เหตุชุลมุนพระล็อกคอจนท.สาว ธรรมกายระดมพลทางโซเชียลสู้ ดีเอสไอให้‘ธัมมชโย’รายงานตัว

ศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายฮึดสู้ เร่งเร้าระดมกำลังทางโลกโซเชียล ก่อนรวมพลยึดพื้นที่ประตู 5-6 ทางเข้าวัดได้ เกิดเหตุชุลมุนนานกว่า 20 นาที มีทั้งพระล็อกคอเจ้าหน้าที่หญิงของดีเอสไอ นักข่าวถูกตบกล้องกระจายเกลื่อน ขณะที่ ผบ.ตร.สั่งการด่วนส่งเพิ่มกำลังสนับสนุนอีก 13 กองร้อย พระลูกวัดออกมาแฉ “ธัมมชโย” ยังติ๊ดชึ่งรอบวัด อาพาธหนักทำให้หนีไปไหนได้ไม่ไกล ผู้บริหารวัดเตรียมแผนให้เกิดความรุนแรง ส่วนตำรวจเริ่มจับปืน-มีดที่ลูกศิษย์พยายามขนเข้าวัดหลายราย ตกเย็นดีเอสไอออกประกาศให้ “ธัมมชโย” กับพวก รวม 14 รูป มารายงานตัวด่วนที่ บก.ตชด.ภ.1 พร้อมประชุมวางแผนยึดพื้นที่ประตู 5-6 คืน ด้านผลโพลชี้ร้อยละ 82.9 หวั่นมีเหตุปะทะหลังเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สนธิกำลังทหาร ตำรวจ หลายพันนาย เปิดปฏิบัติการปูพรมเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกาย อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 3 วันติด ภายใต้การประกาศใช้ ม.44 ให้พื้นที่วัดเป็นเขตควบคุมพิเศษ แต่ยังไร้วี่แววพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสกิตติมศักดิ์ วัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีร่วมกันฟอกเงินและรับของโจร ท่ามกลางกระแสข่าวเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทุกหน่วยงานที่ร่วมปฏิบัติ นัดประชุมปรับแผนผลักดันผู้ไม่เกี่ยวข้องออกจากวัดเพื่อความสะดวกในการตรวจค้นระลอกใหม่

“ดีเอสไอ” ยังไม่เข้าค้นวันที่สี่

ความคืบหน้าที่ประตู 7 วัดพระธรรมกาย เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 19 ก.พ. พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผอ.ฝ่ายสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกาย เปิดเผยว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ยังไม่ได้ประสานเตรียมเข้าตรวจค้นอีกในวันนี้ ที่ถือเป็นวันที่สี่ คาดต้องรอให้การประชุมหารือของเจ้าหน้าที่แล้วเสร็จ หากมีการประสานมาจะให้ความร่วมมือตามปกติ อยากขอร้องเจ้าหน้าที่อย่าตัดน้ำ-ไฟภายในวัด เพราะตอนนี้ทั้งพระ เณรและศิษยานุศิษย์ ก็ได้รับความลำบากมากพอแล้ว ส่วนในวันที่ 21-23 ก.พ.จะมีพระสงฆ์จากทั่วประเทศสอบภาษาบาลีที่วัดเขียนเขต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี และวัดอื่นๆใน กทม. อยากขอผ่อนปรนให้พระที่ออกไปสอบสามารถกลับเข้าวัดได้

...

พระลำบากขอรัฐยกเลิก ม.44

“อาตมาขอเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกการใช้ ม.44 เพื่อให้การปฏิบัติศาสนกิจภายในวัดเป็นไปอย่างสะดวก โดยเฉพาะประเด็นการตัดน้ำตัดไฟเป็นเรื่องอ่อนไหวมาก อาจเข้าข่ายขัดขวางการปฏิบัติศาสนกิจของสงฆ์เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ส่วนจำนวนศิษยานุศิษย์ที่อยู่ในวัดนั้น ไม่สามารถระบุได้ว่ามีเท่าใด แต่ลูกศิษย์มีความเป็นห่วง เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่และสุนัขตำรวจเข้ามาที่วัด ทั้งต้องระวังด้วยว่าจะมีมือที่ 3 นำอาวุธสงครามและยาเสพยาเข้ามาในวัด เพื่อสร้างหลักฐานเท็จ” พระสนิทวงศ์กล่าว

