ขลุง อำเภอเล็กๆที่อยู่ห่างจากตัวเมืองจันทบุรีเพียง 24 กิโลเมตร แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าเมืองเล็กๆแห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันน่าสนใจไม่น้อย

เชื่อหรือไม่ว่า แต่เดิมอำเภอขลุงมีฐานะเป็นเมืองที่มีเจ้าเมืองปกครอง เรียกว่า “เมืองขลุง” จนกระทั่งในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 มีการจัดระเบียบการปกครองตามแบบมณฑลเทศาภิบาล จึงปรับระดับให้ขลุง มีฐานะเป็นอำเภอ เรียกว่า อำเภอขลุง

...

ตามตำนานเล่ากันว่า ในพื้นที่นี้ชาวพื้นเมืองดั้งเดิมมีเชื้อชาติ “ชอง” พวกนี้มีภาษาพูดอย่างหนึ่งแตกต่างจากภาษาเขมรและภาษาไทย

คำว่า “ขลุง” หมายถึง พื้นที่ลุ่ม น้ำท่วมถึง เดิมชาวขลุงมีอาชีพทำนาและประมง แต่ต่อมาเปลี่ยนเป็นการปลูกผลไม้ อย่างเป็นล่ำเป็นสัน

และนี่คือที่มาของการเดินทางสู่ อ.ขลุง เพื่อเที่ยวสวนทุเรียนน้องใหม่ อย่าง “ณรงค์ฟาร์ม” ซึ่งเปลี่ยนวิกฤติจากการถูก ล้งจีน กว้านซื้อผลไม้ เมืองจันทบุรี ที่แม้จะให้ราคาสูง แต่ก็มีเงื่อนไขให้ผูกขาดกับเจ้าใดเจ้าหนึ่ง ทำให้เกษตรกรไม่มีทางเลือก แต่เพราะเห็นแก่รายได้ก็ยอมให้ทุนจีนเข้ามาเหมาตัดผลไม้ไปหมดสวน จนคนไทยแทบไม่ได้กินผลไม้ดีๆ

ณรงค์ ศุภผล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.เกวียนหัก จึงคิดหาทางออกด้วยการเปิดสวนผลไม้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาเที่ยวชมบรรยากาศสวนผลไม้เมืองจันท์ และสามารถที่จะเลือกตัดผลไม้ที่ชอบรับประทานได้โดยตรงจากต้น

“สำหรับผลไม้ในสวนหรือฟาร์มของผม มีทั้งเงาะ มังคุด ลองกอง ลำไย มะม่วง แต่ที่โดดเด่นที่สุด เห็นจะเป็นทุเรียน ที่มีทั้งหมอนทอง

ชะนี และพันธุ์โบราณอย่างทุเรียนพวงมณีก็มีปลูกไว้ ผมคิดว่าของเหล่านี้เป็นของดี และคนไทยควรที่จะได้กินผลไม้ดีๆที่ปลูกโดยคนไทย พอดีกับที่ลูกชายกำลังจะจบปริญญาโทด้านเศรษฐศาสตร์การเกษตร ก็เลยคิดว่าเราควรจะทำธุรกิจเล็กๆ แบบที่มีความสุขเป็นกำไร มากกว่าเงินทอง” เจ้าของฟาร์มน้องใหม่เล่าอย่างมีความสุขจริงๆ

และแม้ว่าจะเป็นฟาร์มน้องใหม่ที่ช่วงสงกรานต์นี้จะเป็นครั้งแรกของการเปิดสวนให้คนเข้าไปชม ชิม และช็อปผลไม้ได้ตามใจชอบ แต่ชื่อเสียงการปลูกผลไม้คุณภาพดีของผู้ใหญ่ณรงค์เป็นที่รับรู้กันทั่วไปในตำบลเกวียนหัก เพราะเกษตรคือชีวิตทั้งชีวิตของผู้ใหญ่บ้านคนนี้

ผู้ใหญ่บอกว่าช่วงเทศกาลสงกรานต์ หากไม่รู้จะไปที่ไหน ก็ให้แวะมาที่ขลุง จันทบุรี โดยณรงค์ฟาร์มถือฤกษ์งามยามดี ปีใหม่ไทย เปิดสวนวันแรก 13 เม.ย. มีทุเรียนหมอนทองที่ต้องบอกว่า ปล่อยจนแก่จัด รสชาติไม่ต้องพูดถึง ต้องมาชิมกันเอง แต่ที่ผ่านมาใครได้ชิมทุเรียนของที่นี่ มากกว่า 99.99% มักจะต้องหิ้วติดไม้ติดมือกลับไปมากกว่า 1 ลูกทุกครั้ง ที่สำคัญ ในช่วงเทศกาลนี้ ทางฟาร์มยังจัดกิจกรรม ชิมทุเรียน ชมสวน ดวลไมค์ สำหรับคนที่รักการร้องเพลง ชิมทุเรียนไป มีคาราโอเกะให้ร้องไปด้วย สุขทั้งเจ้าของฟาร์มและคนมาเที่ยวแน่นอน

...

