จ่อซ้อมรบ-นายทหารกองทัพเรือรัสเซียแถลงข่าวร่วมกับนายทหารเรือชาวฟิลิปปินส์ในกรุงมะนิลา เมื่อ 3 ม.ค. เกี่ยวกับแผนซ้อมรบร่วมกัน หลังรัสเซียส่งเรือต่อต้านเรือดำน้ำมาเทียบท่า ซึ่งเป็น 1 ในเรือ 2 ลำที่รัสเซียส่งมาหลังผู้นำฟิลิปปินส์ทำตัวออกห่างสหรัฐฯ (เอเอฟพี)

เมื่อ 3 ม.ค. กองทัพเรือรัสเซียส่งเรือ 2 ลำ คือ เรือต่อต้านเรือดำน้ำ “แอดมิรัล ทรีบุตส์” และเรือบรรทุกน้ำมันทางทะเล “บอรีส บูโตมาโต” ไปเยือนกรุงมะนิลา ฟิลิปปินส์ เพื่อแสดงไมตรีจิต หลังประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต ประกาศตีจากสหรัฐฯ พันธมิตรเก่าแก่ หันไปคบค้าสมาคมกับรัสเซียและจีนแทน รวมทั้งอาจสั่งซื้ออาวุธจากทั้ง 2 ประเทศนี้ด้วย นับเป็นครั้งที่ 3 ที่รัสเซียส่งเรือรบไปฟิลิปปินส์ แต่เป็นครั้งแรกในยุครัฐบาลดูเตร์เต

พลเรือตรีเอดูอาร์ด มิไคลอฟ รองผู้บัญชาการกองเรือรัสเซียในภูมิภาคแปซิฟิก เผยว่า ในการเยือนฟิลิปปินส์ 5 วันของเรือทั้ง 2 ลำ ผู้บัญชาการทหารเรือของทั้ง 2 ฝ่ายจะประชุมกันด้วย โดยรัสเซียต้องการร่วมซ้อมปฏิบัติการทางทะเลกับฟิลิปปินส์ เพื่อต่อสู้การก่อการร้ายและโจรสลัด หลังเคยร่วมซ้อมกับกองทัพเรืออินโดนีเซีย อนึ่ง เมื่อเดือนที่แล้ว ดูเตร์เตส่ง รมว.ต่างประเทศและ รมว.กลาโหมไปรัสเซียเพื่อหาลู่ทางซื้ออาวุธจากรัสเซีย หลังวุฒิสมาชิกสหรัฐฯขู่ว่าจะยับยั้งไม่ให้สหรัฐฯขายปืนไรเฟิลจู่โจม 26,000 กระบอกให้ฟิลิปปินส์

วันเดียวกัน จีนยืนยันว่าเรือ “เหลียวหนิง” เรือบรรทุกเครื่องบินรบลำแรกของตนเริ่มซ้อมรบในทะเลจีนใต้เป็นครั้งแรก ร่วมกับฝูงเรือรบและเครื่องบินรบอื่นๆ รวมทั้งเครื่องบินขับไล่ “เจ-15” ซึ่งอาจทำให้ชาติเพื่อนบ้านหลายชาติที่แย่งชิงกรรมสิทธิ์ในทะเลจีนใต้กับจีนวิตกกังวลและทำให้ความตึงเครียดในภูมิภาคนี้ทวีขึ้น

...

ส่วนนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่ ซึ่งจะเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการใน 20 ม.ค. ระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า ตนไม่เชื่อว่าเกาหลีเหนือจะมีศักยภาพสร้างขีปนาวุธยิงข้ามทวีปได้ไกลถึงสหรัฐฯ ทั้งกล่าวพาดพิงถึงจีนควรช่วยควบคุมการเคลื่อนไหวของเกาหลีเหนือ เพราะจีนได้ประโยชน์ทางการค้าจากสหรัฐฯมากมาย แต่ไม่ช่วยสหรัฐฯควบคุมพฤติกรรมของเกาหลีเหนือที่พยายามยั่วยุสหรัฐฯ ท่าทีของนายทรัมป์มีขึ้นหลังรัฐบาลสหรัฐฯแถลงประณามเกาหลีเหนือ กรณีนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ กล่าวสุนทรพจน์ในวันปีใหม่ ระบุเกาหลี เหนือเตรียมพร้อมขั้นสุดท้ายเพื่อทดลองยิงขีปนาวุธข้ามทวีป ซึ่งมีศักยภาพยิงไกลได้ถึงชายฝั่งสหรัฐฯ เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเกาหลีเหนือสามารถต่อกรกับชาติมหาอำนาจศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คาดว่าเกาหลีเหนืออาจทดลองยิงขีปนาวุธในช่วงเวลาถ่ายโอนอำนาจของประธานาธิบดีบารัค โอบามา สู่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ช่วง 20 ม.ค.นี้.