นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินการของคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎระเบียบของทางราชการ มติของคณะรัฐมนตรี นโยบายของรัฐบาล และไม่ปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ทางราชการอย่างร้ายแรง ตามนัยมาตรา 82 (2) ประกอบมาตรา 85 (7) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 จากกรณีปัญหาทุจริตการสอบครูผู้ช่วยกรณีที่มีความจำเป็นหรือเหตุพิเศษ ว่า คณะกรรมการสอบสวนฯ จะนัดประชุมครั้งสุดท้าย ในวันที่ 14 ม.ค.นี้ และจะได้ข้อสรุปผลการสอบสวนว่าจะออกมาว่า จะเสนอระดับโทษอย่างไร โดยขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานว่ามีความผิดตามที่กล่าวหาหรือไม่ หากมีความผิดตามที่กล่าวหาก็อาจมีการลงโทษร้ายแรงได้ แต่หากดูพยานหลักฐานไม่ใช่เป็นความผิดก็อาจไม่ถูกลงโทษ
นายอภิชาติกล่าวอีกว่า โดยปกติแล้วการถูกลงโทษร้ายแรงจะมีสองกรณี คือ ปลดออกจากราชการ และถูกไล่ออกจากราชการ แต่ในกรณีของอดีตเลขาธิการ กพฐ.ที่เกษียณอายุราชการไปแล้วต้องไปดูข้อกฎหมายว่าจะสามารถทำได้หรือไม่ ส่วนสำนวนคดีที่ 2 ที่ ดร.ชินภัทรถูกตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยร้ายแรงร่วมกับข้าราชการอีก 7 คน ในฐานกระทำผิดระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรักษาความลับของราชการนั้น คณะกรรมการสอบสวนฯ จะสรุปผลประมาณวันที่ 15 มี.ค.นี้.