกำหนดเฉพาะตำแหน่งครูผู้สอนก่อน และต้องเป็นเหตุผลและความจำเป็นอย่างยิ่งของหน่วยงานการศึกษา โดยบุคคลที่จะบรรจุต้องมีความชำนาญ ความเชี่ยวชาญในสาขาวิชาที่หายากหรือขาดแคลน ไม่สามารถสรรหาในระบบปกติได้ พร้อมทั้งควรจะนำประสบการณ์และผลงานของบุคคลดังกล่าวมากำหนดการได้รับเงินเดือนและวิทยฐานะ รวมทั้งควรหามาตรการเพื่อให้ได้คนดี คนเก่ง เข้ามาเป็นข้าราชการครู ซึ่งแนวทางดังกล่าวข้างต้นจะเป็นอีกช่องทางหนึ่ง สำหรับการบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูที่มีอยู่แล้วในปัจจุบัน และแนวทางดังกล่าวจะทำให้สถานศึกษาได้ข้าราชการครูที่มีความรู้ ความชำนาญ ความเชี่ยวชาญระดับสูงและขาดแคลนตามความต้องการ ซึ่งสำนักงาน ก.ค.ศ. จะได้สรุปแนวคิดในประเด็นต่างๆ เพื่อนำมาเป็นหลักเกณฑ์และวิธีการเสนอ ก.ค.ศ. เพื่อพิจารณาต่อไป.

...