กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เล็งรื้อถอนบ้านพักและรีสอร์ต บุกรุกอุทยานแห่งชาติทับลาน 9 แห่ง หลังศาลได้มีคำสั่งสิ้นสุดแล้ว...
เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ที่กรมป่าไม้ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมว.ทรัพยากรธรรมและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยหลังมอบนโบบายให้กับผู้บริหารกรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ถึงความคืบหน้าในการดำเนินการแก้ปัญหาการบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน และป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาภูหลวง อ.วังน้ำเขียว จ. นครราชสีมา ว่า กรณีบ้านพักและรีสอร์ตที่ผิดกฎหมายบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติและอุทยานแห่งชาติ ในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว ต้องเดินหน้าต่อไป ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งศาลสูงสุดมีคำพิพากษาออกมาแล้ว ต้องดำเนินการตามนั้น เพราะถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ปฏิบัติตาม ก็มีความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 157 ในเรื่องละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนกรณีที่ชาว อ.วังน้ำเขียวกว่า 500 คนยื่นฟ้องร้องต่อศาลปกครองให้คุ้มครองชั่วคราวในกรณีนี้นั้น ถือเป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ แต่คำสั่งศาลสูงสุดถือว่าคดีสิ้นสุดแล้ว
อย่างไรก็ตามการปฏิบัติหน้าที่ของกรมอุทยานฯ และกรมป่าไม้โดยเฉพาะในเรื่องการปราบปรามการบุกรุกพื้นที่วังน้ำเขียว ได้รับคำชื่นชมจาก ส.ส. และ ส.ว. ตลอดจนสังคมโดยรวมเป็นอย่างมาก ไม่มีใครออกมาวิจารณ์ จึงขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการทำงานต่อไป
ทั้งนี้ขอฝากข้าราชการกรมป่าไม้และกรมอุทยานฯ ว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ก็เหมือนตำรวจ ถ้าเห็นคนรุกป่าแล้วไม่จับก็เหมือนกับตำรวจเห็นโจรแล้วไม่จับ พื้นที่อุทยานฯ เป็นสมบัติของทุกคน ใครจะไปบุกรุกทำลาย ทำไร่ รีสอร์ต บ้านพัก ไม่ได้ทั้งสิ้น เพราะกฎหมายไม่อนุญาต
ที่ผ่านมา ตนก็ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะรัฐมนตรีิด้วยความเป็นธรรม และดำรงตำแหน่ง รมว.ทรัพยากรฯ มา 4 เดือน มีนักการเมืองมาฝากญาติพี่น้องให้ไปอยู่ในตำแหน่งสำคัญๆ ขณะที่ตำแหน่งมีไม่กี่ตำแหน่ง มี ส.ส. ในสภา 500 คน แต่มาวิ่งเต้นฝากตนถึง 300 คน จะมีตำแหน่งให้หรือไม่และตนก็ไม่เคยตอบสนอง เพราะอยากให้คนทำงานได้ดี ดังนั้น อย่าวิ่งเต้น คนที่ทำงาน ตนจะส่งเสริมสนับสนุนเต็มที่ คนทำดีต้องได้ดี ไม่ใช่นักวิ่งได้ดี ใครมาขอไปเหนือตนจะส่งลงใต้ ใครอยากลงภาคใต้ตนจะส่งไปอีสาน
“อดีตที่ผ่านมา นักวิ่งไม่ทำห่าอะไรเลย ได้แต่นักวิ่งเต้นแต่ได้ดี ขณะที่คนทำงานก็น้อยใจเพราะว่าทำดีแล้วไม่ได้ดี การทำงานจึงชะงักงันไปหมด ส่งผลกระทบเสียหายต่ออุทยานฯ ดังนั้นจากนี้เป็นต้นไป ตนจะมีการประเมินการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุก 3 6 และ 9 เดือน”
ด้านนายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวว่า ในวันที่ 20 ธ.ค. กรมอุทยานฯ จะดำเนินการรื้อถอนบ้านพักและรีสอร์ตที่บุกรุกอุทยานฯ ทับลาน จำนวน 9 แห่ง ซึ่งศาลได้มีคำสั่งสิ้นสุดแล้ว และหมดเขตให้เจ้าของบ้านพัก และรีสอร์ตมาแสดงสิทธิ์ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยบ้านพักและรีสอร์ต 9 แห่ง ประกอบด้วย 1. บ้านคลองกระทิงวิวรีสอร์ต ของนายธิติ ศิลาศรี พื้นที่ 122 ไร่ มีบ้านพักทั้งหมด 87 หลัง 2. บ้านไร่กุลละวณิชย์ ของนายภักดี กุลละวณิชย์ พื้นที่ 57 ไร่ มีบ้านพัก 19 หลัง 3. บ้านพักของนายศิริชัย กิจศุภไพศาล เป็นตึก 4 ชั้น เนื้อที่ 2 ไร่ 4. บ้านพักของนายบัญชา เล็กเจริญสุข เนื้อที่ 11 ไร่ ลักษณะเป็นบ้านพักตากอากาศ 5. บ้านพักของนายจรัญ ด้วงกระโทก พื้นที่ 1 ไร่ เป็นบ้านพักตากอากาศ 6. บ้านพักของนายพิทูรย์ วังวิเชียรโชติ เนื้อที่ 4 ไร่ เป็นบ้านพักตากอากาศ 7. ไร่รวยริน ของนายบุญธรรม คูณสว่าง เนื้อที่ 48 ไร่ 8. บ้านพักของนายประสิทธิ์ จิระดำรงค์ เนื้อที่ 11 ไร่ และ 9. บ้านพักของนายปรีชา เทพรัตน์ เนื้อที่ 8 ไร่
ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวได้มีการเตรียมอุปกรณ์รถแบ็กโฮจำนวน 6 คัน และอุปกรณ์ในการรื้อถอนทุบทิ้งอีกจำนวนหนึ่ง นอกจากนั้นได้เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่จากชุดปราบปรามการลักลอบตัดไม้พะยูงไว้ อีกจำนวน 200 คน เพื่อคอยคุ้มครองเครื่องจักรเครื่องมือ เพื่อป้องกันการขัดขวางของมวลชน โดยเจ้าหน้าที่ทั้งหมดไม่ได้มาทำร้ายประชาชน แต่มาเพื่อพิทักษ์กฎหมายให้เป็นกฎหมาย ทั้งนี้หลังจากที่มีการดำเนินการ 9 แห่งนี้แล้ว จะมีการดำเนินคดีอีก 142 แห่ง ที่ทำผิดกฎหมาย โดยทั้งหมดจะถูกดำเนินการบนมาตรฐานเดียวกัน และได้กำชับเจ้าหน้าที่ว่าห้ามถามว่าเป็นบ้านพักและรีสอร์ตของใคร ส่วนการที่ชาวบ้านไปฟ้องร้องศาลปกครอง ก็ต้องรอคำสั่งของศาลปกครองด้วย แต่เท่าที่ทราบก็มีรีสอร์ตที่ไปยื่นคุ้มครองแล้วศาลปกครองไม่รับ อย่างไรก็ตามในแง่ของกฎหมาย ต้องยึดคำสั่งของศาลฎีกาเป็นที่สิ้นสุด
...