ทำ ‘ครุฑยืน’ ชูพระอัจฉริยะในหลวงร.9

นำความรู้สากลสู่คนไทย

เปลี่ยนแปลงจุดรอคิวเข้าถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บนพระ ที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวังวันแรกยังไร้ปัญหา ด้าน “พล.ต.ธานี ฉุยฉาย” เน้นให้ปรับแก้ไปตามสถานการณ์ ขณะที่ประติมากรรมประกอบพระเมรุมาศคืบหน้าไปเยอะ สุดฮือฮาประติมากรรม “ครุฑยืน” ที่ช่างปั้นจัดเต็มทั้งความงดงามแบบไทยผสานความร่วมสมัย แสดงถึงพระอัจฉริยภาพของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงนำองค์ความรู้สากลมาถ่ายทอดให้คนไทย ด้วยการใส่สัญลักษณ์กูเกิล เฟซบุ๊ก แอปเปิล บนตัวครุฑ

ที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ 1 เม.ย.สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้หน่วยงานภาคเอกชน มูลนิธิ สมาคม คณะบุคคลต่างๆ ร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศล พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช อาทิ สโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ และครอบครัว บริษัท ไมโครชิพ เทคโนโลยี (ไทยแลนด์) มูลนิธิมีชัย วีระไวทยะ สถานทูตอเมริกันประจำประเทศไทย สถานเอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำประเทศ ไทย สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ เป็นต้น ทั้งนี้สำนักพระราชวังแจ้งว่า เมื่อวันที่ 31 มี.ค.มีประชาชนเดินทางมาสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช 26,633 คน รวม 149 วัน มี 5,763,076 คน ยอดเงินถวายร่วมบำเพ็ญ พระกุศล 1,986,258 บาท ยอดรวม 476,110,791.01 บาท

ที่ท้องสนามหลวง วันแรกของการเปลี่ยนแปลงจุดรอคิวการเข้าถวายบังคมพระบรมศพ ประชาชนต้องเข้าพื้นที่ทางด้านฝั่งตรงข้ามศาลฎีกา แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ด้านทิศใต้ ได้จัดเตรียมเต็นท์และเก้าอี้นั่งคอยตามแนวทางเดินรอบสนามหลวง หัวแถวอยู่บริเวณฝั่งตรงข้ามวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร ก่อนรอประกาศเรียกไปรอคอยที่เต็นท์หน้ากรมศิลปากร มีเจ้าหน้าที่คอยประชาสัมพันธ์ และสายตรวจวัฒนธรรมตรวจตราเครื่องแต่งกายอยู่ตลอดเส้นทาง ทั้งนี้ พล.ต.ธานี ฉุยฉาย ที่ปรึกษาแม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า ในวันแรกของการเปลี่ยนแปลงเส้นทาง เราก็จะติดตามว่าเกิดปัญหาอะไรบ้างหรือไม่ ก่อนปรับแก้ไปตามสถานการณ์ เบื้องต้น เตรียมเปิดรั้วสนามหลวงฝั่งตรงข้ามวัดพระแก้วหรือที่เป็นบริเวณหัวเกือกม้า ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. เพื่อให้ประชาชนเดินเข้าประตูมณีนพรัตน์ได้อย่างรวดเร็วไม่ต้องเดินอ้อมไกลในช่วงที่มีอากาศร้อน

