กรมอุทยานฯ สั่งเฝ้าระวังรีสอร์ตบ้านพักรุกทับลาน-วังน้ำเขียว ถ้าเปิดบริการให้จับซ้ำทันที ด้าน “ดำรงค์” ฉะรัฐบาลไม่สนใจเรื่องทวงคืนผืนป่า ถ่วงไม่ตั้งอธิบดี เล็งตั้งพรรคการเมืองมาแก้ลำ จดทะเบียน 12 ธ.ค.นี้ ลั่นสู้เพื่อป่าไม้อย่างเดียว...
ความคืบหน้ากรณีรีสอร์ตและบ้านพักกว่า 300 แห่ง ที่บุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา และ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินคดีของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งศาลมีคำสั่งให้รื้อถอนทุบทิ้งและให้ออกจากพื้นที่ของอุทยานฯ แล้ว แต่ยังเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวอย่างคึกคักนั้น
เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. นายเริงชัย ประยูรเวช รองอธิบดีกรมอุทยานฯ รักษาการอธิบดีกรมอุทยานฯ เปิดเผยว่า ได้ทำรายงานข้อเท็จจริงถึง นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมว.ทรัพยากรฯ แล้ว ขณะเดียวกัน ได้สั่งการไปยังหัวหน้าอุทยานฯ ทับลาน แล้วว่า หากพบว่ารีสอร์ต บ้านพักที่ถูกดำเนินคดีสิ้นสุดแล้ว มีเจตนาที่จะกลับมาเปิดให้บริการใหม่ ให้ไปแจ้งความดำเนินคดีซ้ำทันที ปล่อยให้มีการดำเนินการต่อไม่ได้อยู่แล้ว เพราะศาลมีคำสั่งให้รื้อถอนและออกจากพื้นที่เด็ดขาด และให้เจ้าหน้าที่ไปติดตามเฝ้าระวังไม่ให้มีการเปิดบริการเด็ดขาด
ทั้งนี้ กรมอุทยานฯ จับกุมรีสอร์ต บ้านพักตากอากาศที่บุกรุกพื้นที่อุทยานฯ ทับลาน แล้วจำนวน 426 คดี คดีสิ้นสุดเด็ดขาด โดยศาลสั่งให้รื้อถอนจำนวน 49 แห่ง กรมอุทยานฯ ได้รื้อถอนไปแล้ว 27 แห่ง อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครอง 22 แห่ง ส่วนที่เหลืออยู่ในขั้นตอนของพนักงานสอบสวน ยืนยันว่ากรมดำเนินการตามกฎหมายทุกขั้นตอน ไม่ได้มีการปล่อยปละละเลย
นายเริงชัย กล่าวถึงกรณีที่รีสอร์ตบ้านพักเปิดให้บริการและนักท่องเที่ยวยังเข้าใช้บริการนั้น ว่า กรมไม่สามารถใช้กฎหมายไปบังคับใช้กับประชาชนได้ ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกเพียงอย่างเดียว ที่ผ่านมาตนทำเรื่องไปยังกระทรวงทรัพยากรฯ ให้ประสานไปยังกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอความร่วมมือผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ประชาสัมพันธ์ให้ส่วนราชการและประชาชนรับทราบในเรื่องการงดเข้าพักในรีสอร์ต ที่บุกรุกพื้นที่วังน้ำเขียว-ทับลาน เพราะเท่ากับสนับสนุนให้มีการบุกรุกพื้นที่ป่าอย่างไม่สิ้นสุด อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์หน้าจะลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยตัวเอง
