จี้ ศธ.ลงดาบข้าราชการ สพฐ.-สอศ.-สช. ชี้คนผิดต้องถูกลงโทษทั้งหมด
นายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะประธานกรรมการสอบสวนบุคคลเกี่ยวข้องกับความไม่โปร่งใสในการดำเนินโครงการต่างๆ ในสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการสอบสวนว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าไปค่อนข้างมากแล้ว ล่าสุดกรรมการสอบสวนฯได้เสนอให้สอบสวนวินัยร้ายแรงอดีตเจ้าหน้าที่ สกสค.ระดับผู้อำนวยการเพิ่มเติมอีก 1 คน แม้จะเกษียณฯไปแล้ว จากเดิมที่ตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงไปแล้ว 6 คน รวมเป็น 7 คน ในฐานะเป็นกรรมการบริหารกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการสวัสดิการเงินกู้การฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ซึ่งถูกกล่าวหาฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ในกรณีการอนุมัติซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินจากบริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด โดยมิชอบ จำนวน 3 ครั้ง ในวงเงิน 500 ล้านบาท, 2,100 ล้านบาท และ 400 ล้านบาท ตามลำดับ รวมเป็นเงิน 3,000 ล้านบาท
“อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังทำได้แค่เพียงการตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงเฉพาะเจ้าหน้าที่ใน สกสค.เท่านั้น เพราะอำนาจของกรรมการสอบสวนฯชุดผมจำกัดอยู่แค่ใน สกสค. ยังเหลือกรรมการบริหารกองทุนฯ ช.พ.ค.ที่เป็นข้าราชการและบุคลากรในสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.), สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ที่เข้าข่ายกระทำผิดด้วย แต่ยังไม่ถูกพิจารณาลงโทษแต่อย่างใด” นายอรรถพล กล่าวและว่า ตนเคยเสนอผู้บริหารระดับสูง ศธ.ให้ดำเนินการใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา มาตรา 98 วรรค 5 ที่ระบุว่า นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาล หรือรัฐมนตรีเจ้าสังกัด มีอำนาจแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนได้ ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้าราชการและบุคลากรใน สพฐ., สอศ.และ สช. ที่เป็นกรรมการบริหารกองทุนฯ ช.พ.ค. ซึ่งเข้าข่ายกระทำผิดด้วย โดยรวมเป็นสำนวนคดีเดียวกันทั้งหมด เพื่อให้ผู้ที่กระทำผิดทุกคนต้องได้รับโทษเหมือนกัน แต่เรื่องนี้ยังเงียบอยู่.
...