เตรียมคัดกรองคนออกจากวัด

ที่ บก.ตชด.ภาค 1 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เวลา 10.00 น. พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.1 เดินทางมาร่วมประชุมกับ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผบช.ภ.1 พร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่สำนักพุทธศาสนาและเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อวางแผนปฏิบัติการตรวจค้นวัดต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ใช้เวลาประชุมนาน 1 ชม. ก่อน พ.ต.อ.ไพสิฐเปิดเผยว่า ประสานให้วัดพระธรรมกายส่งรายชื่อพระในวัดทั้งหมดมาให้เจ้าหน้าที่สำนักพระพุทธศาสนาตรวจสอบใบสุทธิของพระ รวมทั้งตรวจเต็นท์ศิษยานุศิษย์และนำรถขยายเสียงออกประกาศโดยรอบบริเวณวัด เพื่อคัดกรองผู้ไม่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่ก่อนเวลา 15.00 น.เมื่อครบกำหนดเวลายังไม่เดินทางออกจากพื้นที่จะถือว่าเป็นความผิดตาม ม.44 ฐานขัดขวางการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ ส่วนรถที่กีดขวางการจราจรที่ประตูวัดจะถูกยกออกไป

การข่าวไม่ยืนยันเป้าหมาย

“ขณะนี้การข่าวยังไม่สามารถระบุได้ว่า พระธัมมชโยยังอยู่ภายในวัดพระธรรมกายหรือไม่ เนื่องจากภายในวัดมีพื้นที่ซับซ้อน จำเป็นต้องตรวจค้นให้ครบถ้วนก่อน ประสานตำรวจ สตม. และตำรวจสืบสวนทั่วประเทศตรวจสอบพระธัมมชโชหลบหนีออกไปตามจุดชายแดนหรือไม่ ส่วนข้อกังวลเรื่องการตัดน้ำตัดไฟภายในวัด เจ้าหน้าที่มีหลายมาตรการเริ่มจากเบาไปหาหนัก อยู่ระหว่างพิจารณาจะดำเนินการอย่างไรต่อไป” พ.ต.อ.ไพสิฐกล่าว มีรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า หลังแถลงข่าว พ.ต.อ.ไพสิฐ พร้อม พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผบ.สำนักปฏิบัติการคดีพิเศษภาคดีเอสไอ ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของ บก.ตชด. บินสำรวจบรรยากาศโดยรอบวัดพระธรรมกาย เพื่อปรับแผนปฏิบัติการ

ศิษย์วัดเริ่มกระทบกระทั่งตำรวจ

สำหรับความเคลื่อนไหวที่บริเวณประตูทางเข้า-ออกวัดพระธรรมกาย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงสายมีกำลังตำรวจสังกัด บช.ภ.1 นำแผงเหล็กมากั้นปากทางเข้าคลองแอน 1 และคลองแอน 2 ที่สามารถเดินทางเข้าไปยังประตู 5 และ 6 ได้ ทำให้ กลุ่มศิษยานุศิษย์ไม่สามารถเดินทางเข้าไปในวัดได้ เกิดการปะทะคารมกับตำรวจที่เฝ้าประจำจุด เมื่อกลุ่มศิษยานุศิษย์เห็นว่าไม่สามารถฝ่าด่านเข้าไปภายในวัดได้เลยจับกลุ่มนั่งสวดมนต์ทั่วบริเวณ ส่งผลการจราจรติดขัดยาวหลายกิโลเมตร หวุดหวิดที่จะมีเรื่องระหว่างผู้ขับรถผ่านไปมากับกลุ่มศิษยานุศิษย์หลายครั้ง

