อุทยานฯ พีพี ของบจากกรมอุทยานแห่งชาติ เกือบ 120 ล้านบาท นำมาพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว หลังจัดเก็บไปกว่า 500 ล้าน ในปีที่ผ่านมา ด้านผู้ประกอบการไม่สนผลสรุป ยืนกรานให้นักท่องเที่ยวจ่ายแค่ครึ่งราคา
เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 60 จากกรณีมีกลุ่มชาวเรือนำเที่ยวใน ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ มีการประท้วงอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ให้ลดค่าธรรมเนียมการจัดเก็บค่าเข้าไปท่องเที่ยวภายในเขตอุทยานตามเกาะต่างๆ เนื่องจากประสบปัญหานักท่องเที่ยวลดลง หลังจาก นายศรายุทธ ตันเถียร หัวหน้าอุทยานฯ คนปัจจุบัน ย้ายมารับตำแหน่ง และดำเนินการตามนโยบายอย่างจริงจังเป็นเวลากว่า 1 ปี 8 เดือน ส่งผลให้การจัดเก็บค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานจากปีละไม่ถึง 100 ล้านบาท เพิ่มเป็นกว่า 500 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา และอีกกว่า 200 ล้านบาทในปี 2560 ทั้งที่อัตราดังกล่าวมีการประกาศใช้ตั้งแต่ปี 2550
ขณะที่ การเข้ามาของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยในปี 2558 มีนักท่องเที่ยวเข้าเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จำนวน 335,470 คน ปี 2559 เพิ่มเป็น 1,739,571 คน และในปี 2560 ยอดสิ้นสุดเดือน ก.พ. มีนักท่องเที่ยวแล้ว 682,839 คน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมากว่า 20,000 คน ต่อมามีการวิจารณ์กันอย่างมากว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากการจัดเก็บรายได้หรือนักท่องเที่ยวลดลง แต่เกิดจากจำนวนเรือที่มีเพิ่มมากขึ้น จากที่มาขออนุญาตเข้าอุทยานเมื่อปี 2558 อยู่ที่ 92 ลำ ปี 2559 ขออนุญาตอีก 1,531 ลำ และปี 2560 ขอเพิ่มอีก 248 ลำ รวมมีเรือนำเที่ยวที่เข้าเขตอุทยานกว่า 1,871 ลำ ซึ่งมีจำนวนมากเกินไป และมีการตัดราคาขายระหว่างเรือหางยาวกับเรือสปีดโบ๊ตที่ราคาไม่แตกต่างกันมาก
ส่วนกรณีเงินรายได้จากการจัดเก็บนั้น สอบถามทางอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ได้รับแจ้งว่า หลังจากปี 2559 ได้จัดเก็บเงินรายได้เข้ากรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ไปกว่า 559 ล้านบาท ทางอุทยานได้เสนอของบประมาณเพื่อนำมาพัฒนาในเขตอุทยาน และได้รับการอนุมัติแล้ว 32 โครงการ รวม 128 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการนำมาก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวและผู้มาใช้บริการ เช่น ห้องน้ำ บ้านพักเจ้าหน้าที่ตามเกาะต่างๆ ทั้ง เกาะปอดะ ทะเลแหวก เกาะไผ่ และอ่าวมาหยา จัดซื้อเรือประเภทต่างๆ ในการปฏิบัติงาน รวมทั้งการวางทุ่นทั้งจุดเล่นน้ำ ผูกเรือ ห้ามเข้า และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ ขณะนี้ บางโครงการเริ่มดำเนินการแล้ว และจะเสร็จสิ้นทั้ง 32 โครงการในปีงบประมาณ 2560 นอกจากนั้น ทางอุทยานยังได้จัดทำโครงการต่างๆ เพิ่มเติมอีก
...
ด้าน นายธีระศักดิ์ ขนานใต้ กำนันตำบลอ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ เปิดเผยว่า แม้ว่าหลังจาก 20 วัน ตามระยะเวลาที่กำหนดให้กรมอุทยานแห่งชาติฯ พิจารณา ผลจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งคาดว่าจะไม่ได้รับการแก้ปัญหา ทางผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวก็จะใช้มาตรการอารยะขัดขืน โดยให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจ่ายค่าธรรมเนียมค่าเข้าพื้นที่อุทยานรายละ 200 บาท เพราะผู้ประกอบการได้รับความเดือดร้อนมานานจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะต้องการไปท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลลดลง เนื่องจากค่าธรรมเนียมมีราคาสูง.