ช้างพังหายจากเมืองกระบี่ 14 ปี พบอีกทีอยู่ปางช้างในภูเก็ต ขอญาติทหารเรือช่วยตามคืน หวังพากลับบ้านเกิด สุดท้ายเจ้าของปางไม่ยอม อ้างมีตั๋วรูปพรรณเช่นกันแต่ต่างที่เลขไมโครชิปที่ไม่ตรงกัน ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง...
เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 23 มี.ค.ที่ สภ.ฉลอง จ.ภูเก็ต นาวาโทสุรศักดิ์ อินทร์พรม นายทหารส่งกำลังบำรุง ฐานทัพเรือพังงา ทัพเรือภาคที่ 3 นำกำลังทหารเรือพร้อมด้วยเจ้าของช้างพังที่ชื่อว่า 'โย' ที่ถูกคนร้ายขโมยมาจากพื้นที่ จ.กระบี่ เมื่อ 14 ปีก่อน เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน หลังสืบทราบว่าช้างพังดังกล่าวอยู่ที่ปางช้างแห่งหนึ่งใน ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต จากนั้นได้นำกำลังไปตรวจสอบที่ปางช้างดังกล่าว โดยได้มีการประสานกับเจ้าของปางไว้ล่วงหน้าแล้ว เบื้องต้นเจ้าของปางให้ความร่วมมือในการตรวจสอบเป็นอย่างดี
นายสมศักดิ์ เรียงเงิน อายุ 35 ปี ควาญ-เจ้าของช้างพังโย กล่าวว่า ช้างพังโยจดตั๋วรูปพรรณช้างเมื่อเดือน ก.ค.2544 ที่ จ.สุรินทร์ ต่อมาได้นำช้างมาทำงานกับปางช้างในพื้นที่ จ.ภูเก็ต-พังงา และในปี 2546 ได้นำช้างพังโยไปทำงานที่ปางช้างแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.กระบี่ โดยในขณะนั้นช้างพังโยกำลังตั้งท้อง หลังเสร็จงานประจำวันได้นำไปผูกไว้ในป่าใกล้ๆกับปางช้าง รุ่งเช้ากลับไม่พบช้างพังโยแล้ว พบเพียงรอยยางรถเข้ามาจอดบริเวณที่ผูกช้างไว้ และได้ติดตามช้างโยมาตลอด 14 ปี จนล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีพลเมืองดีส่งภาพช้างพังโยมา เพื่อตรวจสอบตำหนิรูปพรรณว่าใช่หรือไม่ จากภาพแน่ชัดว่าเป็นช้างพังโย จึงเดินทางมายัง สภ.ฉลอง เพื่อขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจขอไปตรวจสอบช้างที่ปางดังกล่าว
เจ้าของช้างพังโย กล่าวต่อว่า เมื่อไปถึง ปางช้างดังกล่าวก็พบช้างที่ปรากฏอยู่ข้างหน้าของตนเอง และมั่นใจเป็นช้างพังโยอย่างแน่นอน แต่เจ้าของปางช้างได้นำตั๋วรูปพรรณช้างมาแสดงเช่นกัน โดยรายละเอียดการจดแจ้งไม่ตรงกันกับตั๋วรูปพรรณที่ตนเองมีอยู่ จึงปรึกษาญาติที่เป็นนายทหารเรือ สังกัดทัพเรือภาคที่ 2 เพื่อประสานมายังนายทหารเรือ ฐานทัพเรือพังงา ทัพเรือภาคที่ 3 ซึ่ง จ.ภูเก็ตอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อค้นหาข้อเท็จจริง
...
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า จากที่ได้เข้าไปตรวจสอบสารบบช้างที่สำนักงานปศุสัตว์ จ.ภูเก็ต ปรากฏว่า พังโยมีหมายเลขไมโครชิปเลขที่ 121-675-455 ตรงกับตั๋วรูปพรรณที่ตนเองมีอยู่ ขณะที่ตั๋วรูปพรรณช้างที่เจ้าของปางใน ต.ฉลองถืออยู่ เป็นชื่อ พังน้ำเพชร รูปพรรณเหมือนกัน แต่หมายเลขไมโครชิปไม่ตรงกัน โดยส่วนตัวไม่ติดใจเอาความ แค่ได้ช้างคืนกลับบ้านก็ดีใจมากแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการอย่างไรต่อไป โดยจะขอรับพังโยกลับบ้านที่ จ.สุรินทร์ในค่ำคืนนี้เลย และขอขอบคุณนาวาโทสุรศักดิ์ อินทร์พรม นายทหารส่งกำลังบำรุง ฐานทัพเรือพังงา ทัพเรือภาคที่ 3 ที่นำกำลังทหารเรือร่วมเข้าตรวจสอบ จนสามารถพบพังโยในที่สุด
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นเจ้าของปางช้างได้นำตั๋วรูปพรรณมาแสดงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเช่นกัน พร้อมกับยืนยันช้างเชือกดังกล่าวเป็นช้างพังน้ำเพชร ไม่ใช่พังโยตามที่นายสมศักดิ์กล่าวถึง จึงไม่สามารถตกลงกันได้ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียดอีกครั้งจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันที่ 24 มี.ค.ทำให้นายสมศักดิ์ไม่สามารถนำช้างกลับ จ.สุรินทร์ได้ตามที่ตั้งใจไว้