ตัดโซ่-พังประตู-ตำรวจถอย

กระทั่งเวลา 13.00 น. มีพระสงฆ์และกลุ่มศิษยานุศิษย์ ส่วนใหญ่สวมแว่นกันแดด คาดหน้ากากอนามัย ปิดบังใบหน้ากว่า 1,000 คน รวมตัวมาออกันอยู่ที่หน้าประตู 6 ก่อนดันประตูพร้อมใช้คีมตัดโซ่เหล็กที่ตำรวจคล้องไว้จนสำเร็จ พากันวิ่งกรูข้ามสะพานคลองแอนไปที่ประตู 5 ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ทำให้เกิดการกระทบกระทั่งชุลมุนกับตำรวจที่เฝ้าประจำจุดนานประมาณ 20 นาที หลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.1 เดินทางเข้าเจรจากับพระและกลุ่มลูกศิษย์ที่ยืนเรียงสวดมนต์กันเป็นกำแพงมนุษย์อยู่บนสะพานคลองแอนฝั่งประตู 6 แต่ไม่เป็นผลจึงสั่งให้ตำรวจถอนกำลังออกไปตั้งด่านห่างออกไป 400 ม. ระหว่างนั้น นายรชต มุสิกะบุญเลิศ ช่างภาพสำนักข่าวพีซทีวี ถูกชายสวมหมวกปิดอำพรางใบหน้าปัดกล้องวีดิโอจนตกพื้นเสียหายใช้การไม่ได้ โดยมีสื่อมวลชนบันทึกภาพขณะเกิดเหตุไว้ได้ เตรียมเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.คลองหลวง เพื่อดำเนินคดีชายผู้ก่อเหตุ

สั่งเพิ่มกำลังตรงจุดเสี่ยงปะทะ

พล.ต.ท.ชาญเทพ เผยหลังเหตุการณ์สงบว่า ไม่ต้องการให้เกิดปะทะรุนแรงระหว่างตำรวจกับลูกศิษย์วัด จึงให้เจ้าหน้าที่ถอยร่นออกจากประตู 5 และ 6 ก่อน ยังถือว่าวัดพระธรรมกายก็ยังเป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษตาม ม.44 ส่วนคนที่ตัดโซ่ล็อก
ประตู 6 ถือว่ามีความผิด ถูกบันทึกภาพไว้หมดแล้ว หลังจากนี้จะดำเนินคดีตามคำสั่ง ม.44 ข้อหาขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เตรียมเสริมกำลังตำรวจบริเวณประตู 5 และ 6 เพิ่ม เนื่องจากเป็นจุดที่อ่อนไหว เสี่ยงต่อการปะทะ นอกจากนี้จะมีการประชุมร่วมกับดีเอสไอเวลา 15.00 น. เพื่อวางแผนการเข้าค้นวัดตามเส้นตายที่ดีเอสไอประกาศให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากวัด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลัง พล.ต.ท.ชาญเทพ สั่งตำรวจถอยร่นออกจากประตู 5 และ 6 กลุ่มลูกศิษย์ได้นำรั้วเหล็กสูง 2 เมตร มาปิดทางเข้าประตู 5 ส่วนที่หน้าประตู 6 ได้ขนเต็นท์ออกมากาง จากนั้นกลุ่มลูกศิษยานุศิษย์กว่า 1,000 คน จะนั่งหลบร่มสวดมนต์กันจนเสียงดังระงมทั่วบริเวณ

...

