คาดลงทะเบียนคนจนมากกว่า 10 ล้านคน เริ่มแจกสวัสดิการ 1 ต.ค.นี้

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

คาดลงทะเบียนคนจนมากกว่า 10 ล้านคน เริ่มแจกสวัสดิการ 1 ต.ค.นี้

Date Time: 27 เม.ย. 2560 19:50 น.

Video

ไทยฝันเป็น “ฮับการเงิน” แต่จะไปให้ถึงยังไงดี ? | Digital Frontiers

Summary

  • คลัง คาดคนลงทะเบียนคนจนมากกว่า 10 ล้าน เริ่มแจกสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย 1 ต.ค. คาดใช้งบปีละ 3 หมื่นล้าน ทั้งรถเมล์-รถไฟฟรี ลดค่าไฟ-น้ำประปา ส่วนลดสินค้าจำเป็นต่อการครองชีพ และในอนาคตเล็งออกส่วนลดโดยสารรถไฟฟ้า...

Latest


คลัง คาดคนลงทะเบียนคนจนมากกว่า 10 ล้าน เริ่มแจกสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย 1 ต.ค. คาดใช้งบปีละ 3 หมื่นล้าน ทั้งรถเมล์-รถไฟฟรี ลดค่าไฟ-น้ำประปา ส่วนลดสินค้าจำเป็นต่อการครองชีพ และในอนาคตเล็งออกส่วนลดโดยสารรถไฟฟ้า...

เมื่อวันที่ 27 เม.ย. นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุรัฐบาลจะเริ่มแจกสวัสดิการให้แก่ผู้มีรายได้น้อยได้ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ 2561 หรือวันที่ 1 ต.ค.60 คาดต้องใช้งบประมาณปีละ 3 หมื่นล้านบาท เพื่อจัดสวัสดิการให้แก่ผู้มีรายได้น้อยที่มาลงทะเบียนไว้ ซึ่งได้กำชับให้ธนาคารกรุงไทย เร่งจัดทำบัตรสวัสดิการแจกให้แก่ประชาชนก่อนวันที่ 1 ต.ค.60 เพื่อนำไปใช้รับสวัสดิการต่างๆ ที่ภาครัฐเตรียมมอบให้ เช่น การโดยสารรถเมล์ฟรี, รถไฟฟรี, ลดค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา และค่าไฟฟ้า

นอกจากนี้ จะมีการพิจารณาให้นำบัตรสวัสดิการไปซื้อสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ โดยเฉพาะการซื้อสินค้าในร้านธงฟ้าประชารัฐ และซื้อน้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซหุงต้ม ซึ่งขณะนี้กระทรวงการคลังกำลังอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะให้เป็นส่วนลด หรือจะเติมวงเงินให้ในบัตรเพื่อใช้ซื้อสินค้า

ส่วนผู้มีรายได้น้อยในต่างจังหวัด จะมีการพิจารณาจัดสวัสดิการให้เหมาะสม เช่น ค่าใช้จ่ายในการโดยสารรถไฟ, รถ บขส. เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกับสวัสดิการที่ผู้มีรายได้น้อยในกรุงเทพฯ ได้รับ ซึ่งในอนาคตอาจจะพิจารณาให้ผู้มีรายได้น้อยที่อยู่ในเมืองได้โดยสารรถไฟฟ้าโดยได้รับส่วนลดจากราคาปกติ

อย่างไรก็ตาม คาดว่ามีผู้มาลงทะเบียนรอบนี้มากกว่า 10 ล้านคน และจะเปิดให้ลงทะเบียนใหม่ทุกปี ซึ่งรัฐบาลคาดหวังว่าผู้มีรายได้น้อยที่มาลงทะเบียนจะลดน้อยลงเรื่อยๆ เพราะเป็นการสะท้อนว่าประชาชนเริ่มมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และหลุดพ้นจากการเป็นผู้มีรายได้น้อย

สำหรับบัตรผู้มีรายได้น้อยที่ธนาคารกรุงไทยเป็นผู้ดำเนินการ สามารถใช้เป็นกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ได้ โดยในอนาคตรัฐบาลจะให้เงินหรือสวัสดิการด้วยการโอนเข้าไปที่บัตรดังกล่าว ซึ่งจะทำให้มีการช่วยเหลือได้ตรงจุด ลดการรั่วไหล และการทุจริต เพราะที่บัตรจะแสดงรูปถ่ายและหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อยืนยันตัวตนของเจ้าของบัตร โดยกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ถือเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาระบบ e-Payment จะทำให้คนไทยโดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยเข้าถึงบริการทางการเงินมากขึ้น และไม่มีความจำเป็นต้องเปิดบัญชีกับธนาคาร.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