ด้านนายนุวรรต ลีลาพตะ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน นำเจ้าหน้าที่อุทยานฯ และสื่อมวลชนเข้าตรวจสอบรีสอร์ตบ้านทะเลหมอก ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี หลังมีข่าว 3 รีสอร์ตที่ศาลมีคำสั่งให้รื้อถอนและออกจากพื้นที่เด็ดขาด กลับคืนชีพรับนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ พบว่ามีคนงานกำลังรื้อถอนสิ่งก่อสร้างที่ถูกเจ้าหน้าที่รื้อถอนไปเมื่อวันที่ 27-28 ก.ค.ที่ผ่านมา และเมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึง นางวิไลลักษณ์ วิชชาบุญศิริ เจ้าของได้เข้ามาที่รถของเจ้าหน้าที่ พร้อมกล่าวว่า ทำไมเจ้าหน้าที่ต้องมาที่ทะเลหมอกทุกวัน ซึ่งนายนุวรรตชี้แจงว่า มีข่าวว่า 3 รีสอร์ตดังถูกทุบคืบชีพรับนักท่องเที่ยว จึงมาตรวจสอบเพื่อรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบข้อเท็จจริง พร้อมขออนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบบริเวณโดยรอบ ซึ่งนายนุวรรต กล่าวภายหลังว่า จากการตรวจสอบพบว่า คนงานกำลังเก็บซากปรักหักพังออกจากพื้นที่ ไม่มีการก่อสร้างและรับนักท่องเที่ยวแต่อย่างใด และหากพบว่าที่ใดที่ถูกรื้อถอนไปแล้ว กลับมาปรับปรุงและรับนักท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ก็จะจับกุมอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ ที่คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีการประชุมใหญ่สามัญสมาคมอุทยานแห่งชาติ ประจำปี 2555 และการเสวนาทางวิชาการ เรื่อง "ประสบการณ์การเป็นอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ของ ดำรงค์ พิเดช” โดยมีคณาจารย์ ศิษย์เก่า และศิษย์ปัจจุบันคณะวนศาสตร์ กว่า 100 คนร่วมงาน ทั้งนี้ นายดำรงค์ พิเดช อดีตอธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวถึงสภาพกรมอุทยานฯ ขณะนี้ เห็นว่าใครมาเป็นอธิบดีกรมอุทยานฯ ก็ลำบาก ทุกคนอยากจะทำเหมือนตน แต่ทำไม่ได้ เพราะมีคำสั่งปากเปล่าไม่ให้ดำเนินการใดๆ ไม่ได้มีหนังสือรองรับ ผ่านมาแค่ 2 เดือน เริ่มมีการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งกันแล้ว โดยเฉพาะกรมป่าไม้ แต่ในกรมอุทยานฯ ยังดูท่าทีกันอยู่
นายดำรงค์ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการซื้อขายป่าอย่างมโหฬาร และขณะนี้ระบบบ้านเมืองไม่เคารพกฎหมาย ที่ผ่านมาผู้ใหญ่ในรัฐบาลไม่มีการเคยพูดถึงกรมอุทยานฯ ที่ทำเรื่องทวงคืนผืนป่า พร้อมยกตัวอย่างเคยของบมาใช้ปราบปรามการบุกรุกและการลักลอบตัดไม้พะยูง 7 ครั้ง แต่ก็ไม่ได้งบแม้แต่บาทเดียว ต้องเจียดเงินรายได้อุทยานฯ และงบในส่วนสัตว์ป่ามาใช้ จนถูกตั้งกรรมการสอบ และที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีไม่เคยสอบถามตนโดยตรงว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง รับฟังแต่คนรอบข้างเพียงไม่กี่คน ส่วนกรณีการรื้อถอนผู้บุกรุกป่าวังน้ำเขียว-ทับลาน มีผลกระทบเยอะ โดยเฉพาะกรณีทะเลหมอกรีสอร์ท วันที่รื้อทำกันอยู่ 9 จุด พื้นที่ 8 จุดมีการรื้อกันโครมครามอยู่ ตอนนั้นประมาณเที่ยงคืนกว่า คนบอกว่ามีข้างบนโทรศัพท์สั่งมา สั่งปากเปล่าให้หยุด แต่ตนไม่ฟัง บอกลูกน้องทุกคนให้ปิดมือถือหมดและดำเนินการต่อ จะย้ายก็ย้าย ต่อมาทราบว่ามีการพูดคุยกันใน ครม.