แฉ “ธัมมี่” ติ๊ดชึ่งนอกวัด

เวลาไล่เลี่ยกัน พระอาจารย์ธรรมศักดิ์ จารุธัมโม พระลูกวัดวัดพระธรรมกาย บวชอยู่ที่วัดมา 30 พรรษา ออกมาแถลงข่าวที่ประตู 6 วัดพระธรรมกาย อ้างว่าผู้บริหารวัดไม่รู้เรื่องที่อาตมาออกมาให้ข่าวกับสื่อมวลชนในเรื่องที่พระธัมมชโยหลบหนีออกจากวัดไปเมื่อวันที่ 16 ก.พ. เป็นวันแรกที่ดีเอสไอบุกค้นวัดพระธรรมกาย คาดขณะนี้พระธัมมชโยยังพักอยู่รอบๆวัด เพราะอาพาธหนักไปไหนไกลไม่ได้ ถ้าอยากเจอท่าน ต้องตามหาอุบาสกชื่อนายโค้ก เพราะเป็นผู้ดูแลพระธัมมชโยอย่างใกล้ชิด สาเหตุที่ตัดสินใจเปิดเผยข้อมูลแก่สาธารณชน เพราะอึดอัดนโยบายของผู้บริหารวัดหลังการประชุมเมื่อคืนวันที่ 18 ก.พ.ทั้งๆที่รู้ว่าพระธัมมชโยไม่อยู่วัดแล้ว แต่กลับต้องการให้มีการบุกวัด เพื่อให้เกิดการปะทะบาดเจ็บล้มตาย ก่อนโยนความผิดให้เจ้าหน้าที่รับผิดชอบ ซึ่งพระทุกรูปในวัดยังมีความศรัทธาในตัวหลวงพ่อก็ยอมมรณภาพด้วย ที่ผ่านมาพระลูกวัดส่วนใหญ่ไม่เคยเจอหลวงพ่อ มีแต่พระระดับสูง 5 เสือของวัดเท่านั้นที่เจอ นอกจากนี้ ยังอัดคลิปเสียงการประชุมพระระดับบริหาร เมื่อคืนวันที่ 18 ก.พ.ไว้ด้วย ส่วนเส้นทางหลบหนีหากเจ้าหน้าที่ประสานมาอาตมายินดีพาไปดู หลังออกมาเปิดเผยอาตมาคงต้องออกจากที่นี่ จำพรรษาที่วัดพระธรรมกายไม่ได้แล้ว หลังการแถลงข่าวตำรวจนิมนต์พระอาจารย์ธรรมศักดิ์ไปที่ สภ.คลองหลวง เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มกับพนักงานสอบสวน

จ่อเอาผิดคนปลุกระดม

พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษกดีเอสไอ เปิดเผยว่า ดีเอสไอออกแถลงการณ์ชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีมีข่าวจากโลกโซเชียลเผยแพร่อาจมีการยึดทรัพย์สินของวัด อาทิ รูปเหมือนทองคำหลวงพ่อวัดปากน้ำ ยึดอาคารสถานที่ของวัด นำของผิดกฎหมายใส่ร้ายพระและวัดพระธรรมกาย รวมทั้งจับพระสึกนั้น ขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารของทางราชการและร่วมมือปฏิบัติตามคำสั่งในเขตพื้นที่ควบคุม และแจ้งเตือนไปยังกลุ่มบุคคลทำการปลุกระดมให้มีการขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ให้หยุดการกระทำ มิเช่นนั้นจะมีการดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งนี้ ผู้ใดมีการฝ่าฝืน จะมีความผิดตามคำสั่ง คสช.ที่ 5/2560 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 2,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ ส่วนที่มีพระลูกวัดวัดพระธรรมกาย ให้ข่าวกับสื่อมวลชนว่าพระธัมมชโยหลบอยู่รอบๆวัดนั้น ได้รายงานให้พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ รับทราบแล้ว อยู่ระหว่างพิจารณาสั่งการ

...

แชร์สนั่นภาพพระล็อก จนท.หญิง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกโซเชียลและกลุ่มไลน์ของผู้สื่อข่าวหลายสำนัก แชร์ภาพพระสงฆ์วัดพระธรรมกาย 2 รูป พระรูปแรกใส่หน้ากากอนามัยสีขาว ส่วนพระอีกรูปใส่หน้ากากอนามัยสีเหลือง โดยพระรูปที่ใส่หน้ากากอนามัยสีขาวใช้มือข้างขวาล็อกคอ น.ส.สุดารัตน์ แกล้วเกษตรกรณ์ จนท.ส่วนช่วยบริหารอำนวยการและประชาสัมพันธ์ สำนักบริหารกลาง ดีเอสไอ ส่วนมือซ้ายพยายามยื้อแย่งกล้องวีดิโอจากมือเพื่อไม่ให้ถ่ายภาพ เหตุเกิดบริเวณถนนหน้าอาคาร 100 ปี คุณยายอาจารย์ พื้นที่โซนบี ต่อมาเจ้าตัวเดินทางไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.คลองหลวง