สำหรับความคืบหน้าการจัดสร้างประติมากรรมประกอบพระเมรุมาศ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายประสพสุข รัตน์ใหม่ หัวหน้าส่วนงานประติมากรรม สำนักช่างสิบหมู่ว่าเหล่าประติมากรชำนาญการ สำนักช่างสิบหมู่ เร่งจัดสร้างประติมากรรมอยู่ที่ส่วนงานประติมากรรม สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ถนนพุทธมณฑลสาย 5 โดยหนึ่งในชิ้นงานประติมากรรมที่ถูกจับตา เนื่องจากมีความสวยงามจากการผสมผสานของความร่วมสมัยกับความวิจิตรอ่อนช้อยในแบบไทยๆ ถูกจัดสร้างใกล้เสร็จสมบูรณ์ คือ ประติมากรรม “ครุฑยืน” ท่าพนมมือ ความสูง 2 เมตร ประดับชั้น 3 พระเมรุมาศ ผลงานของนายพิทักษ์ เฉลิมเล่า ประติมากรรมชำนาญการ ที่ถ่ายทอดพระอัจฉริยภาพของในหลวงรัชกาลที่ 9 จากการที่ทรงนำองค์ความรู้สากลมาถ่ายทอดให้คนไทย ให้ได้นำมาปรับใช้เพื่อให้มีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จนพระอัจริยภาพในโครงการพระราชดำริ ได้รับการยกย่องและยอมรับจากคนทั้งโลก ด้วยสอดแทรก “กิมมิค” หรือลูกเล่น ที่สื่อถึงความร่วมสมัย เช่น อักษรภาษาอังกฤษ ตัว G คล้ายสัญลักษณ์ของกูเกิล ที่ปีกด้านซ้ายของหุ่นปั้นครุฑ อักษรตัว F ลักษณะคล้ายโลโก้ของเฟซบุ๊ก ที่เข็มขัดของครุฑ อยู่ระดับเอว และรูปแอปเปิ้ล คล้ายสัญลักษณ์บนไอโฟน ไอแพด ของสตีฟ จ็อบ บนปีกด้านขวา ทั้งนี้คาดว่าประติมากรรมครุฑยืนจะเสร็จสมบูรณ์ในสัปดาห์หน้า

ด้าน นายเจษฎา ชีวะวิชวาลกุล หัวหน้ากลุ่มงานวิศวกรรม สำนักสถาปัตยกรรม กรมศิลปากร กล่าวถึงความคืบหน้าการก่อสร้างพระเมรุมาศ และอาคารประกอบต่างๆ ว่าพระเมรุมาศมีการวางฐานรากเสร็จ 100 เปอร์เซ็นต์ กำลังต่อชั้นเชิงกอนของบุษบกองค์ประธาน 7 ชั้น และยอดฉัตรเสากลาง ซึ่งกำหนดให้เสร็จก่อนสงกรานต์ และหลังสงกรานต์แล้วจะทำพื้นของพระเมรุมาศทั้งหมด คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนเมษายนนี้ ส่วนงานภูมิสถาปัตยกรรมและภูมิทัศน์ภายในลานพระราชพิธี วางแผนว่าทีมภูมิสถาปัตยกรรมจะเริ่มเข้ามาบดอัดดินได้ในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ จากนั้นจะทำพื้นด้วยการปูตัวหนอน เป็นบล็อกทางเดิน คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการประมาณ 4 เดือนจึงแล้วเสร็จ

นอกจากนี้ ช่วงบ่ายวันเดียวกัน ที่หอศิลป วัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ศิลปินสตรีทอาร์ต และนักศึกษา 5 สถาบัน ได้แก่ มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาลัยช่างศิลป วิทยาลัยเพาะช่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี สถาบันเทคโนโลยีพระ จอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ร่วมกันติดตั้งพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช ขนาด 34x25 เมตร บนผนังอาคารที่สูงขนาดตึก 12 ชั้น ฝั่งตรงข้ามศูนย์การค้ามาบุญครองเซ็นเตอร์ โดยนำกระดาษขนาดใหญ่มาแปะบนผนังกำแพงที่ทาด้วยกาวลาเท็กซ์ ทั้งนี้ นายคเณศ นิ่มวัฒน์ หนึ่งในทีมงาน กล่าวว่า งานครั้งนี้ใช้เทคนิคที่เรียกว่าการแปะ (Wheat pasting) โดยจะทากาวลาเท็กซ์บนกำแพง ก่อนนำกระดาษที่จัดเตรียมไว้ มีความหนา 80 แกรม ขนาดกระดาษเอ 4 มาแปะและใช้กาวลาเท็กซ์ทาเคลือบซ้ำอีกครั้งเพื่อความอยู่คงทน ซึ่งทดลองแล้วหลายครั้งสามารถทนน้ำเมื่อกรณีฝนตกได้ ใช้เวลาทำประมาณ 10 วัน

