พี่ชาย "ปอป้อ ทรัพย์สิรี แต้รัตนะชัย" นักกีฬาแบดมินตันทีมชาติ ครอบครัวเปิดร้านทองที่อุดรธานี ถูกคนร้ายแฮกเฟซบุ๊ก เปลี่ยนอีเมล เขี่ยแอดมินออก เข้าไปโพสต์ขายทองราคาถูก ให้โอนเงินออนไลน์ แจ้งอย่าหลงเชื่อ...  

เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 60 ที่ ห้างเพชรทองชัยเฉลิมตราดาว เลขที่ 131/5-6 ตลาดหนองบัว ถ.นิตโย ทน.อุดรธานี นายโกศล แต้รัตนะชัย อายุ 28 ปี พี่ชายของนักกีฬาแบดมินตันทีมชาติไทย น.ส.ทรัพย์สิรี หรือ ปอป้อ แต้รัตนะชัย เปิดเผยว่า มีคนร้ายแฮกเฟซบุ๊กกิจการของครอบครัว “ห้างเพชรทองชัยเฉลิมตราดาว” นำไปแก้ไขดัดแปลงชักชวนให้ผู้สนใจซื้อเครื่องเพชร และทองรูปพรรณ โดยให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร แล้วให้มารับสินค้าที่ร้าน หรือจะส่งสินค้าไปให้ โดยที่ตนเองและครอบครัวไม่มีส่วนรู้เห็น ทำให้ได้รับความเสียหาย จึงเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.ศักดา บุญก้อน ร้อยเวร สภ.เมืองอุดรธานี เมื่อวันที่ 31 มกราคม เพื่อดำเนินคดีจนถึงที่สุด

นายโกศล แต้รัตนะชัย เปิดเผยว่า "ห้างเพชรทองชัยเฉลิมตราดาว" เป็นกิจการของครอบครัว เมื่อ 4 ปีก่อนหลังเรียนจบ ตนได้เข้ามารับหน้าที่ดูแลกิจการนี้ และได้จัดแนะนำสินค้าผ่านสังคมออนไลน์ ด้วยเฟซบุ๊กชื่อ ห้างเพชรทองชัยเฉลิมตราดาว เป็นลักษณะของแคตตาล็อกสินค้า ความเคลื่อนไหวของราคา แต่ไม่มีการซื้อขายทางออนไลน์ หากสนใจจะติดต่อกันโดยตรง มีแอดมินดูแลเพจอยู่ 4 คน คือ ตนเอง, น้องชาย, ปอป้อ และตัวร้าน ปัจจุบันผู้สนใจอยู่ในกลุ่มราว 21,700 คน

กระทั่งช่วง 05.00 น. วันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา น้องชายโทรมาแจ้งว่า เขาถูกเอาชื่อออกจากแอดมิน จึงช่วยกันตรวจสอบ รวมทั้งให้เพื่อนๆ ช่วย ในที่สุดทุกคนก็ถูกเอาชื่อออกจากแอดมิน จากนั้นก็มีการแก้ไขข้อมูลในเพจ จากแคตตาล็อกโชว์สินค้า กลายเป็นการขายสินค้าออนไลน์ โดยยังคงหน้าแรกของเพจไว้เป็นภาพของหน้าร้าน และมีชื่อร้านชัดเจน โดยบุคคลที่แฮกเข้ามา ได้เข้ามาแทนแอดมินตัวร้าน จากนั้นก็เปลี่ยนอีเมล ก่อนที่จะเขี่ยแอดมินทุกคนออก

...

นายโกศล แต้รัตนะชัย กล่าวอีกว่า บุคคลที่แฮกเข้ามาแก้ไขข้อมูล เสนอขายสินค้าในราคาต่ำกว่าปกติ เช่น ทองรูปพรรณบาทละ 20,000 บาท จะเสนอขาย 18,900 บาท โดยให้โอนเงินเข้าบัญชีเงินธนาคาร 3 แห่ง คือ ไทยพาณิชย์, กสิกรไทย และ ธ.ก.ส. แล้วให้เลือกรับสินค้า 2 ช่องทาง คือมารับสินค้าที่ร้าน หรือส่งสินค้าไปให้ที่บ้าน ตรวจสอบพบว่าเจ้าของบัญชีอายุไม่ถึง 20 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.ลพบุรี ทั้งหมด นอกจากนี้ยังพบว่ามีร้านทองในจังหวัดทางภาคเหนือ 3 ร้าน ก็ตกเป็นเหยื่อเช่นกัน

"ขณะนี้ยังไม่รู้ว่าลูกค้าตกเป็นเหยื่อไปบ้างหรือยัง เพราะยังไม่มีใครมาขอรับสินค้าจากร้าน อาจจะเป็นเพราะเพจร้านเราไม่เคยขายออนไลน์ แต่ก็เกรงว่าจะมีคนหลงเชื่อ เพราะบุคคลที่แฮกยึดเพจเราไป ยังคงมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอด แม้ว่าเราจะแจ้งความไปแล้ว ล่าสุดเมื่อ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมาก็ยังเคลื่อนไหว ส่วนร้านอื่นที่ตกเป็นเหยื่อ ได้โทรไปคุยด้วย 2 ร้าน ซึ่งเพจเขาปกติมีการขายออนไลน์ มีคนตกเป็นเหยื่อสูญเงินไปแล้ว"

ด้าน พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวมีความผิดชัดเจน ได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานจากผู้เสียหาย และประสานกับฝ่ายสืบสวน รวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ระหว่างนี้ขอฝากสื่อช่วยประชาสัมพันธ์ เกรงจะมีคนตกเป็นเหยื่อ.