ว่าจะย้ายหรือไม่ย้าย ตนเหลืออายุราชการ 2 เดือน ไม่ได้คิดอะไร ถ้า ครม.ย้ายตนก็มีแต่เสีย
ทั้งนี้ นายดำรงค์ยอมรับถูกหลอกในพื้นที่อุทยานฯ เขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด เพราะจนวันนี้ยังไม่มีการรื้อถอน ปัญหาตอนนี้คือไม่มีอธิบดีกรมอุทยานฯ ที่จะเป็นหัวเรือ เพราะอธิบดีที่จะต้องตั้งคือ นายเริงชัย ประยูรเวช และนายมโนพัศ หัวเมืองแก้ว รองอธิบดีกรมอุทยานฯ ทั้งคู่ ซึ่ง อกพ.กระทรวงทรัพยากรฯ ได้เลือกมานั้น ไม่ถูกใจคนตั้ง แต่ไม่มีตัวเลือก รัฐมนตรีก็มีหน้าที่ชงขึ้นไป ตนคิดว่าคนที่ไม่พอใจคือคนที่อยู่เหนือรัฐมนตรี แต่ถ้าไม่ตั้ง 2 คนนี้รัฐบาลก็ทำผิดกฎหมายแน่นอน จากนั้นตั้งมาแล้วคนที่มาเป็นอธิบดีกรมอุทยานฯ ก็ต้องเจอและต่อสู้กับรังสีอำมหิต ซึ่งหากมีอธิบดีแล้วไม่ดำเนินการตามแนวทางของสังคม ตนก็จะเป็นคนไปแจ้งความจับเอง แม้จะเป็นเพื่อนกันก็ตาม
“วันนี้ทุกคนอยากทำงานแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ให้ทุกคนมาร่วมเซ็นชื่อถวายฎีกากันจะกล้าหรือไม่ ที่ผ่านมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงใยในเรื่องการปกป้องรักษาป่า โดยเฉพาะกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในปี 2555 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่รับสั่งลงโทษพวกตัดไม้ทำลายป่าอย่างรุนแรง การถวายฎีกาทำได้โดยทูลเกล้าฯ ถวายรายงานบอกเล่าข้อเท็จจริงทั้งหมดว่าทำงานไม่ได้ อธิบดีก็ตั้งไม่ได้ ซึ่งเป็นครั้งแรกของกรมอุทยานฯ ผมจะลงชื่อเป็นคนแรก สิ่งที่ผิดกฎหมาย การทวงคืนผืนป่าถูกระงับ เอาคนที่หาผลประโยชน์มาทำงาน จะให้เวลาอีกสักระยะ ถ้าไม่ตั้งอธิบดีกรมอุทยานฯ ก็ต้องดำเนินการ เพราะทรัพยากรของคนไทยทั้งชาติเสียหาย การไม่มีอธิบดีทำให้เจ้าหน้าที่ไม่กล้าทำงาน เพราะถ้าคนทำผิดถูกจับเขาก็ไปฟ้องผู้ใหญ่ กรณีภูเก็ตออกโฉนดกลางอุทยานฯ ก็ไม่เห็นมีผู้ใหญ่ออกมาพูดอะไร” นายดำรงค์ กล่าว
อดีตอธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวด้วยว่า อีกแนวทางหนึ่งที่คิดคือตั้งพรรคการเมืองชื่อพรรคทวงคืนผืนป่าประเทศไทย มีตนเป็นหัวหน้าพรรค จะสู้เรื่องป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติอย่างเดียว ไม่พูดเรื่องอื่น หวังว่าจะได้ ส.ส.ระบบสัดส่วน 1-2 เสียง เหมือนพรรครักประเทศไทยของ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ถ้าใครจะลงเขตก็หาเงินมาลงเอง โดยจะไปจดทะเบียนจัดตั้งพรรคในวันที่ 12 ธ.ค.นี้.
...