ศิษย์วัดปลุกกระแสสู้ทางโซเชียล

ขณะที่ในกลุ่มไลน์ “News วัดพระธรรมกาย” และเพจเฟซบุ๊ก “Thai Monks” มีใจความ “ด่วน ยืนยันแล้ว ทางคณะสงฆ์ทั้งภาคพื้นเอเชียและทั่วโลก ขานรับการขอความช่วยเหลือจากวัดพระธรรมกาย ประกาศเจตนารมณ์ไม่ยอมรับการประกาศใช้ ม.44 ของ คสช. ที่บังคับขู่เข็ญละเมิดสิทธิ์ต่อพระสงฆ์ชาวพุทธและสงฆ์ทุกนิกาย พร้อมเดินทางเข้าร่วมกดดัน หากมีการใช้กำลังกับวัดพระธรรมกาย เบื้องต้นคณะสงฆ์ทุกภาคของประเทศไทยรับฎีกาเข้าร่วมปฏิบัติการชวนญาติมิตรเข้ากรุงเทพฯ ปทุมธานี ภายใน 48 ชม. ส่วนประชาชนชาวพุทธ 5 แสนคน ในเขตภาคกลาง กดดันเรียกร้องให้ยกเลิก ม.44 กับวัดพระธรรมกาย ภายใน 24 ชม. ชาวพุทธทุกท่าน เวลาที่ท่านรอคอยมาถึงแล้ว

พระ-ฆราวาสโดนหมดถ้าขัดขวาง

ร.ท.สมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีดีเอสไอแถลงขอให้พระภิกษุ สามเณร และประชาชน ที่ไม่ได้มีที่อยู่ในบริเวณวัดพระธรรมกาย ออกจากพื้นที่ภายในเวลา 15.00 น. ของวันที่ 19 ก.พ.ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานในการเข้าตรวจค้นวัดเพื่อตามจับตัวพระธัมมชโย เห็นได้ว่าดีเอสไอพยายามที่จะติดตามหาตัวพระธัมมชโยเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้ภายในอายุความ 15 ปี นับจากวัดเกิดเหตุในปี 52 ตามที่มีการออกหมายจับไว้ ทั้งการตรวจค้นในวัดและพื้นที่ที่มีข้อมูลว่าผู้ต้องหาอาจพำนักอยู่ การที่อธิบดีดีเอสไอใช้มาตรการเหล่านี้ออกมาเพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ลดความเสี่ยงเกิดการปะทะให้มากที่สุด แม้ครั้งนี้ยังตามตัวไม่พบคดีก็ไม่ยุติ อนาคตสามารถขอหมายค้นได้อีกหากพบเบาะแสใหม่ ระหว่างตรวจค้นหากมีการขัดขวางจากพระภิกษุหรือฆราวาส ทั้งหมดต้องอยู่ภายใต้การบังคับใช้กฎหมายเดียวกัน

...

ด่วน ! สั่งเพิ่มกำลัง 13 กองร้อย

มีรายงานเพิ่มเติมว่า ได้มีวิทยุในราชการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจแห่งชาติ จากศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ด่วนที่สุดถึง ผบช.น. ผบช.ภ. 1, 2, 7 และ ผบช.ตชด. เลขที่ 0001 (ศปก.ตร.)/37 ลงวันที่ 19 ก.พ.60 1.อ้างถึงคำสั่ง คสช.ที่ 5/2560 ลงวันที่ 15 ก.พ.60 เรื่องมาตรการให้อำนาจกำหนดพื้นที่ควบคุมพิเศษเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย ให้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นผู้รับผิดชอบในการปฏิบัติในเขตพื้นที่ควบคุมบริเวณพื้นที่วัดพระธรรมกาย โดยมีข้าราชการตำรวจ บช.ภ.1 และ บช.ภ.7 ได้รับมอบหมายให้เข้าปฏิบัติหน้าที่ ตามที่ได้รับการร้องขอจากกรมสอบสวนคดีพิเศษในการสนธิกำลัง หรือสนับสนุนช่วยเหลือในการปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมาย 2. เพื่อให้การดำเนินการในภาพรวมของ ตร.เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตามที่อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษร้องขอและมีประสิทธิภาพ ผบ.ตร.จึงสั่งการให้จัดกำลังสนับสนุนการปฏิบัติเพิ่มเติม โดยให้ ผบช.ภ.2 และ ผบช.ภ.7 จัดกำลังกองร้อยควบคุมฝูงชน หน่วยละ 5 กองร้อย ผบช.น.จัดกำลังกองร้อยควบคุมหญิง 1 กองร้อย ผบช.ตชด. จัดกำลังควบคุมฝูงชน 2 กองร้อย และให้ บก.ตชด.ภาค 1 จัดเตรียมที่พักกำลังและประสานการปฏิบัติในเรื่องการประกอบเลี้ยงหรืออาหารข้าวกล่อง สนับสนุนกองร้อยฝูงชนที่มาปฏิบัติหน้าที่ ให้กำลังกองร้อยควบคุมฝูงชนทั้งหมดไปรายงานตัว พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผบช.ภ.1 วันนี้ 19 ก.พ. ก่อนเวลา 18.00 น. และให้ขึ้นบังคับบัญชากับ ผบช.ภ.1 จนถึงวันที่ 23 ก.พ.60 และให้ ผบ.ร้อยควบคุมฝูงชนดูแลการปฏิบัติตามคำสั่งโดยเคร่งครัด

