ผู้การมาเอง นำตัวผู้ต้องหาร่วมทำร้าย กรรโชกทรัพย์ ผัวเมียรัสเซียบนเกาะพะงันไปทำแผน เผย ‘ดาบเจี๊ยบ’ ตำรวจนอกรีตที่ร่วมแก๊งและยังหลบหนี ถูกสั่งย้ายออกนอกพื้นที่ไปแล้ว ยังอุตส่าห์ลาพักร้อน กลับมาร่วมกับพวกก่อเหตุ...
จากคดี 2 สามีภรรยา นักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ที่เดินทางมาเที่ยวเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะพะงัน ว่าถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ 4 คนร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจยศ ด.ต. 1 นาย ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ และทำร้ายร่างกาย ก่อนพาตัวไปปล่อยทิ้งไว้ริมถนนเส้นทางไปอ่าวท้องนายปาน หมู่ 5 ต.บ้านใต้ อ.เกาะพะงัน โดยเหตุดังกล่าวเกิดบริเวณบ้านหาดริ้น หมู่ 6 ต.บ้านใต้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.ภ.จ.สุราษฎร์ธานี ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.เกาะพะงัน สืบจนรู้ตัวคนร้าย และขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหา 5 คน และสามารถติดตามตัวมาดำเนินคดีได้แล้ว 4 ยังหลบหนีอีก 1 คือ ด.ต.สุริยันต์ รัญจวน หรือ "ดาบเจี๊ยบ"
ล่าสุดวันที่ 2 มี.ค. พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จ.สุราษฎร์ธานี เดินทางมายัง สภ.เกาะพะงัน เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี โดยมีกลุ่มผู้ประกอบการในพื้นที่เกาะพะงัน ในนามสมาคมโรงแรมและการท่องเที่ยวเกาะพะงัน มอบช่อดอกไม้แสดงความขอบคุณ รวมทั้งผู้เสียหายทั้ง 2 รายคือ น.ส.อีคาเทอรีน่า โลบานอฟ อายุ 35 ปี และนายอันทอน โลบานอฟ อายุ 36 ปี 2 สามีภรรยาชาวรัสเซีย นำช่อดอกไม้มอบให้ พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณที่ตำรวจเร่งดำเนินการติดตามตัวคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว
จากนั้นเจ้าหน้าที่ นปพ.คุมตัว 3 ผู้ต้องหา ประกอบด้วย นายอภิเดช หรือแหลม คงมั่น อายุ 31 ปี นายทวีสิน หรือนก คงนาค อายุ 34 ปี และนายสุริยา หรือขวิด เรืองทอง อายุ 47 ปี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ 3 จุด เริ่มจากจุดเกิดเหตุบริเวณชุมชนบ้านหาดริ้น หมู่ 6 ต.บ้านใต้ จุดแรกที่ผู้เสียหายพบกับกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ซึ่งผู้ต้องหาให้การว่าเป็นจุดที่มาเสนอขายยาเสพติดปลอมให้กับผู้เสียหาย และบังคับพาผู้เสียหายขึ้นรถปิกอัพยี่ห้อเชฟโรเลตสี่ประตู สีดำ ทะเบียน บล 2101 สุราษฎร์ธานี เป็นรถของนายสุริยา เดินทางออกไปจากจุดเกิดเหตุไปยังจุดที่ 2 เป็นริมถนนเส้นทางบ้านใต้-ท้องนายปาน บ้านท้องนาง หมู่ 5 ต.บ้านใต้ จุดที่ผู้ต้องหาพา 2 นักท่องเที่ยวมาปล่อยทิ้งไว้ ก่อนไปยังจุดที่ 3 บริเวณริมสะพานบ้านค่าย หมู่ 6 ต.บ้านใต้ เพื่อนำเอากระเป๋าที่ยึดมาจากผู้เสียหายไปทิ้งไว้ในคลองริมสะพาน ส่วนผู้ต้องหาอีก 1 รายคือนายธานินท์ หรืออ๊อด ศรีแก้ว อายุ 46 ปี ยังให้การปฏิเสธ เจ้าหน้าที่จึงไม่คุมตัวมาทำแผน
...
