บรรยากาศงานศพสาวเลยหนึ่งในเหยื่อเหตุรถตู้-ชนปิกอัพที่ชลบุรี 25 ศพ เป็นไปด้วยความเศร้า โดยแม่คนตายระบุ ลูกสาวคนเดียวเป็นหลักของครอบครัว ก็มาด่วนจากไปทิ้งหลานชายไว้ให้เลี้ยง พร้อมอโหสิกรรมให้กับลุงคนขับ...
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 5 ม.ค.60 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 297 หมู่ 1 บ้านห้วยโตก ต.นาโป่ง อ.เมือง จ.เลย บ้านของนางสาวดวงฤทัย วงศ์ศิริวิบูลย์ (น้องแพน) อายุ 21 ปี 1 ใน 25 ศพเหยื่อเคราะห์ร้ายจากเหตุการณ์อุบัติเหตุรถตู้โดยสารชนกับรถกระบะ บนถนนสาย 344 บ้านบึง-แกลง ช่วง ต.หนองชาก อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี เมื่อเวลา 13.45 น. วันที่ 2 ม.ค.2560 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตคาที่ 25 คน ตามข่าวนั้น โดยศพของ น.ส.ดวงฤทัย มาถึงที่บ้านเกิดตอนตี 5
เช้าวันนี้ ภายในงานมีเพียงญาติไม่ถึง 10 คน กำลังช่วยกันจัดงานศพอยู่ โดยทุกคนยังอยู่ในอาการที่เศร้าโศกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนพ่อของผู้เสียชีวิต อยู่ที่กรุงเทพฯ ระหว่างดำเนินการเรื่องเอกสารและด้านคดี
นางทองพิศ มูลศิริ อายุ 60 ปี แม่ของ น.ส.ดวงฤทัย ผู้เสียชีวิต กล่าวทั้งน้ำตานองหน้าว่า ที่บ้านอยู่เพียง 3 คน คือ จ.ส.อ.สุดใจ วงศ์ศิริวิบูลย์ อายุ 70 ปี ผู้เป็นสามี ตนและ ด.ช. ภควัฒน์ วงศ์ศิริวิบูลย์ อายุ 1 ปี 6 เดือน หลาน ลูกชายของ น.ส.ดวงฤทัย วงศ์ศิริวิบูลย์ อายุ 21 ปี น.ส.ดวงฤทัย เป็นลูกคนเดียวของครอบครัว เรียนจบระดับ ม.6 จาก ร.ร.ศรีสะอาด (เทศบาล 1) ต.กุดป่อง อ.เมือง จ.เลย มีสามีแต่ได้เลิกรากันไปแล้ว จึงได้นำ ด.ช.ภควัฒน์ ลูกชายมาให้ตนเลี้ยงที่บ้านเกิดแล้วก็ไปทำงานที่โรงงาน ต.อ้อมน้อย จ.นครปฐม เหตุการณ์อุบัติเหตุนั้นตนทราบจากน้องสาวผู้เป็นน้าของผู้ตายในวันรุ่งขึ้น
มารดาของนางสาวดวงฤทัยกล่าวอีกว่า สำหรับบุตรสาวเป็นคนที่มีอัธยาศัยดี ไมตรีจิตใจดี รักสนุก รักเพื่อน ก่อนเกิดเหตุได้โทรศัพท์มาบอกแม่ว่าไปเที่ยวที่จันทบุรีกับเพื่อน ปีใหม่ไม่ได้กลับบ้านจะกลับช่วงสงกรานต์ มาเยี่ยมพ่อแม่และลูกชายของเขา ช่วงเกิดเหตุเขากำลังเดินทางด้วยรถตู้กลับจากจันทบุรีจะไปบ้านพักที่อ้อมน้อย ส่วนเรื่องคดี หรือเงินประกันช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ ที่จะได้รับการช่วยเหลือแก่ครอบครัวนั้น อยู่ระหว่างการประสานและการดำเนินการของทางราชการกับบริษัทประกันภัย ประกันชีวิต ขณะนี้ พ่อของนางสาวดวงฤทัย อยู่ที่ชลบุรีและที่กรุงเทพฯ ตามเรื่องนี้
...
นางทองพิศ กล่าวด้วยว่า หากจะเรียกร้องนั้นตนอยากได้ลูกสาวกลับคืนมา เพราะเป็นลูกเพียงคนเดียวเป็นหัวเป็นหลักของครอบครัว พ่อแม่อายุมากแล้ว ยังต้องมาดูแลหลานที่อายุน้อยอีกด้วย บ้านอยู่อาศัยลูกสาวเพิ่งมาปรับปรุง มาสร้างให้ใหม่ๆ เสียใจมากที่ต้องมาสูญเสียลูกสาว
ต้องอโหสิกรรมให้กับลุงคนขับเพราะแกก็ไม่ต้องการให้เกิดเหตุ เราก็ไม่ต้องการเช่นนั้น ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุอย่างนี้ เมื่อมันเกิดแล้วก็ต้องมาแก้ไขมาช่วยเหลือผู้ที่ต้องอยู่ต่อไป จะไปคิดว่านำมาชดเชยคงเปรียบเทียบกันไม่ได้กับชีวิตคน 1 คน ที่อายุยังน้อย ยังมีเวลามีอนาคตอีกยาวไกล.