สปท.ค้านวิธีปฏิรูประบบสาธารณสุข ปมออกกฎหมายล้วงเงินกองทุน งัดมติงดออกเสียงมากกว่าเห็นด้วย จน กมธ.ยอมถอย ขอแก้ไขก่อนชงใหม่ 30 วัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ม.ค.60 ที่ประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) มีความเห็นชอบร่วมกันให้ถอนรายงานของคณะกรรมาธิการ (กมธ.)ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านสังคม สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ เรื่องการปฏิรูปกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้ได้รับผลกระทบจากการบริการสาธารณสุข และร่าง พ.ร.บ จำนวน 3 ฉบับได้แก่ 1.ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ได้รับผลกระทบจากการบริการสาธารณสุข พ.ศ. .... 2.ร่าง พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (ฉบับที่ ...) พ.ศ. ....และ3. ร่าง พ.ร.บ.ประกันสังคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ตามที่ นายอโณทัย ฤิทธิปัญญาวงศ์ สมาชิก สปท.ในฐานะประธานคณะ กมธ.เสนอต่อที่ประชุม

ทั้งนี้ การถอนรายงานฉบับดังกล่าว สืบเนื่องมาจากกรณีที่สมาชิก สปท.จำนวนมากไม่เห็นด้วยกับเนื้อหาของร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว โดยเฉพาะการตั้งกองทุนคุ้มครองผู้ได้รับผลกระทบจากการบริการสาธารณสุข ที่นำเงินส่วนหนึ่งมาจากกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพราะปัจจุบันโรงพยาบาลจำนวนมาก มีปัญหาเรื่องสถานะทางการเงิน ซึ่งจำเป็นต้องนำเงินของกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มาช่วยอุ้มสถานะทางการเงินของโรงพยาบาลด้วย อีกทั้งยังมีข้อสงสัยว่า เมื่อกรณีที่มีการนำเงินของกองทุนคุ้มครองผู้ได้รับผลกระทบจากการบริการสาธารณสุข ไปจ่ายให้กับผู้เสียหายจากการรับบริการทางการแพทย์แล้ว จะมีการฟ้องร้องแพทย์และพยาบาลโดยตรง เพื่อเรียกค่าเสียหายได้อีกหรือไม่

อย่างไรก็ตาม คณะกมธ.ฯได้ชี้แจง โดยยืนยันว่าข้อเสนอของคณะกมธ.ฯ มาจากการแสดงความคิดเห็น จากตัวแทนสภาวิชาชีพอย่างหลากหลายแล้ว จึงไม่ได้เป็นการคิดขึ้นเองของคณะกมธ.ฯแต่อย่างใด แต่สมาชิก สปท.ท้วงติงว่า กระบวนการจัดการรับฟังความคิดเห็นในเรื่องนี้ ควรทำอย่างรอบด้าน โดยเชิญผู้มีส่วนได้เสียมาให้ข้อมูล และจัดประชุมอย่างเป็นทางการ ไม่ใช่แค่เชิญตัวแทนมาพบคณะกมธ.เท่านั้น จึงเห็นว่าคณะกมธ.ฯควรถอนรายงานออกไปเพื่อไปทบทวนใหม่ แต่คณะกมธ.ฯยืนยันที่จะให้ที่ประชุม สปท.ลงมติในรายงานดังกล่าว

...

ต่อมา น.ส.วลัยรัตน์ ศรีอรุณ รองประธาน สปท.คนที่ 2 ในฐานะประธานการประชุมดำเนินการให้ที่ประชุม สปท.ลงมติว่า จะเห็นชอบกับรายงานฉบับนี้หรือไม่ โดยปรากฏว่าที่ประชุมมติเห็นด้วย 48 เสียง ไม่เห็นด้วย 26 เสียง งดออกเสียง 77 เสียง ผลมติที่ออกมาทำให้สมาชิก สปท.เสนอให้รองประธาน สปท.ตีความว่าในกรณีที่มีคะแนนงดออกเสียงมากกว่าคะแนนเห็นด้วย จะถือว่า สปท.มีมติในเรื่องนี้อย่างไร ทั้งนี้สมาชิก สปท.ได้มีการเสนอให้ลงมติใหม่อีกครั้ง แต่คณะ กมธ.เห็นว่าไม่ต้องลงมติใหม่ เพราะในเมื่อคะแนนเสียงเห็นด้วยมีมากกว่าคะแนนไม่เห็นด้วย ต้องถือว่าที่ประชุม สปท.ได้เห็นด้วยกับรายงานของคณะ กมธ.แล้ว 

สุดท้าย นายอโณทัย จึงได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า จะขอถอนรายงานดังกล่าวไปปรับปรุงตามข้อเสนอของสมาชิก สปท.และนำกลับมาเสนอต่อที่ประชุมใหม่ ภายใน 30 วัน