มีข้อสรุปจากเวทีเสวนา “พ.ร.บ.การพนันผ่าน หวยถูกกฎหมาย รัฐได้ภาษี สังคมได้อะไร?” เล็งยื่นนายกฯ ทบทวน พ.ร.บ.การพนัน พร้อมเสนอตั้ง คกก.จากทุกภาคส่วนร่วมวางนโยบาย เตือนสังคมเสียหายไม่คุ้มกับรายได้ที่เข้ารัฐ แนะต้องคุมให้ได้...

เมื่อวันที่ 22 ม.ค. มีรายงานว่า ที่ศูนย์ประชุมสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์  มีการจัดเวทีเสวนาหัวข้อ “พ.ร.บ.การพนันผ่าน หวยถูกกฎหมาย รัฐได้ภาษี สังคมได้อะไร?” จัดโดยโครงการสื่อสารสาธารณะเพื่อสังคมปลอดพนัน ภายใต้มูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์ สนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยมีผู้เข้าร่วมเวที จากชุมชนทั่วประเทศ ผู้นำท้องถิ่น สื่อมวลชน แกนนำชุมชน 7 ภูมิภาค ซึ่งในเวทีดังกล่าวได้มีข้อเสนอเชิงนโยบายต่อร่าง พ.ร.บ.การพนันฯ 3 ข้อ ดังต่อไปนี้

ประการที่ 1. ควรชะลอการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การพนันฯ ออกไปและจัดให้มีเวทีประชาพิจารณ์ทั้งในระดับชาติและระดับภูมิภาค เพื่อให้ประชาชนทุกภาคส่วน เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดทำร่าง พ.ร.บ.การพนันฯ ฉบับประชาชน เพื่อเสนอควบคู่ไปกับร่าง พ.ร.บ.การพนันฉบับนี้  2. ควรจัดตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลนโยบายการพนันแห่งชาติโดยการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน เข้ามาเป็นผู้กำหนด ยุทธศาสตร์ ทิศทาง และนโยบาย เกี่ยวกับเรื่องการพนันในสังคมไทยทั้งหมด 3. ให้มีการทบทวนเนื้อหาในร่าง พ.ร.บ.การพนันฯ ในส่วนที่จะส่งผลกระทบต่อชุมชนและสังคมในวงกว้าง เช่น มาตรา 4 ที่กำหนดให้หนี้การพนันเป็นหนี้ถูกกฎหมาย หรือในมาตรา 7 ที่อนุญาตให้การพนันบางประเภทสามารถเล่นได้อย่างถูกกฎหมาย โดยออกเป็นกฎกระทรวง ทั้งนี้ ทางเครือข่ายจะทำจดหมายเปิดผนึกส่งถึงนายกรัฐมนตรี ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผู้นำฝ่ายค้าน คณะกรรมการกฤษฎีกา กระทรวงและองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้นำไปพิจารณาให้เกิดเวทีประชาพิจารณ์  4. ขอให้มีมาตรการในการปกป้องเด็กและเยาวชนไม่ให้เกี่ยวข้องกับการพนันที่ชัดเจนโดยมีการบังคับกฎหมายที่เคร่งครัด

...

นอกจากนี้เวทีดังกล่าวยังมีข้อเสนอเชิงนโยบายต่อประเด็นการจำหน่ายสลากด้วยเครื่องอัตโนมัติด้วย ว่า ต้องมีการเพิ่มบทลงโทษทั้งต่อผู้เล่น เจ้ามือหวยเถื่อน และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการพนันหวยใต้ดิน รวมทั้งกำหนดบทลงโทษแก่ตัวแทนจำหน่ายหวยออนไลน์ในกรณีที่ขายหวยออนไลน์ให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี โดยต้องดำเนินการทางกฎหมาย และริบเงินประกันกับตู้หวยออนไลน์คืนโดยไม่มีข้อยกเว้น และต้องมีการศึกษาถึงผลกระทบต่อการมีหวยออนไลน์กับสังคมอย่างจริงจัง โดยการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อศึกษาผลกระทบที่เกิดขึ้น เช่น ดูผลกระทบต่อผู้ค้ารายย่อย ได้แก่ คนพิการ เป็นต้น สุดท้ายต้องเสนอให้มีการแก้ไข พ.ร.บ.สลากกินแบ่งรัฐบาล โดยมีการจัดตั้งกองทุนที่จัดโดยกองทุนสลากกินแบ่งที่ไม่ต้องผ่านรัฐ และมีการปรับโครงสร้างการบริหารงาน

ด้าน นายอนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า ประเด็นการใช้เครื่องมือทางกฎหมายในการควบคุมในสิ่งที่สังคมไม่พึงประสงค์ ที่ขัดต่อศีลธรรมมักเกิดขึ้นในทุกสังคม และ เมื่อนำการพนันนอกระบบที่มีเม็ดเงินอยู่ประมาณหลายหมื่นล้านบาทเข้ามาในระบบแล้ว หากไม่สามารถควบคุมได้ก็ยิ่งทำให้เกิดธุรกิจใต้ดิน ที่จะเป็นช่องทางของผู้แสวงหาประโยชน์ ทำให้เกิดปัญหาการคอรัปชัน และติดสินบนตามมา และก็จะเป็นปัญหาต่อๆ ไป

“ส่วนผลพลอยได้ที่รัฐจะมีรายได้เข้ามา ทั้งจากการเก็บค่าธรรมเนียมในการออกใบอนุญาตการพนันนั้นผมคิดว่านั่นไม่ใช่ประเด็น เพราะอย่างไรเสียก็ไม่คุ้มกับการที่สังคมต้องเสียหาย ยิ่งถ้ามีการเปิดให้มีการพนันแพร่หลายทุกจังหวัดประเทศก็ยิ่งเสียหาย เหมือนกับในอดีตที่มีการคิดสลากกินแบ่งรัฐบาลขึ้นมาก็มีรัฐคอยควบคุม ทำโรงงานยาสูบทั้งที่ยาสูบทั้งที่ไม่ใช่เรื่องดีเลยแต่รัฐก็ต้องควบคุม ดังนั้นการทำให้สิ่งผิดถูกกฎหมายไม่ใช่เปิดให้เสรีกับสิ่งนั้น แต่ต้องควบคุมให้ได้ ไม่ใช่คิดแค่ว่ารัฐบาลจะได้เงินจากตรงนี้เท่านั้น” นายอนุสรณ์ กล่าว

ขณะที่นายกิติพงศ์  สุทธิ ผู้อำนวยการสถาบันคนตาบอดแห่งชาติเพื่อการวิจัย และการพัฒนา สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภาพสังคมโดยรวมถ้าปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างนี้จะเป็นผลกระทบในทางลบต่อ สังคม ดังนั้น จึงต้องวางกรอบกฎหมาย หรือวางแนวของรัฐที่เข้มแข็งที่ทำยังไงให้การพนันที่เกิดขึ้นอยู่ในขอบเขตของกฎหมาย และทำให้คนมีภูมิคุ้มกันจากการพนันให้มีสติรู้เท่าทันการพนัน เพราะในชีวิตของตนเคยมีคนที่เล่นการพนันที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ จนถลำลึก และต้องบาดเจ็บทางเศรษฐกิจคือหมดตัว.