พบอุปสรรคในการค้นหา แหม่มรัสเซียที่หายตัวไปจากเกาะเต่า เนื่องจากคลื่นทะเลลมแรง ขณะที่ผู้การฯ สุราษฎร์ฯ ให้รอเพื่อนชายสาวนักดำน้ำผู้นี้กลับไทย เพื่อสอบหาเบาะแสเพิ่ม...
กรณีนักท่องเที่ยวสาวชาวรัสเซียวัย 23 ปี เดินทางมาเที่ยวเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี แล้วขาดการติดต่อสูญหายไปอย่างไร้ร่องรอย ขณะเข้าพักโรงแรมเกาะเต่าโฮสเทล ตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา ตำรวจต้องระดมทีมสืบสวน และประสานขอความช่วยเหลือจากหลายหน่วยงาน ทั้งทหารเรือจากกองทัพเรือภาค 1 และภาค 2 ตำรวจน้ำ ตำรวจท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่กู้ภัย และทีมนักประดาน้ำทั้งไทยและเทศ ช่วยกันระดมค้นหา หลังรับแจ้งคนหายตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา แต่การค้นหายังไม่มีวี่แววว่าจะพบเบาะแส มีเพียงเบาะแสเรื่องอุปกรณ์ดำน้ำที่หายไป รวมถึงภาพจากกล้องวงจรปิด บ่งชี้ไปที่การดำน้ำแล้วสูญหายไปนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 9 มี.ค. พ.ต.ท.โชคชัย สุทธิเมฆ สวญ.สภ.ย่อยเกาะเต่า อ.เกาะพะงัน เรียกประชุมทีมค้นหาทั้งหมดอีกครั้งที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลเกาะเต่า เพื่อสรุปความคืบหน้า โดยที่ประชุมแจ้งผลการค้นหาทั้งทางบกและทางน้ำ ยังไม่พบร่องรอยของ น.ส.วาเลนติน่า โนวาชฮาโยโนว่า นักท่องเที่ยวสาวชาวรัสเซีย ซึ่งเบื้องต้นยังไม่ฟันธงว่าเสียชีวิตแล้วหรือไม่ หรืออาจจะเดินทางออกไปจากเกาะเต่า เพื่อไปเที่ยวสถานที่อื่น อย่างไรก็ตามทีมนักประดาน้ำยังคงจัดชุดดำน้ำออกไปดำน้ำค้นหาอีกครั้ง บริเวณอ่าวโฉลกบ้านเก่า ซึ่งเป็นจุดที่คาดว่า น.ส.วาเลนติน่า ออกไปดำน้ำแล้วหายไป แต่เพิ่มพื้นที่การค้นหาออกให้กว้างกว่าเดิม อย่างไรก็ตามยังพบอุปสรรคในการค้นหา เนื่องจากคลื่นในทะเลเริ่มมีกำลังแรง การดำน้ำค้นหาเริ่มทำได้ลำบากมากขึ้น ในส่วนของเบาะแสที่ได้เพิ่มเติมมาว่า มีผู้พบเห็น น.ส.วาเลนติน่า ไปรับเพื่อนชายชาวรัสเซียบริเวณท่าเรือเกาะเต่า
...
พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ประเด็นนี้ตนได้สั่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนไปประสานของภาพจากกล้องวงจรปิดของบริษัทเรือทั้งหมดมาตรวจสอบ แต่ภาพในช่วงวันที่ 13-15 ก.พ. ก่อนจะหายตัวไปนั้น ไม่มีไฟล์บันทึกไว้แล้ว เนื่องจากระยะเวลานานเกินความจุของหน่วยความจำกล้อง อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้ตัดประเด็นนี้ทิ้ง ยังคงให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาภาพช่วงเวลาดังกล่าวให้ได้ เพื่อจะได้ทราบว่าเป็น น.ส.วาเลนติน่า จริงหรือไม่ หากใช่ก็ต้องรู้ว่าเพื่อนชายที่มารับเป็นใคร
ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี กล่าวต่อว่า ในส่วนของรองเท้าแตะ 1 ข้าง ที่พบที่ริมหาด และสงสัยว่าจะเป็นของ น.ส.วาเลนติน่า ตนสั่งให้พนักงานสอบสวนส่งให้ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 นำมาตรวจสอบแล้ว แต่การจะเก็บดีเอ็นเอจากรองเท้าคงทำได้ยาก เนื่องจากรองเท้าถูกทิ้งไว้นาน อย่างไรก็ตาม ต้องถ่ายภาพและส่งให้ญาติของ น.ส.วาเลนติน่า ดูอีกครั้ง เพื่อยืนยันว่าใช่หรือไม่ ในส่วนของเพื่อนชายชาวต่างชาติที่เป็นบัดดี้ดำน้ำของ น.ส.วาเลนติน่า ตอนนี้ติดต่อได้แล้ว ทราบว่าเป็นนักดำน้ำอยู่ประจำที่เกาะเต่า แต่ขณะนี้กำลังเดินทางไปเที่ยวอยู่ต่างประเทศ จะเดินทางกลับมาเกาะเต่าอีกประมาณ 1 สัปดาห์ ซึ่งจะให้พนักงานสอบสวนเชิญตัวมาสอบปากคำ เพื่อหาเบาะแสเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตามในการค้นหานั้น ทางตำรวจยังไม่ยุติการค้นหา ยังคงระดมทีมค้นหาอย่างต่อเนื่องทุกวันจนกว่าจะเจอร่องรอยที่บ่งชี้ได้ว่า น.ส.วาเลนติน่า หายตัวไปครั้งสุดท้ายเพราะเรื่องอะไร และได้ประสานทางตำรวจน้ำให้ช่วยออกลาดตระเวนค้นหาในเขตทะเลที่ไกลออกไปจากเกาะ.