ด้านนางลักขณา คุณาวิชยานนท์ ผู้อำนวยการหอศิลปฯ กล่าวว่า กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการภาพเขียนผนังอาคาร จัดขึ้นเพื่อน้อมรำลึกถึงพระอัจฉริยภาพของในหลวงรัชกาลที่ 9 ในฐานะองค์อัครศิลปิน และพระมหากรุณาธิคุณในฐานะองค์อุปถัมภ์งานด้านศิลปวัฒนธรรมไทย โดยก่อนหน้านี้ได้มีศิลปินรุ่นใหม่ร่วมวาดภาพตัวการ์ตูนต่างๆบนกำแพงหอศิลป์เสร็จแล้ว เมื่อการดำเนินงานทั้งหมดเสร็จสิ้น แล้วมองภาพทั้งหมด จะเห็นเหล่าตัวการ์ตูน หันหน้ามาทางฝั่งจัดแสดงพระบรมสาทิสลักษณ์ ในท่าทางแสดงความอาลัยต่อการสวรรคต ซึ่งย่านนี้มาก มายไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติ พวกเขาจะได้เห็นความ จงรักภักดีที่พสกนิกรไทยมีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9

ขณะที่ตามที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดจำหน่ายแสตมป์ประวัติศาสตร์ที่ยาวที่สุดในโลก ชุด “ฉลองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช” เป็นวันแรก ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนและนักสะสมตราไปรษณียากร มาหาซื้ออย่างต่อเนื่อง เช่น ที่ทำการไปรษณีย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่เปิดจำหน่ายแสตมป์ชุดประวัติศาสตร์ทั้งหมด 2,500 ชุด และกำหนดให้แต่ละคนซื้อได้คนละ 10 ชุด ปรากฏว่ามีคนมารอซื้อแสตมป์ตั้งแต่ยังไม่เปิดทำการ เช่น นายประจักษ์ ทองรัตน์ อายุ 54 ปี ชาวเมืองสุราษฎร์ธานี ที่เปิดเผยว่า มารอคิวตั้งแต่เช้ามืด ต้องการแสตมป์ชุดนี้ไปสะสมและไปฝากญาติพี่น้อง

สำหรับแสตมป์ชุดประวัติศาสตร์ชุดนี้ ออกแบบโดยนายอุดม นิยมธรรม แสตมป์มีความยาว 170 มม. ถือเป็นแสตมป์ดวงยาวที่สุดในโลก และสื่อความหมายถึง 70 ปี หนึ่งเดียวในโลกนับจากที่เคยมีการบันทึกไว้ที่ 162 มม.เมื่อปี 2554 ส่วนราคาแสตมป์ดวงละ 9 บาท ชนิดเต็มแผ่น 5 ดวง ราคา 45 บาท และจำหน่ายแบบซองแยก 18 บาท

ส่วนที่ จ.ระยอง เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่ชายหาดแหลมแม่พิมพ์ อ.แกลง นายวิทยา ชพานนท์ นายอำเภอแกลง เป็นประธานเปิดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดระยอง งาน“ประติมากรรมทรายและอาหารถิ่น@แหลมแม่พิมพ์” ณ บริเวณชายหาดแหลมแม่พิมพ์ ภายในงานจัดให้มีการจัดแสดงประติมากรรมทรายขนาดใหญ่ 5 ชิ้น ที่แสดงถึงสัญลักษณ์ทางการท่องเที่ยวของจังหวัดระยอง ซึ่งจุดเด่นของงานอยู่ที่ประติมากรรมทรายรูปปั้น พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิ พลอดุลยเดช ขนาด 7×10 เมตร เป็นประติมากรรมทรายที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก สร้างสรรค์ผลงานโดยศิลปินชาวไทย “ชนาธิปทีม”