ห่วงมือที่สาม-จับศิษย์วัดพกปืน

ที่ บก.ตชด.ภ.1 เย็นวันเดียวกัน พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.1 พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ และ พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผบช.ภ.1 ประชุมสั่งระดมกำลังตำรวจจาก บก.ภ.จ.นนทบุรี 2 กองร้อย และ บก.ภ.จ.สมุทรปราการ 2 กองร้อย รวม 600 นาย ไปประจำจุดประตู 5 และ 6 พล.ต.ท.ชาญเทพเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำชับไม่ใช้อาวุธกับปฏิบัติการในครั้งนี้ พร้อมแบ่งส่วนปฏิบัติงานเป็นสองชุด ชุดละ 2 กองร้อย ตั้งแถวดันให้ศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายเข้าไปภายในประตู 5 และ 6 ของ วัดพระธรรมกายและจะอนุญาตให้ออกจากพื้นที่ได้ ขณะนี้กังวลมือที่ 3 จะสร้างสถานการณ์ หลังได้รับรายงานว่า เจ้าหน้าที่จับลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย พกปืนขนาด .22 มม. ได้รอบนอกวัด เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

ขึ้น ฮ.บินสำรวจประตู 5-6

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้น พล.ต.ท.ชาญเทพ พ.ต.อ.ไพสิฐ และ พล.ต.ต.สมบัติได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจพื้นที่วัดพระธรรมกาย โดยเฉพาะประตู 5 และ 6 ที่ถูกพระและกลุ่มศิษยานุศิษย์กว่า 1,000 คน ยึดพื้นที่ โดยใช้เวลาในการบินสำรวจประมาณ 20 นาที ก่อนกลับมาที่ บก.ตชด.ภ.1 จากนั้น พ.ต.อ.ไพสิฐได้เดินไปพบพระเทพรัตนสุธี เจ้าอาวาสวัดเขียนเขต ในฐานะเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ที่เดินทางมาที่ บก.ตชด. โดย พ.ต.อ.ไพสิฐรายงานสถานการณ์ล่าสุดให้พระเทพรัตนสุธี รายงานว่า ขณะนี้มีการปลุกระดมมวลชนกลุ่มศิษยานุศิษย์วัดให้มารวมกันบริเวณประตู 5 และ 6 จำนวนมาก โดยมีพระเป็นแกนนำ ในการปลุกระดม ส่วนการเรียกพระธัมมชโย และพระลูกวัดอีก 13 รูปให้มาพบตามอำนาจ คสช.มาตรา 44 นั้น ได้ให้เจ้าหน้าที่ปิดประกาศรอบๆบริเวณวัดแล้ว โดยเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีได้แนะนำให้ออกหมายเรียกพระทั้ง 14 รูป เป็นเอกสารส่งไปที่วัดพระธรรมกาย หลังจากนั้นค่อยมา ประชุมกันใหม่ที่ บก.ตชด.ภ. 1 เวลา 09.00 น. วันที่ 20 ก.พ.