สำหรับ คนที่จะมาเที่ยวณรงค์ฟาร์ม ไปไม่ยาก ไปตามถนนสุขุมวิท เลยตัวจังหวัดจันทบุรีไป ก่อนถึงตัวอำเภอขลุง ประมาณ 10 กิโลเมตร เลี้ยวขวาเข้าซอยวัดตะปอนใหญ่ วิ่งเลยวัดตะปอนใหญ่ไปจนถึงบ้านตะปอนใหญ่ ซอย 6 ก็จะเห็นป้าย “ณรงค์ฟาร์ม” เล็กๆ แต่อย่าหลุดเข้าไปในสวนทีเดียว เพราะสวนเขาใหญ่มาก ถ้าหาไม่เจอ โทร.ถามเส้นทางได้ที่เบอร์ 06-2598-9962 และ 08-8916-2619

นอกจากสวนผลไม้แล้ว ขลุงยังมีทะเลที่สวยงาม มีจุดชมวิวใกล้กับป่าชายเลน มีที่พักเก๋ๆ โดยเฉพาะโฮมสเตย์ของคนขลุง ที่อาจไม่หรูหรานัก แต่ก็ได้สัมผัสวิถีชีวิตแบบธรรมชาติบ้านๆจริงๆ

และถ้าอยากชิมอาหารทะเลสดๆ ใกล้ๆกันยังมีหาดแหลมสิงห์ที่เต็มไปด้วยร้านอาหารทะเลสดๆจากทะเล ราคาชาวบ้าน น้ำจิ้มไม่ต้องพูดถึง แซบสดถึงใจด้วยพริกขี้หนูสวนสดและมะนาวแท้ๆ หรือถ้าอยากจะลิ้มชิมรสอาหารถิ่นเมืองจันท์อย่างแกงหมูชะมวง หรือเส้นจันท์ผัดปู ที่นี่เขาก็มีเมนูนี้แทบทุกร้าน ไปชิมและถ่ายรูปโพสต์ขึ้นเฟซอวดเพื่อนได้ไม่อายใครแน่ๆ ขากลับ แนะนำให้แวะไหว้พระที่วัดเกวียนหัก เป็นวัดเก่าแก่ มีเรื่องเล่าต่อๆกันมาว่า วัดนี้

...

สร้างหลังวัดตะปอนน้อย 5 ปี ใบเสมาอุโบสถวัดตะปอนน้อยสลักไว้ พ.ศ.2125 แต่วัดเกวียนหักนั้นมีหลักฐานบันทึกว่า สร้างเมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2130 เล่าต่อกันมาว่าวัดเกวียนหักยังเคยเป็นที่พักของพระเจ้าตากสินครั้งยกทัพไปรบด้วย และเหตุที่ชื่อว่าวัดเกวียนหัก เพราะครั้งหนึ่งมีพระสงฆ์มาจากพระนครพร้อมกับบันทึกเล่มหนึ่ง ท่านเดินทางมาตามถ้อยความที่บันทึกไว้ เพื่อตามหาร่องรอยของซากสิ่งของในบันทึกคือ เกวียนที่หักตามบันทึกว่าฝังไว้ที่เชิงเขา เป็นเกวียนในกองทัพพระเจ้าตากสิน ที่บรรทุกดินหู หรือดินปืน มาถึงเชิงเขาแล้วเกวียนได้หักจึงฝังเกวียนไว้ที่เชิงเขานั้น

ร่องรอยการพักทัพของกองทัพพระเจ้าตากสินคือ มีการขุดพบพระยอดธงจำนวนหนึ่งที่มากพอสมควร ทำด้วยดิน ต่อมาชำรุดเสียหายเพราะการเก็บรักษาไม่ถูกวิธี และสระน้ำโบราณที่เชื่อกันว่าพระเจ้าตากสินขุดให้กองทัพดื่มและใช้ ซึ่งสระนี้ยังคงอยู่และใช้ประโยชน์มาตั้งแต่โบราณกาล ที่อัศจรรย์คือ มีน้ำตลอดปี ทั้งยังมีร่องรอยของร่องน้ำลึกติดต่อกับทะเล ที่เรือใหญ่สามารถเข้ามาถึงหน้าวัดเกวียนหักได้ ปัจจุบันกลายเป็นคลองเล็กๆที่มีน้ำทะเลไหลเข้ามาได้และอยู่ใกล้สระแห่งนี้

...

ยิ่งวันที่ 17 เม.ย.นี้ เป็นวันพระราชสมภพของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้มีโอกาสรำลึกถึงการต่อสู้เพื่อกู้เอกราชชาติไทยของพระองค์ท่าน คงเป็นบุญไม่น้อย.