สั่งย้ายหัวหน้า อช.กุยบุรี ไป ห้วยยาง ลดปัญหาขัดแย้งกับชาวบ้าน หลังเกิดปัญหากระทิงตายในพื้นที่ ขณะที่รองอธิบดีกรมอุทยานฯ เผย ขณะนี้ต้องจับตาฝูงกระทิง หวั่นติดเชื้อโรคจากกลุ่มกระทิงที่ตายไปก่อนหน้านี้...
จากกรณีกระทิงตายในพื้นที่โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่า อันเนื่องมาจากพระราชดำริ (โครงการกุญชร) อุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 24 ตัว ในระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีข้อสรุปถึงสาเหตุการตายนั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 25 ก.พ. 57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนิพนธ์ โชติบาล รักษาการอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีคำสั่งย้าย นายสุริยนต์ โพธิบัณฑิต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ไปเป็นหัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง ซึ่งอยู่ทางใต้ของป่ากุยบุรีแล้ว และให้ นายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง มาเป็นหัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรีแทน เพื่อให้เกิดความสบายใจในการทำงานของทุกฝ่าย
นอกจากนี้ ทางนายประวัติศาสตร์ก็อาสาที่จะเข้ามาช่วย เนื่องจากการทำงานในการป้องกันและดูแลป่าไม้ในพื้นที่ป่ากุยบุรีที่ผ่านมา มีความร่วมมือจากชาวบ้านในพื้นที่ แต่เมื่อนายสุริยนต์เข้ามาทำงาน อาจทำให้ชาวบ้านไม่สบายใจ เพราะชาวบ้านยังติดภาพลักษณ์ที่นายสุริยนต์เคยเป็นหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
ทางด้าน นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ กล่าวว่า หลังจากได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามฝูงกระทิงในพื้นที่ป่ากุยบุรี ล่าสุด ได้รับรายงานจากอุทยานแห่งชาติกุยบุรีว่า พบเห็นตัวกระทิงวานนี้ (24 ก.พ.) เวลา 07.40 น. บริเวณหน้าผาจุดชมกระทิง จำนวน 25 ตัว เป็นเต็มวัย 21 ตัว ลูก 4 ตัว ซึ่งทั้งหมดมีอาการปกติ ขณะที่เวลา 15.20 น. พบเห็นตัวกระทิงที่แปลงหญ้า 200 k1 จำนวน 60 ตัว เป็นตัวเต็มวัยและอาการปกติเช่นเดียวกัน มีเพียง 1 ตัวที่มีอาการบาดเจ็บที่ขา คาดว่าน่าจะถูกทำร้ายจากสัตว์ผู้ล่า จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามกระทิงตัวดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ ยังพบเห็นตัววัวแดงตัวผู้อยู่ร่วมกับฝูงด้วย 1 ตัว ซึ่งจากการใช้กล้องถ่ายรูปอัตโนมัติ ดักถ่ายกระทิงในเวลากลางคืนติดต่อกัน 2 วัน ยังพบกระทิงออกหากินเป็นฝูง ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติกุยบุรีจะยังไม่เปิดให้บริการนักท่องเที่ยว เนื่องจากยังอยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ติดตามเก็บตัวอย่างเลือดของสัตว์ป่า เพื่อติดตามเฝ้าระวังโรคอุบัติใหม่ ที่อาจจะเกิดขึ้นในพื้นที่
"ขณะนี้ยังไม่มีการรายงานว่าพบซากกระทิงเพิ่ม แต่ยังต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากผลการตรวจสอบซากกระทิง มีการพบว่ามีเชื้อโรคแบคทีเรียในซากกระทิง จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวัง และตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริง ส่วนในพื้นที่ขณะนี้ มีภาวะแห้งแล้ง อาจทำให้เชื้อโรคบางชนิดถูกทำลายจากธรรมชาติไปโดยปริยาย แต่เราก็ยังคงต้องเฝ้าระวัง และยังไม่เปิดอุทยานไประยะหนึ่ง" นายธีรภัทร กล่าว
นายธีรภัทร ยังกล่าวถึงกรณีการสั่งย้ายหัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ว่า เพื่อให้เกิดความสบายใจในการทำงานในพื้นที่กุยบุรีจากทุกฝ่าย แต่พื้นที่ทั้งสองแห่งอยู่ในบริเวณเดียวกัน เพียงแต่สลับคนดูแลใหม่เท่านั้น.
...