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของกลุ่มผู้ต้องหา 4 รายที่ถูกคุมตัวในขณะนี้ จากการตรวจสอบประวัติ และสอบถามจากผู้ประกอบการสถานบันเทิงในพื้นที่พบว่า มีบางรายเคยต้องโทษในคดียาเสพติด และคดีพยายามฆ่า โดยหลังพ้นโทษออกมา ก็ออกมาก่อเหตุกรรโชกทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหลายครั้ง แต่ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวต่างชาติ ไม่กล้าที่จะแจ้งความดำเนินคดี เนื่องจากเกรงกลัวอิทธิพล บางรายเดินทางกลับประเทศ จึงไม่มีการแจ้งความดำเนินคดี ทำให้กลุ่มผู้ต้องหา ร่วมกับเจ้าหน้าที่บางคนร่วมกันก่อเหตุในลักษณะนี้มาหลายครั้ง โดยเฉพาะ ด.ต.สายันต์ ที่ก่อนหน้านี้ถูกคำสั่งย้ายไปช่วยราชการ สภ.ดอนสัก เนื่องจากมีการร้องเรียนถึงพฤติกรรมในลักษณะดังกล่าว
พล.ต.ต.อภิชาติ กล่าวว่า สำหรับผู้ต้องหาอีก 1 คนที่ยังหลบหนี คือ ด.ต.สายันต์ ซึ่งเป็นตำรวจประจำ สภ.เกาะพะงัน นั้น ตอนนี้ตนได้สั่งการให้ พ.ต.อ.อนุชน ชามาตย์ รอง ผบก. นำทีมชุดสืบสวนของ บก.ภ.จ.สุราษฎร์ธานี ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.เกาะพะงัน ออกไปติดตามตัว โดยให้ติดต่อไปยังญาติพี่น้องของ ด.ต.สายันต์ ให้ติดต่อเพื่อขอเข้ามอบตัว เบื้องต้นทราบเบาะแสแล้วว่าหลบหนีไปอยู่ที่ใด
ทั้งนี้ ด.ต.สายันต์ ก่อนนี้มีรายงานเรื่องพฤติกรรมในลักษณะนี้ จึงสั่งการให้ย้ายไปช่วยราชการที่ สภ.ดอนสัก แต่ขอลาพักร้อน 10 วัน และกลับเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่อีก ทำให้เสื่อมเสียภาพลักษณ์ของประเทศ และภาพลักษณ์ของตำรวจ ภ.จว.สุราษฎร์ธานี รวมไปถึงนโยบายของ สตช. ตนจึงสั่งให้ติดตามตัวให้ได้ และดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด
"ที่ผ่านมาอาจจะมีบ้างที่มีตำรวจที่ประพฤติตัวนอกแถว แต่ยืนยันว่าตำรวจ จ.สุราษฎร์ธานี เกือบ 100% ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด ซึ่งหากมีใครประพฤติตัวนอกแถว ก็จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด ไม่มีการละเว้นอย่างแน่นอน ส่วนปัญหายาเสพติดในพื้นที่ ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหามีพฤติกรรมนำยาเสพติดไปขายให้กับนักท่องเที่ยวตามสถานบันเทิงในพื้นที่ท่องเที่ยวนั้น ได้กำชับทุกพื้นที่แล้ว ให้กวดขันให้หนักขึ้น เพราะการขู่กรรโชกทรัพย์นักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่วนมากจะมีต้นเหตุมาจากยาเสพติด ที่ผ่านมาตำรวจพยายามกวดขันอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว" ผบก.ภ.สุราษฎร์ธานี กล่าว.