พบปืน-มีดในรถศิษยานุศิษย์

มีรายงานด้วยว่า ในเฟซบุ๊ก “DSI กรมสอบสวน คดีพิเศษ” ได้ลงรูปภาพการตรวจค้นรถตู้คันหนึ่งพบมีดสปาร์ตาปลายแหลมยาว 1 ฟุต 1 เล่ม และปืนสั้นขนาด .22 พร้อมกระสุนเต็ม 2 แมกกาซีน โดยบรรยายภาพว่า “ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นรถยนต์ของศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย พบปืนและมีด” เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ต.ท.ชาญเทพเผยว่า ได้รับรายงานเจออาวุธในรถตู้ ได้ยึดไว้และให้ตำรวจ สภ.คลองหลวง ดำเนินการตรวจสอบ นอกจากนี้ช่วงบ่ายยังได้รับรายงานว่า มีกลุ่มลูกศิษย์วัดใช้รถแบ็กโฮและค้อนทุบกำแพงวัดช่วงระหว่างประตู 4 และ 5 เป็นรูโหว่ขนาดใหญ่ ก่อนนำมวลชนเข้าไปทางนั้น เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปได้ เพราะโดนมวลชนกดดันออกจากประตู 5 และ 6

เรียกพระ 14 รูปมารายงานตัว

วันเดียวกัน พ.ต.อ.ไพสิฐออกแถลงการณ์ หลังลงนามคำสั่งพนักงานเจ้าหน้าที่ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 5/2560 เรื่อง ให้มารายงานตัวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ อาศัยอำนาจตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ที่ 5/2560 ข้อ 3 (2) (3) และ (8) และข้อ 4 จึงมีคำสั่งเรียกให้บุคคลมารายงานตัวกับอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 1 เลขที่ 61 หมู่ที่ 6 ถนนเลียบคลองห้า ตำบลคลองห้า อำเภอคลองหลวง จ.ปทุมธานี ในวันที่ 19 ก.พ.2560 เวลา 18.00 น. ดังนี้ 1.พระ ธัมมชโย หรือพระเทพญาณมหามุนี (ไชยบูลย์ ธัมมชโย) 2.พระทัตตชีโว หรือเผด็จ ทตฺตชีโว 3.พระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒ 4.พระปลัดสุธรรม สุธมฺโม หรือพระวิเทศภาวนาจารย์ 5.พระครูถวัลศักดิ์ ยติสโก 6.พระครูใบฎีกาอำนวยศักดิ์ มุนิสโก 7.พระครูสังฆรักษ์ อนุรักษ์ โสตฺถิโก หรือพระครูแอ 8.พระสนิทวงศ์ วุฑฺธวํโส 9.พระมหานพพร ปุญฺญชโย 10.พระภาสุระ ทนฺตมโน (ใจวงศ์) 11.พระนพดล สิริวํโส 12.พระมหาบุญชัย จารุทตฺโต 13.พระครูสุวิทย์ สุวิชฺชาโภ และ14.พระแสนพล เทพเทพา หรือสิบเอก แสนพล เทพเทพา ในการนี้ขอให้ท่าน นำเอกสารแสดงตน อาทิ บัตรประจำตัวประชาชน หรือหลักฐานอื่นๆที่ทางราชการออกให้ซึ่งสามารถระบุตัวตนของท่านได้ มาใช้แสดงตนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ด้วย ผู้ใดขัดขวางหรือฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามคำสั่งนี้ มีระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

เตรียมทวงคืนประตู 5-6

พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษกดีเอสไอ กล่าวว่า ได้ออกแถลงการณ์ให้พระทั้ง 14 รูป เข้ามาพบเนื่องจากเชิญมาพูดคุย และอยากให้ไปถ่ายทอดเจตนารมณ์ ไปสื่อสารเรื่องการทำงานของเจ้าหน้าที่ให้เข้าใจ หากไม่มารายงานตัววันนี้จะให้โอกาสออกหมาย เรียกอีกครั้งหนึ่ง ผลจากการใช้เฮลิคอปเตอร์บินตรวจจากมุมสูง พบยังคงมีมวลชนอยู่ภายในวัด และจะมีการตรวจสอบกรณีการทุบกำแพงภายในวัด ส่วนกรณีพระธรรมศักดิ์ พระลูกวัดวัดพระธรรมกายออกมาเผยเส้นทางหลบหนี และกรณีอุบาสกโค้ก คนสนิทพระธัมมมชโยก็ยังไม่ได้รับรายงาน รวมทั้งทางสำนักพุทธศาสนา (พศ.) ได้แจ้งยอดตรวจสอบใบสุทธิพระวัดพระธรรมกายมาแล้ว ขณะนี้การปฏิบัติการเจ้าหน้าที่ยังไม่ยุติ ต้องมีการขอคืนพื้นที่ประตู 5 และ 6 คืน หากปล่อยไว้เกรงว่าเหตุการณ์จะบานปลาย

