จนท.คุมผู้ต้องสงสัยที่เห็นชาย 4 คน รุมฆ่าเจ้าของรถที่ถูกนำไปทำคาร์บอมบ์บิ๊กซีปัตตานี และเป็นคนเทพื้นปูนใหม่ทับจุดเกิดเหตุ เข้ากระบวนการซักถาม ปฏิเสธไม่ได้ร่วมก่อเหตุ ขณะที่ พลังประชาชนเดินขบวนชูป้ายต้านโจรใต้...

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 11 พ.ค. ที่บริเวณด้านหน้าห้างบิ๊กซีปัตตานี กำลังภาคประชาชน พร้อมด้วย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ของอำเภอเมืองกว่า 100 นาย ร่วมกันแสดงพลัง ชูป้ายเดินขบวนต่อต้านการใช้ความรุนแรงในพื้นที่ พร้อมประณามการกระทำของกลุ่มคนร้ายในการก่อเหตุลอบวางระเบิดคาร์บอม ห้างบิ๊กซี เมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม มุ่งหวังทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 60 ราย พร้อมเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการเรียกร้องให้ยุติการก่อเหตุความรุนแรง และร่วมกันแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี เลิกใช้ประชาชนผู้บริสุทธิ์เป็นเครื่องมือในการก่อเหตุความรุนแรง โดยมี นายไชยพร นิยมแก้ว นายอำเภอเมืองปัตตานี ร่วมเดินขบวนในครั้งนี้ด้วย

...

ขณะที่ บรรยากาศบริเวณห้างบิ๊กซีปัตตานี ในวันนี้ เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยยังคงปิดกั้นทางเข้าออกห้าง โดยไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปภายในห้างโดยเด็ดขาด มีเพียงพนักงานและเจ้าหน้าที่ของห้างเท่านั้น ส่วนตัวอาคาร ร้านค้าที่ได้รับความเสียหาย ไม่มีการรื้อถอนอาคารแต่อย่างใด

ในส่วนของการสอบสวน ล่าสุด เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ใช้อำนาจกฎอัยการศึกเชิญตัวผู้ต้องสงสัย 1 ราย ในพื้นที่ หมู่ 3 บ้านใหม่ ต.เกาะเปาะ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เข้าสู่กระบวนการซักถามที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี หลังจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้เข้าไปพิสูจน์ทราบบริเวณมัสยิดบ้านใหม่ เนื่องจากมีพยานแจ้งเบาะแสว่าพบรถกระบะคันที่คนร้ายปล้น แล้วนำไปก่อเหตุคาร์บอมบ์เข้ามาจอดบริเวณมัสยิด จากนั้นมีกลุ่มวัยรุ่นชาย 4 คนโอบล้อมรถคันดังกล่าว และยังพบว่ามีการทะเลาะก่อนจะมีการยิงกันขึ้น จากนั้นมีรถกระบะอีก 1 คันนำร่างผู้ที่ถูกยิง ซึ่งเป็นเจ้าของรถออกจากจุดเกิดเหตุ

ปรากฏว่าเมื่อตรวจสอบบริเวณโดยรอบ เจ้าหน้าที่พบรอยเลือดมนุษย์ที่พื้นถนน ตรงกับที่พยานชี้ เจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐานจึงได้เก็บรอยเลือดทั้งหมดไปทำการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ ว่าจะเป็นเลือดของ นายนุสน ขจรดำ เจ้าของรถที่ถูกนำไปทำคาร์บอมบ์หรือไม่

สำหรับผู้ต้องสงสัยรายนี้ที่ถูกเชิญตัว เจ้าหน้าที่ระบุว่าขณะที่มีการตรวจที่เกิดเหตุหลังจากพบรอยเลือดแล้ว ยังพบว่าพื้นหน้ามัสยิดมีการเทปูนใหม่ จึงได้สอบถามชาวบ้าน ทราบว่าพื้นดังกล่าวเพิ่งเทปูนในวันที่เกิดเหตุ วันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา จึงมีการสืบสวนและเชิญตัวเป็นผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ เบื้องต้น ผู้ต้องสงสัยยอมรับว่าเป็นคนที่เทพื้นและได้เห็นเหตุการณ์ แต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร อีกทั้งไม่กล้าแจ้งเจ้าหน้าที่เพราะกลัวว่าตัวเองจะได้รับอันตราย แต่ได้ปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่เชื่อว่าน่าจะเห็นรูปพรรณของคนร้ายที่ก่อเหตุ ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการซักถาม.