“สับปะรดกระป๋องไทย” จัดเป็นสินค้าดาวรุ่ง (Star) และเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมผลไม้แปรรูปที่มีความสำคัญเชื่อมโยงต่อภาคการเกษตร โดยปัจจุบันการส่งออกมีมูลค่าอันดับ 1 ของโลก

นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้สินค้าแปรรูปดังกล่าวเริ่มเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางโดยเฉพาะในตลาดแถบสหภาพยุโรป ดังนั้น เพื่อให้กลุ่มประเทศดังกล่าวยอมรับในมาตรฐาน เกษตรกรในพื้นที่อย่างจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นแหล่งที่ปลูกพืชดังกล่าวมากที่สุด จึงรวมตัวจัดตั้งเป็น สหกรณ์ชาวไร่สับปะรดสามร้อยยอด จำกัด พร้อมทั้งผลักดันวิสาหกิจชุมชน พัฒนาระบบการผลิตและผลิตภัณฑ์ กระทั่งได้รับการรับรอง มาตรฐานแฟร์เทรดจากองค์กรแฟร์เทรด ลาเบลลิ่ง (FAO) จากสาธารณรัฐเยอรมนี


“...แฟร์เทรด เป็นระบบการค้าที่สร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ตั้งแต่ผู้ผลิต ผู้จำหน่าย ผู้บริโภค รวมถึงแรงงานที่อยู่ในระบบ ที่โดยรวมผู้ซื้อได้ของคุณภาพราคาเหมาะสม ส่วนผู้ขายอยู่ได้ ซึ่งปัจจุบันองค์กรนี้มีอยู่มากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก และการรับรองดังกล่าว ส่งผลให้ไทยเราสามารถส่งออกทั้งสับปะรดกระป๋องและน้ำฯแปรรูปไปยังตลาดในกลุ่มสหภาพยุโรปได้ทั้งในประเทศ เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม อิตาลี เยอรมนี ฝรั่งเศส และสวิตเซอร์แลนด์...”

นายอานนท์ โลดทนงค์ ผู้จัด การสหกรณ์ฯ บอกว่า ปัจจุบันสหกรณ์มีสมาชิกจำนวน 63 ราย พื้นที่ปลูก 8,500 ไร่ กำลังการผลิต 20,000 ตัน/รอบการผลิต นอกจากวิสาหกิจชุมชนกลุ่มสหกรณ์ผู้ปลูกจะได้รับเงินค่าสินค้าแล้ว ยังได้รับเงินพรีเมียมพิเศษหรือเงินสนับสนุนเพิ่มเติมจากผู้ซื้อในระบบการค้าที่เป็นธรรม และในอนาคตสหกรณ์มีแผนรับสมาชิกเพิ่ม ขยายฐานการผลิตรองรับการตลาดที่มีแนวโน้มการแข่งขันสูง ขณะเดียวกัน ยังเร่งผลักดันมะม่วงน้ำดอกไม้ อ้อย และน้ำตาล รวมทั้งพืชผักอื่นๆเข้าสู่ระดับดังกล่าว เพื่อสร้างความหลากหลาย เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก

...


นางสาวนิภาลิน ม่วงใหม่ เกษตรกรบ้านเลขที่ 243/1 หมู่ 1 ต.ศาลาลัย อ.สามร้อยยอด หนึ่งในสมาชิก เล่าให้ฟังว่า ปลูกสับปะรดมาตั้งแต่รุ่นพ่อ มีพื้นที่ปลูกทั้งหมด 100 ไร่ ผลผลิตทั้งหมดประมาณ 7 ตัน/ ไร่/ปี หลายคนมองว่าการปลูกพืชดังกล่าวเวลานี้การดูแลค่อนข้างยาก จริงแล้วความแตกต่างอยู่ที่ต้นทุนเพราะว่าอัตราการปรับขึ้นของทุกๆอย่างเพิ่มขึ้น แต่ราคาซื้อขายกลับไม่ต่าง ดังนั้น หากจะอยู่ได้ เราต้องปรับการจัดการโดยหันมาพึ่งธรรมชาติให้มากที่สุด

...โดยก่อนปลูกต้องคำนวณว่าสามารถเก็บผลได้ช่วงเดือนไหน อย่างที่ไร่จะปลูกในช่วงเดือนพฤษภาคม และจะตัดผลได้ในช่วงเดือนกันยายน จากนั้นเก็บผลได้อีก 3 รุ่น (4 ปี) จึงเริ่มปลูกใหม่ ซึ่งก่อนลงต้นจะปั่นดินทิ้งตากแดดไว้ 20 วัน แล้วไถหมก 1 เดือน แล้วใส่ปุ๋ยชีวภาพ เพื่อให้ดินคงสภาพที่ดี จึงไถแปรอีกครั้ง วิธีนี้ต้นสับปะรดเก่าจะกลายเป็นปุ๋ยบำรุงชั้นดีเยี่ยมและเพื่อให้ได้ผลิตผลคุณภาพ การจัดการจะบังคับให้ออกผลโดยใช้น้ำยาอีทีฟอนบูม 1 เดือน จะใช้ปุ๋ยเฉพาะฉีดพ่นด้านบน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการตกค้างในดิน...


จากนั้นอีก 4 เดือน จะมีผลผลิตคุณภาพส่งป้อนเข้าสู่โรงงานเพื่อแปรรูปตีตลาดในแถบยุโรปต่อไป.

เพ็ญพิชญา เตียว