สนช.ไฟเขียวออก ก.ม.เสียงข้างมาก 167 ต่อ 3 งดออกเสียง 10 ดัดหลังคนโกงภาษี หากพบจะโดนอ่วม ให้เอาผิดตามกฎหมายมูลฐานการฟอกเงินของ ปปง.
วันที่ 17 ก.พ. เมื่อเวลา 13.30 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มี นายพรเพชร วิชิตชลชัย เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร ที่เกี่ยวกับเรื่องอาชญากรรมภาษีอากรที่มีลักษณะร้ายแรง ให้เป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ที่น่าสนใจ มีในมาตรา 3 บัญญัติว่า กรณีที่ผู้กระทำความผิด หลีกเลี่ยง หรือฉ้อโกงภาษีอากร ตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป หรือส่งจำนวนภาษีอากรที่ขอคืนโดยความเท็จ ฉ้อโกง หรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใดทำนองเดียวกัน ตั้งแต่ 2 ล้านบาทต่อปีภาษีขึ้นไป กระทำเป็นกระบวนการเครือข่ายสร้างธุรกรรมอันเป็นเท็จ หรือปกปิดเงินได้พึงประเมินหรือรายได้ เพื่อหลีกเลี่ยงหรือฉ้อโกงภาษี มีพฤติกรรมปกปิด ซ่อนเร้นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ให้ถือว่าความผิดดังกล่าวเป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วย ปปง.
เมื่ออธิบดีกรมสรรพากร โดยคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองความผิดทางภาษีอากร พบข้อมูลที่เข้าข่ายความผิดมูลฐานตรวจ ให้ส่งข้อมูลให้ปปง.ดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วย ปปง.ต่อไป ภายหลังสมาชิก สนช.อภิปรายสนับสนุนอย่างกว้างขวาง จึงมีมติเสียงข้างมาก 167 ต่อ 3 งดออกเสียง 10 เห็นชอบให้ ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าวประกาศใช้เป็นกฎหมาย ต่อไป