โพลชี้ร้อยละ 82.90 หวั่นเหตุปะทะ

ขณะที่สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ 1,269 คน ระหว่างวันที่ 14-18 ก.พ.เรื่องประชาชนคิดอย่างไรกรณีคดีพระธัมมชโย หลัง คสช.มีคำสั่งตาม ม.44 ให้วัดพระธรรมกายเป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษ พบร้อยละ 76.44 เป็นคดีสำคัญที่เกี่ยวข้องกับศาสนา ควรดำเนินการด้วยความระมัดระวัง รอบคอบ ร้อยละ 71.32 ขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างยุติธรรมโดยเร็ว และร้อยละ 65.33 อยากทราบข้อเท็จจริง ให้พระธัมมชโยออกมาแถลงข่าว เมื่อถามว่าสิ่งที่ประชาชนเป็นห่วงต่อคดีพระธัมมชโย พบร้อยละ 82.90 หวั่นเกิดการปะทะกัน ร้อยละ 70.73 หวั่นกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศและศาสนา และร้อยละ 62.17 กลัวมีผู้ไม่หวังดีสร้างสถานการณ์ ปล่อยข่าวเพื่อให้เกิดความเสียหาย เมื่อถามว่าจากกรณีนี้ประชาชนคิดว่าจะมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในพระพุทธศาสนาหรือไม่ พบร้อยละ 72.50 เชื่อว่ามีผลกระทบ ส่วนอีกร้อยละ 27.50 เชื่อว่าไม่มีผลกระทบ

สั่งถอนกำลังสถานการณ์ผ่อนคลาย

สำหรับบรรยากาศการเผชิญหน้ากันระหว่างกลุ่มศิษยานุศิษย์ของวัดพระธรรมกายกับกำลังตำรวจ หลังมีกระแสข่าวเจ้าหน้าที่เตรียมเปิดปฏิบัติการยึดคืนพื้นที่บริเวณประตู 5 และ 6 คืนในช่วงค่ำ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการเผชิญหน้ากัน ทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้เปิดเพลง “พระพุทธเจ้า มหาศาสดาโลก” ผ่านเครื่องขยายเสียงให้กับผู้ที่ชุมนุมขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ฟัง พร้อมกล่าวถึงคำสอนของพระพุทธเจ้าเพื่อเตือนสติ ขณะที่ฝ่ายศิษยานุศิษย์ได้พูดปลุกระดมผ่านเครื่องขยายเสียง ให้ยืนหยัดต่อสู้กับผู้ที่จ้องทำลายพระสงฆ์และศาสนา ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างตึงเครียด มีศิษยานุศิษย์ทั้งชายหญิงยืนประจันหน้ากับตำรวจ ด้านหลังมีกลุ่มพระสงฆ์ยืนปักหลักอีกชั้นหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเตรียมปรับระดับมาตรการควบคุมพื้นที่วัดในช่วงคืนนี้ ด้วยการตัดระบบสาธารณูปโภค ทั้งน้ำประปาและไฟฟ้าภายในวัดทั้งหมด แต่ยังไม่มีการบุกเข้าไป ต้องรอประชุมประเมินสถานการณ์อีกครั้งในเช้าวันที่ 20 ก.พ. กระทั่งเวลา 21.10 น. ตำรวจทั้ง 4 กองร้อย ที่ตรึงกำลังเตรียมยึดพื้นที่คืนได้รับคำสั่งให้ถอนกำลังออกไปตั้งจุดคัดกรองคนเข้า-ออกวัด ห่างจากประตู 5 และ 6 ของวัดประมาณ 150 ม. พร้อมอำนวยความสะดวกให้ผู้ที่ต้องการจะออกจากวัดเพียงอย่างเดียว ทำให้สภานการณ์เริ่มคลี่คลาย